เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
in a night, or in a daymaggie mae
Die in your arms



  •                “เหตุใดท่านจึงต้องเป็นโอลเดนเบิร์กด้วยเล่า..


                เสียงหวาน ไพเราะดั่งดนตรีจากสรวงสวรรค์ของบุตรคนเดียวแห่งตระกูลแฮร์ฟอร์ด ผู้กอบกุมหัวใจของชายหนุ่มใบหน้ารูปสลักนาม เอริค ได้เอ่ยรำพึงรำพันถึงเขาผู้เป็นรักแรกและรักเดียวอยู่ริมระเบียงหินอ่อนสีครีมเสาตื้นที่มีเถาวัลย์เขียวชอุ่มเลื้อยวนพันเกี่ยว ผนวกกับหลังคาทรงซุ้มโค้งเลื่อมทอง ประดับประดาสวยงามด้วยลวดลายอ้อนช้อยตามฉบับยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ 


                บัดนี้ เอริคได้ก้าวเข้ามาเหยียบในสวนของปราสาทหลังงามแห่งตระกูลแฮร์ฟอร์ด ชนชั้นสูงที่มีอิทธิพลในเมืองเวโรน่า ซึ่งเป็นอริกับนามสกุลของเขามาแรมทศวรรษ และเขากับโดโรธีก็มิอาจปฏิเสธได้ว่าทั้งคู่ต่างได้ศัตรูของตระกูลมาครอบครองหัวใจของตนเสียแล้ว


                ข้าอยากให้ท่านละทิ้งบิดา แล้วเปลี่ยนสกุลใหม่เหลือเกิน แต่หากท่านไม่ต้องการจะทำเช่นนั้น ได้โปรดสาบานมาว่ารักข้า แล้วข้าจักเลิกเป็นแฮร์ฟอร์ดด้วยใจภักดี” 


                โดโรธียังคงพร่ำพรรณนาถึงชายผู้เป็นที่รักโดยหารู้ไม่ว่าร่างสูงของชายหนุ่มกำลังปีนป่ายไปตามกิ่งก้านสาขาของต้นโอ๊คใหญ่เพื่อให้ไปถึงระเบียงของคนรัก


                นามท่านเท่านั้นหนอที่นับว่าเป็นอรี ส่วนตัวท่านนี้มิใช่โอลเดนเบิร์ก ท่านก็เป็นท่าน เป็นโอลเดนเบิร์กที่ตรงไหนกันเล่า แม้ที่หัตถ์ ที่บาทา ที่แขนขา หรืออวัยวะใดก็มิใช่ แล้วนามนั้นสำคัญไฉน แม้จะเรียกกุหลาบเป็นชื่อดอกไม้อื่น แต่กลิ่นหอมของมันก็ยังคงจรุงจิตเช่นเดิม แล้วเอริคเล่า ต่อให้ท่านจะชื่อแมคเบธหรือโอเธลโล่ ท่านก็ยังคงเป็นเอริคเสมอ..


                เสียงหวานเอื้อนเอ่ยคำหวานลึกซึ้งที่ทำให้ดวงจิตคนฟังเต้นระส่ำ ดวงเนตรสุกสกาวดั่งมีดาวนับร้อยพันซ่อนอยู่ภายในทอดมองไปไกลสุดลูกหูลูกตาราวกับจะส่งสาส์นไปให้ถึงบุรุษในห้วงความคิด


                “หากท่านกำจัดสกุลซึ่งไม่ได้เป็นส่วนใดของท่านออกไปเสีย ข้าจักยกตนเองให้ท่านเป็นการตอบแทน..” 


     

    Say you love me

    As much as I love you 

    Would you hurt me baby?

    Could you do it to me?


     

                ตกลง ยอดรักของข้า!” ชายหนุ่มตระกูลโอลเดนเบิร์กร้องตอบสุดเสียงพลันยืดกายขึ้นเกาะกิ่งไม้ที่ใกล้กับตัวระเบียงที่สุด เพียงเอ่ยคำรักของเจ้า ข้าจักยอมเกิดใหม่ เปลี่ยนไปใช้สกุลอื่น เพื่อจะได้รักกับเจ้าอย่างไม่มีข้อกังขา” 


     

    Would you lie to me baby?

    Cause the truth hurts so much more

    Would you do the things that drive me crazy?

    Leave my heart still at the door


     

                ร่างบางผงะพลางก้าวขาเรียวถอยหลังหนีด้วยความตกใจ เอ่ยเสียงสั่นเทาร้องถามบุรุษในความมืด  เจ้าเป็นใคร ใยมาแอบมองข้า


                “ข้าไม่รู้จะบอกได้อย่างไรว่าข้าคือใคร ในเมื่อชื่อของข้า ข้าชิงชังเหลือเกิน เพราะมันเป็นศัตรูของเจ้า


                “เอริค ท่านคือเอริคของข้าใช่หรือไม่


                “มิใช่เลยทูนหัว หากเจ้าไม่ประสงค์ให้ข้าใช้นามนี้


                มือแกร่งของชายหนุ่มคว้าเสาระเบียงไว้มั่นแล้วโจนตัวขึ้นนั่งบนตัวระเบียงหินอ่อนอันเย็นเยียบ นัยน์ตาคมจดจ้องดวงหน้าหวานที่งดงามยิ่งกว่าจันทรารับกับตากลมน่ารักรูปปีกนก โอบเอวกลมกลึงให้เข้ามาแนบชิดพลันสูดกลิ่นกรุ่นกายหอมฟุ้งที่เขาโหยหามาตลอดค่ำคืน


                หากข้ารู้ว่าท่านแอบฟังอยู่ที่นี่ด้วยละก็ ข้าคงจะมิกล้าเอ่ยคำพรรค์นั้นออกไปเป็นแน่ ข้าเขินอายเหลือเกิน” แก้มใสขึ้นสีระเรื่อด้วยความกระดากอายในประโยคที่ได้รำพึงรำพันออกไป คำพูดเหล่านั้นที่แสดงว่าเขาอยากจะให้เอริคเอ่ยปฏิญญารักออกมา


                “โดโรธีคนดีของข้า ข้าขอสาบานต่อจันทราที่ส่องแสงงดงามเปล่งประกายต่อหน้าเราสองในราตรีนี้..


                ได้โปรดอย่าอ้างจันทราเป็นพยานเลย ดวงจันทร์นั้นผันแปรไม่แน่นอน แปรเปลี่ยนไปในทุกค่ำคืน ข้าไม่อยากให้ความรักของท่านผันแปรดั่งเช่นดวงจันทร์


                “ถ้าเช่นนั้นข้าขอปฏิญาณด้วยจุมพิตนี้ แม้หากได้จุมพิตเจ้าแล้วต้องตกนรก ข้าก็จะทำ แล้วก็จะไปคุยฟุ้งกับพวกผีปีศาจว่าข้าได้เห็นสวรรค์แล้ว ทั้งที่ยังไม่เคยขึ้นไป


    ชายหนุ่มเปล่งคำรักหวานซึ้ง กอดรัดร่างน้อยให้แน่นขึ้นแล้วตักตวงความหวานจากแก้มเนียนและเรียวปากอิ่มอย่างไม่รู้จักพอ


     

    I can't help it, I'm just selfish

    There's no way that I could share you

    That would break my heart to pieces

    Honestly the truth is..


     

                ดั่งสวรรค์ไม่เป็นใจ เสียงนางนมของโดโรธี แฮร์ฟอร์ด ร้องเรียกคนตัวเล็กให้เข้านอน ร่างบางผละออกจากอ้อมกอดของคนรัก ทาบริมฝีปากอุ่นลงบนใบหน้ารูปสลัก แล้วพาขาเรียววิ่งไปยังประตูห้อง


                เจ้าจะรีบไปไหน ข้ายังไม่อิ่มใจเลยนะโดโรธี


                “ต้องอิ่มใจเท่าไหนกันล่ะ


                “แลกคำสาบานรักกับข้าได้หรือไม่


                “ถ้าเช่นนั้น หากท่านรักข้าด้วยใจจริง และมีใจอยากอยู่กับข้าชั่วนิจนิรันดร์ ข้าจะวิวาห์กับท่าน จงจัดเตรียมพิธี ทั้งสถานที่และวันเวลาให้พร้อม วันพรุ่งนี้ข้าจะรอฟังข่าวจากท่าน


                “รับบัญชาขอรับคุณหนู


     

    If I could just die in your arms,

    I wouldn't mind

    Cause every time you touch me

    I just die in your arms,

    it feels so right

    So baby please don't stop


     

                เอริค ผู้กอบกุมหัวใจของโดโรธีไปทั้งใจ และในเร็ววันนี้ ทั้งสองจะเป็นของกันและกันโดยสมบูรณ์ บุรุษรูปงามตรงหน้าเขา บัดนี้กำลังประคองดวงหน้าพริ้งพรายด้วยความทะนุถนอม แลกจุมพิตกันไม่รู้จบ จวบจนใกล้รุ่งสาง

     



     

                เมื่อแสงอรุณสีชมพูส้มระเรื่อลำแสงดั่งพระเจ้าฉาบพู่กันแต่งแต้มสีสันงดงามลงบนท้องฟ้า เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าราตรีกาลกำลังจางไป และในเช้านี้ เอริคบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้บาทหลวงลอเรนซ์ฟัง ร้องขอให้ท่านช่วยจัดการงานพิธีสมรสของเขาและจีฮุนให้อย่างลับๆ ครั้นนักบุญเคราขาวตอบตกลง ชายหนุ่มจึงส่งคนไปบอกข่าวกับคู่ใจด้วยความยินดี


                ขอความสุขจงมีแด่เจ้า เอริค” บาทหลวงผู้มีศีลในชุดขาวสะอาดตาอวยพรพลางปัดกวาดฝุ่นบนตู้เก็บคัมภีร์ไบเบิ้ล หากเจ้าทั้งสองมีรักแท้ให้แก่กันด้วยใจจริง พ่อก็พร้อมอุปถัมภ์เจ้าด้วยจิตบริสุทธิ์


     



                โบสถ์หลังไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ภายนอกประดับด้วยเสาสูงแบบกรีกผสานโรมัน และซุ้มประตูโค้ง รวมทั้งหอคอยทรงโดมบนสุดของหลังคาโบสถ์ ภายในโอ่โถงด้วยเพดานสูงและภาพวาดวิจิตรตระการตา เป็นเอกลักษณ์บ่งบอกถึงศิลปะยุคเรเนซองส์ได้เป็นอย่างดี แลเต็มไปด้วยม้านั่งตัวยาวสำหรับทำพิธีกรรมทางศาสนาอยู่ในโถงใหญ่นั้น


                เอริคและโดโรธี ได้ยืนข้างกันต่อหน้าพระพักตร์ของพระเยซูเจ้า พระผู้ทรงไถ่บาปให้กับมวลมนุษย์ และในครานี้ โปรดจงช่วยไถ่บาปให้แก่ตระกูลแฮร์ฟอร์ดและตระกูลโอลเดนเบิร์ก ไถ่บาปให้แก่เขาทั้งคู่ ได้โปรดอย่าลงโทษมนุษย์แสนต่ำต้อยผู้ริอาจจะมีรักนิรันดร์แบบเขาทั้งคู่ด้วยเถิด


                อาเมน” 


                เสียงหวานและเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกัน สองสายตาสบประสานอย่างลึกซึ้ง หลังจากบาทหลวงได้ลั่นระฆังวิวาห์ให้แก่คนทั้งสองแล้ว


     

    If there is a reason to call me a fool

    Cause I love too hard

    Are there any rules baby?


     

    เอาล่ะ หลังจากเจ้าทั้งคู่ได้เข้าพิธีวิวาห์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากเจ้าต้องการที่จะหลบหนีออกไปอยู่ด้วยกันที่เมืองแมนทัวอย่างที่ได้วางแผนกันไว้ สิ่งที่จะต้องทำต่อไปก็คือในราตรีนี้ โดโรธีจะต้องดื่มยาสมุนไพรที่พ่อให้ไปให้หมด หัวใจของลูกจะคล้ายกับหยุดเต้นไปชั่วขณะ โลหิตในกายก็คล้ายหยุดไหลเวียน ลูกจะขยับเขยื้อนไม่ได้ทั้งสิ้น แก้มนั้นจะซีดเซียว นัยน์ตาปิดสนิท ร่างกายจะคลับคล้ายกับคนสิ้นใจแล้วมากที่สุด..


    โดโรธีและเอริคเพ่งพินิจใบหน้าแก่ชราและสดับฟังแผนการของบาทหลวงผู้ใจบุญอย่างใจจดใจจ่อ ฝ่ามือต่างขนาดสอดประสานกันอย่างแนบชิด ก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายในกายเต้นถี่ระรัวด้วยความเร่าร้อนใจยิ่งนัก


    คนในบ้านจะเชื่ออย่างสนิทใจว่าลูกไร้ลมหายใจไปแล้ว ครั้นพวกเขาจะนำร่างของลูกไปไว้ที่สุสานของตระกูลพัค จากนั้นเมื่อรุ่งสาง ลูกจะรู้สึกประหนึ่งได้ตื่นจากนิทราอันแสนภิรมย์ และในครานั้นเมื่อลูกลืมตาขึ้น ควานลินจะอยู่ข้างกาย จากนั้นลูกทั้งสองจะได้พากันอพยพไปยังแมนทัว..” เมื่อประโยคสุดท้ายของแผนการจบลง ชายชราผู้ทรงศีลได้เอยถามย้ำอีกครั้ง


    เข้าใจใช่หรือไม่


    เข้าใจครับ


    สองเสียงประสานเป็นหนึ่งเดียว รวมทั้งดวงเนตร ฝ่ามือ และหัวใจด้วยเช่นกัน


     

    If this is a lesson

    Baby teach me to behave

    Just tell me what I gotta do

    Just to stay right next to you


     


     

                ในยามรุ่งอรุณของวันใหม่ เสียงนกลาร์กที่ร้องอย่างสดใส ดั่งหัวใจของโดโรธีที่แม้หยุดเต้น แต่ทั้งจิตวิญญาณของเขาได้มอบให้แก่เอริค บุรุษรูปสลักแห่งโอลเดนเบิร์ก ที่ร่างบางพร้อมมอบทั้งชีวิตให้แก่เขาแล้ว และรุ่งอรุณอันแสนรื่นรมย์นี้ก็เปรียบดั่งชีวิตของคนทั้งคู่ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล


                หยาดน้ำตาที่พรั่งพรู เสียงคร่ำครวญแห่งความโศกเศร้าของวีรบุรุษและอิสตรีตระกูลแฮร์ฟอร์ด ที่ต้องเสียบุตรผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจให้แก่พระเจ้า แม้ประจักษ์ได้ว่าโดโรธีได้ถูกพระผู้เป็นเจ้ารับจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ไปอยู่กับพระองค์บนสวรรค์แล้ว แต่พวกเขาทั้งหลายก็มิอาจหยุดสายธารแห่งความโทมนัสได้


                และเมื่อกาลเวลาได้ไหลผ่าน เปลือกตาละมุนกับแพขนตาหนาของร่างเล็กก็ค่อยๆเหลือบขึ้น เขารู้สึกอิ่มเอมอย่างที่ไม่เคยเป็น 


     

    Basically I'm saying here

    I can't live without my baby

    Loving you is so damn easy for me


     

    พลันแสงสว่างกระทบเข้านัยน์ตาสีน้ำตาลสุกใส ใบหน้าของชายอันเป็นยอดดวงใจก็ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้า โดโรธีผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว โผเข้ากอดบุรุษตรงหน้า ฝันเป็นความจริงในบัดดล แขนแกร่งยกร่างเบาหวิวของคนรักขึ้นอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มเปรมปรีดิ์ระบายบนดวงหน้าของทั้งสอง เอริควางคนตัวเล็กในอ้อมกอดลงบนหลังม้าคู่ใจ แล้วออกแรงควบเพื่อพาหัวใจของเขาไปยังเมืองแมนทัว ที่ที่จะไม่มีใครหาเจอตลอดกาล


     

    Ain't no need for contemplating

    Promise you won't keep me waiting

    Tell me baby, I'm all that you need


     



     

    ภายในบ้านไม้หลังเล็กแสนน่ารักในหมู่บ้านใกล้ทุ่งดอกไม้ ณ เมืองแมนทัว สองร่างกอดเกี่ยวกันอย่างสเน่หา ชื่นมื่นดั่งคู่ข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งเข้าพิธีสมรสกัน


    หากในวันนั้นข้าตายไปจริงๆล่ะ” 


    เสียงหวานเอ่ยถามเสียงอ้อน แขนอวบอิ่มโอบกอดรอบลำคอของคนรักพลันซุกใบหน้าหวานกับอกแกร่ง “หากข้านิทราไม่รู้ตื่น ท่านจะทำเช่นไร


    เจ้าไม่เป็นไรหรอก โดโรธีคนเก่งของข้า


    เรียวปากอุ่นประทับแผ่วเบาลงบนแก้มเนียน พรมจูบทั่วใบหน้าของคนในอ้อมกอด แล้วบดเบียดส่งความหวานให้กับริมฝีปากบางซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งเสียงออดอ้อนได้เอ่ยขึ้นอีกครั้ง


    หากต้องสิ้นลมจริงๆละก็ ข้าจะขอตายในอ้อมแขนท่าน อ้อมแขนอันแสนหวานที่เป็นของข้าเพียงคนเดียว นับแต่บัดนี้และตลอดไป




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in