เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ฝึกเขียนFollow the Red
ลูกคนเดียว กับการเป็นผีของความฝันพ่อแม่ที่ล้มเหลว
  • บ้าน คือสิ่งที่ครอบครัวผมอยากมีเป็นของตัวเองตั้งแต่ผมยังไม่เกิด

    บ้าน คือสิ่งที่แม่พยายามพูดกรอกหูผมทุกครั้งเมื่อพูดถึงอนาคตผม

    ครอบครัวผม ย้ายออกจากบ้านในละแวกชุมชนเล็กๆของญาติพี่น้องเราที่อยู่รวมกัน 
    เพราะน้าสาวอยากย้ายมาอยู่แทนครอบครัวเรา 
    พ่อแม่ตัดสินใจที่จะซื้อห้องอพาร์ตเมนต์แคบๆอยู่ตามคำแนะนำของน้าคนนั้น

    ผมตอนเด็ก ต้องตัดขาดจากพี่น้อง เพื่อนเล่นในละแวกบ้าน เพื่อมาอยู่ในห้องแคบๆเล็กๆ 
    ไม่มีแม้แต่คนรู้จัก ไม่มีแม้แต่พื้นที่ปั่นจักรยาน 
    ผมได้แต่ถามแม่ว่าทำไมเราต้องย้ายออกมาจากบ้านใหญ่หลังเดิมเพื่อให้น้าแค่คนเดียวเข้าไปอยู่แทน
    แม่ตอบแค่ว่าเพราะน้าเขาอยากย้ายมาอยู่ แล้วน้าเขาก็แนะนำอพาร์ตเมนต์มาให้แล้ว ไม่อยากให้เสียน้ำใจ

    ...........แค่นี้เองเหรอ

    ผมเติบโตมาในอพาร์ตเมนต์ตั้งแต่ย่างเข้าชั้นประถม1 เรียกได้ว่าตั้งแต่จำความได้เลยแหละ 
    ห้องของเราประกอบไปด้วยเตียง2เตียง คือของผมและพ่อกับแม่ 
    แออัดไปด้วยสัมภาระต่างๆเท่าที่จะยัดเข้าไปได้ตามขนาดของอพาร์ตเมนต์ซอมซ่อเล็กๆ

    ผมในช่วงอายุมัธยม ไม่เคยคิดเลยว่าต้องการอะไรมากกว่านี้ คิดเพียงแต่ว่าที่เป็นอยู่ก็ดีอยู่แล้ว 
    คำที่แม่กรอกหูให้ผมซื้อบ้านเมื่อทำงานมีเงินได้กลายเป็นเรื่องชินหูที่ผมได้แต่พยักหน้าหงึกหงักไป

    ตลอดเวลา10ปีที่ผ่านมา พ่อกับแม่ทำงานในโรงงานเย็บกระเป๋ากอล์ฟเล็กๆ 
    ด้วยค่าแรงคนละ200บาท(ตอนรัฐบาลขึ้นค่าแรงเป็น300ก็ยังได้200บาท) 
    เถ้าแก่ใจดี ให้ค่าแรงเพิ่มขึ้น5บาททุกๆ3ปี

    อาหารในห้างทุกอย่างคือของแพงสำหรับเรา 
    อาหารแพงๆถูกมองเป็นอาหารอีเดียทของพ่อแม่และกลายเป็นปมที่ต้องหาเรื่องดูถูกว่ารสชาติไม่สมราคา 
    เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเงินมากินมัน

    ผมเคยพูดกับแม่หลายครั้ง ว่าทำไมไม่ตัดสินใจทำธุรกิจที่ได้เงินดีกว่านี้ 300มันอยู่ไม่ได้หรอก ลองค้าขายดูไหม ไม่ต้องเป็นลูกจ้างเขา 
    พ่อแม่ถามกลับมาว่าแล้วจะให้ขายอะไร ขายแล้วใครจะมาซื้อ 
    ความคิดเห็นจากลูกกลายเป็นเรื่องโง่เง่าและอ่อนโลกทุกครั้งที่ผมเสนอ 
    ผมเบื่อที่จะแนะนำจึงนั่งฟังเสียงแม่ถีบจักรต่อไป

    ไม่กี่ปีต่อมา ผมเรียนจบมัธยมและเข้ามหาลัย เป็นเวลาเดียวกับที่เถ้าแก่ปิดกิจการเย็บกระเป๋ากอล์ฟ 
    พ่อและแม่จึงออกมาค้าขายตามแบบที่เคยดูถูกว่าโง่เง่าไว้ในตอนแรก

    ผมเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความกดดันและพึ่งจะรู้สึกตัวถึงความไม่มั่นคงของอพาร์ตเมนต์ที่เป็นบ้านของเราพ่อแม่และลูกที่กำลังเริ่มต้นอายุ20 
    ผมในตอนนั้นเคยคิดว่าคงพาสาวมาฟันในห้องเราไม่ได้แน่(หัวเราะ)

    รายได้ของแม่ผมเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่แน่นอนตามประสาคนค้าขาย 
    รายได้หลักของแม่มาจากการขายอาหารทำจากปลาหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง 
    เงินที่หาได้บางส่วนถูกหักเพื่อจ่ายให้เทศกิจเพราะพื้นที่ตรงนั้นมันผิดกฎหมาย(ผมขอโทษ) 
    ผมแนะนำให้ลองย้ายไปขายในพื้นที่คนพลุกพล่านเช่นตลาดนัดกลางคืน 
    แต่ความกลัวการเปลี่ยนแปลงของแม่ผมก็กลับมาอีกครั้งในรูปแบบแม่ค้าขายอาหารและดูถูกว่าตลาดที่ผมแนะนำมันจะขายได้เท่าไหร่เชียว

    มาถึงตอนนี้ ผู้อ่านอาจกำลังสงสัยในเรื่องที่ผมกล่าวถึงพ่อน้อยมากในกระทู้ 
    ท่านผู้อ่านพึงทราบไว้เถิดว่าพ่อของผมยังคงได้ค่าแรงวันละ300บาทจากการเป็นลูกจ้างขายอาหารอยู่ร้านติดกันกับแม่ผม 
    โดยที่พ่อผมต้องทำทุกอย่างตั้งแต่เตรียมของยันยืนย่างขาย 
    พ่อเป็นคนที่นิสัยต่างจากแม่โดยสิ้นเชิง พ่อไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผม แต่ก็ไม่เคยคิดจะสร้างเนื้อสร้างตัวเหมือนกัน 
    พ่อมีชีวิตอยู่โดยการใช้เงินวันละ300กว่าๆ, แทงบอลหาโชคลาภ และซื้อบุหรี่ทานเป็นของว่าง 
    รายได้ที่มีมีไว้เพื่ออนาคตในอีก2อาทิตย์ถัดไป

    ผมต้องยอมรับว่าเขาทั้งสองคนเป็นคนที่ในอดีตมีนิสัยเก็บเงินเก่งเอามากๆ ถึงขนาดทำให้เด็กคนหนึ่งเรียนจบได้ 
    และแล้วก็มาถึงตอนที่ผมต้องจ่ายหนี้คืน"ผู้สร้าง"ของผม

    ผมเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านคงตำหนิผมในใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อยตามถ้อยคำที่เหมือนผู้เนรคุณบิดามารดา 
    แต่การเนรคุณนั้นเล่าขอบเขตมันอยู่ที่ไหน หมายถึงการเพิกเฉยต่อพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมา 
    หรือหมายถึงการที่ลูกปฏิเสธการเป็นผู้กอบกู้ความฝันอันล้มเหลวของพ่อแม่

    ผมกำลังจะกลายเป็นเด็กจบใหม่ที่เป็นหนี้ซื้อบ้านไปอีกหลายสิบปี

    ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม่ไม่เคยถามผมเลยว่าผมจะไหวไหม กับเรื่องการเรียน ชีวิต หรือช่วงฝึกงาน 
    คำพูดติดปากพ่อแม่และติดหูผมเช่นกันมีเพียง "อดทนนะ" และ "จบไปต้องซื้อบ้านให้พ่อแม่อยู่นะ"

    ผม.. ไม่รู้ว่าชีวิตที่พิมพ์กระทู้อยู่นี้เป็นของใคร 
    เป็นตัวของเราเองหรือเป็นผีของพ่อแม่วัย60ที่มีลูกช้าและไม่เคยสร้างตัวตอนยังเป็นหนุ่มสาว 
    ผีที่ต้องแบกความฝันของแม่ ผีที่มีชีวิตอยู่เพื่อความฝันที่ไม่ใช่ของตัวเอง 
    เป็นผีที่ไม่มีอะไรติดตัวที่จะไปสร้างครอบครัวของตัวเอง หรือมีที่อยู่หลักแหล่งมั่นคงพอที่จะไปขอลูกสาวบ้านไหนแต่งงานด้วย 
    ผีที่เงินเดือนที่สร้างได้นับจากวันที่เรียนจบต้องกลายเป็นของพ่อแม่ตลอดไป

    ผีที่ไม่รู้ว่าจะเป็นอิสระเมื่อไหร่



    #EDIT1 แก้ไขค่าแรงขั้นต่ำจาก 300 เป็น 200
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in