เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ทฤษฎี (ไม่) จีบเธอi_whyn
(ไม่) จีบ ครั้งที่ 7



  • "ช่วงนี้กันแปลก ๆ ไป"


    ผมเงยหน้าจากหน้าจอขึ้นไปมองเผิงโหย่วเลิฟที่อยู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย 


    แต่การที่ออฟมันพูดเรื่องน้องกันกับผมถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมาก แปลว่าครั้งนี้มันต้องเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตมากจริง ๆ


    "ทำไมวะ"


    กับคนบุคลิกบางประเภท แม้ว่าเราจะเป็นเพื่อนสนิทกันมากขนาดไหน แต่ก็จะมีพื้นที่บางอย่างที่เรารู้สึกว่าจะเข้าไปแตะต้องและก้าวก่ายไม่ได้




    ความสัมพันธ์พิเศษของมันกับน้องกันอยู่ในพื้นที่นั้น




    "เมื่อเช้ากูเจอน้องก็ปกติหนิ เมื่อวานก่อนตอนเปิดตัวซีรีส์ก็ยังเห็นอยู่ด้วยกันปกติอยู่เลยไม่ใช่หรอ"




    "ใช่ ยังอยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่ มันไม่ปกติว่ะ"


    สีหน้าของเผิงโหย่วเลิฟเรียบเฉยเหมือนทุกที แต่แววตาของมันเป็นกังวล ผมรู้ว่ามันแคร์น้องมาก ไม่ว่าการแคร์นี้จะอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบไหน แต่ผมก็รู้ว่ากันอรรถพันธ์มีอิทธิพลต่อเพื่อนตรงหน้าผมมากในแบบที่ไม่เคยมีใครเป็นมาก่อน 


    "ทำไมเพื่อนคิดงั้น" 


    "แค่รู้สึกครับเพื่อน"


    "มันต้องมีเหตุและปัจจัย จริงมั๊ย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยปราศจากเหตุผล มึงลองยกตัวอย่างการกระทำของน้องกันที่ทำให้มึงรู้สึกแปลกใจสิ"


    "มันไม่วอแว มันไม่งอแง มันไม่........."




    "ไม่?"




    "เอาเป็นว่าไม่ปกติ"




    ".....คือเพื่อนอยากจะเล่าหรือไม่อยากจะเล่ากันแน่ นี่ให้คำปรึกษาไม่ได้นะถ้าอมพะนำไว้ยังงี้"




    "มึงไม่รู้สึกว่ามันผิดปกติ?"




    "ไม่นะ เมื่อเช้ายังเล่นสัตว์เลี้ยง ร้องเพลงดังลั่นอยู่เลย"




    "อืม....."




    "แต่ไม่ได้ทะเลาะกันเหมือนทุกที?"




    "ไม่มี มันยังคุยด้วย มองหน้าปกติ แต่มันไม่.... ไม่ปกติ"




    "ตั้งแต่เมื่อไหร่'




    "อืม ความจริงก็ก่อนวันเปิดตัวซีรีส์ประมาณสักสองสามวันได้ วันนั้นกันมาที่คอนโด อ้อ วันที่มันไปซื้อรองเท้ากับมึงไง หลังจากวันนั้นแหละมั้ง" ออฟยกนิ้วขึ้นมานับ "มันหายหัวไป ซึ่งปกติก็เป็นไปได้ที่มันจะหายไป แต่ท่าทีเมื่อวันก่อนตอนรวมพลแฟนคลับ และจนถึงตอนนี้ มันหายหัวไปเลย"




    "การที่น้องกันหายไปกลายเป็นเรื่องผิดปกติแล้วหรอเพื่อน"




    "ไอ้เต กวนตีน"




    "พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง"




    "ห่า"




    "เผิง เอาจริง ๆ กูสับสนกับนิยามคำว่า ปกติ-ผิดปกติ ของมึงมากเลย กูไม่ได้กวนตีนแต่มึงนั่นแหละที่ประหลาด"




    ผมสนิทกับออฟมากครับ ตั้งแต่ Five Live Fresh สนิทมากถึงขั้นเคยแชร์คอนโดด้วยกัน เป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้ แต่ถึงแบบนั้นสไตล์ของเราสองคนก็ไม่ได้ตรงกันขนาดที่จะเฮไหนเฮนั่นกันได้ตลอด 



    แต่กับน้องกันมันไม่ใช่แบบนั้น ทั้งสองคนชอบแฟชั่น เสียงดนตรีและความสนุกสนาน คนนึงเอาแต่ใจ อีกคนก็เอาใจ แต่พออีกคนงอแง อีกคนก็ตามใจ เหมือนจังหวะที่รับส่งกันพอดิบพอดีจนเกิดเป็นโมเมนตัมให้ความสัมพันธ์มันเคลื่อนต่อไปได้ไม่มีสะดุด




    "เออ"




    "เปลี่ยนไปมากจริง ๆ ว่ะ"




    "เออ"




    ผมก็ไม่รู้จะช่วยมันได้ยังไง ที่ผ่านมากล้าทำแค่แซวขำ ๆ ตามน้ำของคนอื่นไปเรื่อย แต่ถ้ามันยอมเปิดปากพูดขึ้นมาเองแบบนี้ แปลว่ามันเองก็เลี่ยงไม่ไหวแล้วใช่หรือเปล่า 




    "มุกเป็นไงบ้าง"




    เผิงตวัดตาดุ ๆ มาทันทีที่ผมพูดชื่อนี้ขึ้นมา แปลว่าผมได้เผลอขยี้พื้นที่ต้องห้ามเข้าไปเต็ม ๆ ซะแล้ว




    "ตั้งแต่วันขายเสื้อก็นิ่ง ๆ ไป ตอนเกาหลีก็อย่างที่เห็น" สีหน้าลำบากใจแบบที่ไม่ได้เจอบ่อย ๆ ปรากฎขึ้นมา




    ในฐานะเพื่อนที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาตลอดห้าหกปี ผมเห็นใจทุกฝ่าย ความสัมพันธ์ซับซ้อนมันไม่ใช่เรื่องสนุก จะส่งเสริมฝ่ายหนึ่งก็เห็นใจอีกฝ่ายหนึ่ง




    "อืม ไม่ง่ายหรอก"




    "ทะเลาะกันบ่อยขึ้นมาก" 




    "เรื่องน้องเนี่ยนะ?" ผมออกจะประหลาดใจ




    "ไม่เชิง กูจะทะเลาะอะไรเรื่องกัน แต่ทะเลาะเรื่องงานเนี่ย เขาบอกกูเซอร์วิสมากไป ซึ่งมันก็คืองานไงมึงเข้าใจมั๊ย อย่างที่ไปวันนั้น โดนด่ากลับมาเท่าไหร่ ถึงได้ไม่อยากให้ไป แต่แทนที่จะเข้าใจ เขากลับบอกให้กูออกมาปกป้องเขาเหมือนที่ปกป้องคนอื่นบ้าง คือไรวะ"




    "รู้มั๊ย กูชอบนิสัยตรงไปตรงมาของมึงมากเผิง แต่ในกรณีนี้ กูออกจะเข้าใจมุกว่ะ ไม่มีใครอยากอยู่ในเงามืด"




    "ไอ้เต กูรู้ว่ามึงจะพูดอะไร กูแคร์เขานะ แต่ทำไมการแคร์ของกูถึงจะต้องเลือกระหว่างน้องกับแฟนวะมึง ทำไมวะ"




    "เพราะโมเมนตัมที่มึงส่งไปมันไม่เท่ากันไง"




    "มึงช่วยพูดภาษาคน" 




    "เฮ้อ แล้วน้องรู้เรื่องนี้มั๊ย"




    "ไม่ มันไม่จำเป็นต้องรู้ แค่นี้เรื่องมันกูก็ปวดหัวแล้ว วันนั้นที่อยู่กับไอ้กัน กูก็ต้องแยกกลับก่อนเพราะมุกโทรมา"





    "น่าสนใจ แล้วยังไงต่อ" 




    "ก็แยกออกไปหาเขา ไม่อยากมีปัญหา เดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด"




    "น้องกันว่าไง"




    "ไม่ว่าไง มันก็แยกกลับไป"




    "มึงก็คือมึงจริง ๆ ว่ะเผิง" 



     

    "กูรู้ว่าสถานการณ์บ้าบอนี่มันเหมือนละครหลังข่าว แต่ความผูกพันมันก็สำคัญ และกูต้องรักษาไว้ก่อน"




    "แล้วมึงจะบอกว่ามึงไม่ผูกพันกับคนไหนล่ะ กูไม่เห็นนะในกรณีนี้" 




    เผิงชะงัก และถอนหายใจออกมาพร้อมทิ้งตัวลงกับพนักเก้าอี้เหมือนคนหมดแรง "กูก็สับสนเหมือนกัน อย่ากดดันกูนักเลย"




    ไม่มีใครผิดในความรัก




    แต่การรักษาความรักเพราะรู้สึกผิดนั้นน่าเศร้า




    "กูเข้าใจ แต่ก็รีบหน่อยละกัน 



    เพราะสิ่งที่น่ากลัวกว่าคนสำคัญหายไปจากชีวิตเรา


    คือเขายังอยู่ที่เดิม แต่หมดใจแล้ว"







    [TBC]




    Cover photo credit by GMMTV



    เป็นตอนที่เขียนยากมาก และเป็นพื้นที่ที่ไม่อยากแตะต้องเลย 

    อาจจะติด ๆ ขัด ๆ งงกับความไบโพล่าร์ของฟิคไปบ้างค่ะ 555 



    เอนีเวย์ ประโยค 'เดี๋ยวเราจะมองหน้ากันไม่ติด' มาจากคลิปพูดคุยก่อน Ourskyy จะออนค่ะ *ยิ้ม*

    Our Skyy อยากเห็นท้องฟ้าเป็นอย่างวันนั้น | ปิ๊ก-โรม - Exclusive LIVE on LINE TV



    ตอนนี้ไม่รู้จะขายอะไร ขายความน่ารักของ เต ตะวัน ละกัน 5555555



    หมายเหตุ ทั้งหมดเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ขออนุญาตบุคคลที่อ้างอิงไว้มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 

    ขอบคุณมากค่า -ll- 


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in