เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
She wrote, I readParnyuhoo
It’s Peony Season
  • ๏ It’s Peony season : how to buy น้องงง

    เมื่อวานเป็นวันเสาร์ที่เชื่อว่า auditor ชาวไทยส่วนใหญ่จะพร้อมใจกันหยุด เพื่อหายใจและเริ่มปลดล็อก เราเลยถือโอกาสนี้ออกไปร่อนปากคลองตลาด ไปซื้อดอกไม้ที่เราชอบมากกกกและช่วงนี้เป็นฤดูกาลของมันพอดี ด้วยความที่ตามมาซักพัก เลยมาเขียนเล่าไว้ เผื่อมีคนชอบน้องเหมือนกันนน 



    ถ้าเรียก Peony อาจจะมีคนรู้จักส่วนนึง แต่ถ้าพูดว่าโบตั๋น (ฟังดูจี๊นจีน) คนก็จะอ๋ออออ เรารู้จักมันเมื่อหลายปีที่แล้วตอนที่ส่อง IG ร้านดอกไม้ช่วยเพื่อนหาดอกไม้ให้แฟน เห็นแวบแรกก็ชอบมันอย่างประหลาด ถ้าให้คิดเหตุผล คงเพราะความกลมป๊อกของมัน ที่ดูข้างนอกเหมือนดอกบัว แต่ข้างในอัดแน่นด้วยกลีบยึกยือจำนวนเยอะมากที่ทำให้ดอกไม้ดูมีรายละเอียดมากกว่าข้างนอกที่เห็น และพอมันบานนะ อะหืมมม สวยแบบมองไม่เบื่อเลย ได้คุยกับน้องคนนึงและเห็นตรงกันว่า ดอกไม้ทุกดอกมีแคแรคเตอร์ เช่น ทิวลิปก็ดูสวยงามแบบเด็กผู้หญิงคุณหนูๆแพงๆ แต่ก็น่ารักและเข้าถึงได้ สำหรับเรา Peony เหมือนอิเด็กผู้หญิงคุณหนูคนนั้นตอนอายุซัก 30 โตขึ้น ซับซ้อนขึ้น น่าสนใจมากขึ้น (คนอ่าน : ขนาดนั้นเลย
    อ่อวะ) 

    ทั้งที่ชอบมาก แต่เพิ่งมีโอกาสได้เห็นของจริงครั้งแรกเมื่อตอนวันเกิดกับวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ต้องขอบคุณเด็กๆทีมเอร่า ที่สรรหาดอกไม้หายากในเดือนนั้นมาให้ และทำให้ได้รู้ว่า แหล่งของน้องที่ปากคลองคือร้าน Peony นั่นเอง

    และผลจากการ WFH ทำให้เราได้ลองผิดลองถูกซื้อน้องอย่างจริงจัง เพราะค้นพบว่า การมีดอกไม้ตั้งอยู่หน้าคอมช่วยลดความเครียดได้ (จิ๊งงง หรือมันแล้วแต่คนไม่รู้นะ) พอซักต้นเดือน4 เราเลยลองไลน์ไปถามที่ร้านว่าใกล้เริ่มฤดูของน้องรึยัง ปรากฏช่วงนั้นเริ่มมีละ แต่ของยังน้อย และ FV คือดอกละ 400 นี่ก็อั้นๆ สั่งมา 2 ดอกเป็นการเปิดฤดู ตอนนั้นคือโคดไร้ความรู้ เลือกดอกอย่างบาน ก็คิดว่าสวยละ จากนั้นก็วุ่นกับงาน พอซักพฤษภา นัง IG ตัวดีก็เด้งรูปน้องมารัวๆ ยั่วยวนใจ ก็เลยแอบพุ่งตัวไปปากคลอง แต่ช่วงนั้นมีแต่น้องชาวจีน (หลักๆแล้ว น้องในปากคลองที่เราเห็น จะมาจากจีน ไม่ก็ฮอลแลนด์) เพราะน้องฮอลแลนด์ยังเดินทางกันมาไม่ได้ เดินทางมาละก็ต้องกักตัว (โวะ) อ่ะเราก็ลองซื้อมาดู ราคาของน้องจีน คือขายเป็นกำ ช่วงนั้นคือกำละ 600-700 แล้วแต่สี มี 10 ดอก ตอนซื้อจะลุ้นมากก ดูจากรูปนะ น้องจีนจะมาแบบตู๊มตูมเหมือนดอกกะหล่ำดาว - - นี่ก็ถามคนขาย3รอบว่า มันจะบานจริงใช่มั้ย เด็กมันก็พูดแต่ว่า บาน3ดอกก็คุ้มละพี่ โอ๊ยมึงงง แต่ผลประกอบการรอบนั้นก็ดีนะ บานซัก5ดอกได้ 

    พัฒนาการน้องจีน

    ของจริงเริ่มมากลางพฤษภานี่แหละ น้องฮอลลี่มากันได้แล้ว และราคาเริ่มเข้าที่ คือดอกละประมาณ 300 บาท ส่วนน้องจีนจะลงมาที่กำละ 300 - 450 บาทแล้วแต่ร้าน (ราคานี้คือจากปากคลอง เคยไลน์ไปถามร้านนึงที่ดาราซื้อเยอะๆคือประมาณ 5 ดอก 3,500 แต่นั้นเค้าคงคัดดอกมาแล้ว เพราะสวยมากมาย) ความต่างก็คือ น้องจากฮอลแลนด์จะดอกใหญ่กว่าแบบสาย ฝ ก้านใหญ่กว่า ทนกว่า มีหลายสีหลายพันธุ์ (ลองดูในรูป ลอง Google ดูละเดาว่าที่ได้มาน่าจะพันธุ์ไหน55) น้องจากจีนจะบอบบางสไตล์สาวเอเชีย และ (เท่าที่เคยเห็น) หน้าตาจะคล้ายๆกันหมดนะ เราจะเทใจไปทางน้องฮอลมากกว่านิดนึง พอเข้าฤดูจริงๆ ในปากคลองจะมีอยู่ 3-4ร้านที่มีของให้เลือกเยอะ Peony , Rose (อยู่ติดกัน) ละร้านหัวมุมอีกร้าน (จำชื่อร้านไม่ได้ ลองดูในรูป) ลองไปวันพุธ พฤหัสกับอาทิตย์ จะมีของลงใหม่มากมาย

    พัฒนาการน้องฮอลลี่

    ร้านที่เราไปซื้อของจะมาทุกวันพุธ เวลาเลือกน้องเอาจริงให้ตั้งใจมองดอกตูมๆนี่แหละ เดี๋ยวน้องจะบานไวมากกกกกกยังกะเป็นเอเลี่ยน แบบจากปากคลองมาบ้านคือเริ่มบาน ตั้งจากกลางคืนถึงเช้าคือแบบบานแบบเห้ย พอก่อน รีบมากเรอะ จากร้านถ้าเป็นน้องฮอล เค้าจะใส่จุ๊กน้ำมาให้ที่ก้าน ถ้าเป็นน้องจีน เราอาจต้องขอเค้าให้ช่วยเอาสำลีจุ่มน้ำมาโปะ ไม่ให้น้องขาดน้ำก่อนถึงบ้าน ตอนเอาลงแจกันมีเทคนิคคือ ให้กรรไกรที่คมมากๆ (จริงๆควรใช้กรรไกรตัดดอกไม้ แต่ไม่มีไง) ตัดเฉียงๆให้น้องกินน้ำง่ายๆ น้องจะอยู่แบบสวยงามได้ประมาณ 5-7วันแล้วแต่แต้มบุญและเงินจ่ายค่าแอร์ อ่อ ระหว่างนั้นทุก2-3วัน ก็คอยตัดก้าน มันจะกระตุ้นน้องว่า กินน้ำสิกินน มีอีกความน่าตื่นเต้นคือเรื่องสี มันจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ มีดอกนึงคือเปลี่ยนจากชมพูเข้ม เป็นอ่อน จนขาว จนเหลือง (และร่วง) เห็นมั้ย สวย ซับซ้อนและสอนเรื่องอนิจจัง 5555

    สายพันธ์ุ์ของน้องๆ

    ถ้ารวยนะ จะซื้อน้องฮอลมาจัดแจกันใหญ่ๆ กลิ่นมันหอมด้วยนะ น้องจะสมบูรณ์และสวยที่สุดช่วงพฤษภาถึงมิถุนา ช่วงนี้เลยเป็นเวลาที่ดีในการทำความรู้จักน้อง ใครอยากไปปากคลองก็มาชวนได้555 การไปปากคลอง และจิบกาแฟท่าเตียนคือความสุขในหน้างานซาที่แท้ทรู
    อยากขอเค้าไปนั่งทำงานในห้องนี้ นี้คือร้าน Peony

    อันนี้ร้านหัวมุมที่บอก

    Just living is not enough.
    One must have Sunshine, Freedom and a Little Flower. : Han Christian Anderson ?

    Story by Peesala
    Editor : Parnyuhoo
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in