เป็นที่รู้กันว่าชาวพันทิปชอบตั้งกระทู้ถามแต่เรื่องเดิมๆ ซ้ำซาก ทั้งๆ ที่เราสามารถเสิร์ชผ่านกูเกิ้ลได้ง่ายกว่าตั้งกระทู้เยอะ เอาล่ะวันนี้เราจะมาท้าวความก่อนดู Halloween (2018) แบบพอสังเขป
เริ่มจาก Halloween (1978) ก่อน เป็นหนังสยองขวัญโดยบิดาแห่งหนังสยองขวัญ จอห์น คาร์เพนเตอร์ นำแสดงโดย เจมี่ลี เคอร์ติส เล่าเรื่องราวในคืนวันฮัลโลวีนปี 1978 ลอรี่ สโตรด สาวนายหน้าขายบ้าน โดนตามฆ่าโดยฆาตกรโรคจิตชื่อ ไมเคิล ไมเยอร์ ที่หลบหนีออกมาจากโรงพยาบาลจิตเวช และมีนักสืบชื่อ ลูมิส มาช่วยไว้ ก่อนจะพบว่าไมเคิล ไมเยอร์ หลบหนีไป ด้วยบรรยากาศที่น่ากลัว และการดำเนินเรื่องที่สดใหม่ในสมัยนั้น กระแสตอบรับภาคนี้ดีมากๆ ถือเป็นต้นกำเนิดหนังสยองขวัญแนว slasher film เลยทีเดียว
ต่อมาเป็นภาคต่อ ชื่อ Halloween II (1981) ภาคนี้จอห์น คาร์เพนเตอร์ไม่ได้กลับมากำกับ แต่รับหน้าที่เป็นเพียงโปรดิวเซอร์ เล่าเรื่องราวต่อจากภาคแรกทันที ไมเคิล ไมเยอร์ ตามกลับมาฆ่าสาวลอรี่ให้ได้ แถมภาคนี้เรายังได้พบความจริงที่น่าสะพรึงของทั้งลอรี่ และไมเคิล ไมเยอร์ อีกด้วย กระแสตอบรับภาคนี้ออกไปทางกลางๆ ถึงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ใช้ได้ไม่แย่
ภาคต่อมา Halloween III: Season of the Witch (1982) จอห์น คาร์เพนเตอร์ ในตำแหน่งโปรดิวเซอร์ มีดำริว่าอยากให้แฟรนไชส์ Halloween เป็น Anthology หรือ ภาคแยกที่ไม่มีความต่อเนื่องกัน ฉายเรียงปี โดยเรื่องราวในภาคนี้ไม่เกี่ยวเนื่องกับ 2 ภาคแรกเลย จะเน้นไปเล่าเรื่องเกี่ยวกับองค์กรลับ และแม่มด ปรากฏว่าเสียงตอบรับออกมาแย่มาก เพราะแฟนๆ ยังชอบเรื่องราวของไมเคิล ไมเยอร์ มากกว่า แต่ก็ยังมีบางคนที่ก็ชอบภาคนี้ด้วยเช่นกัน
ในภาคที่ 4 อย่าง Halloween 4: The Return of Michael Myers (1988) จอห์น คาร์เพนเตอร์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาคนี้และหลังจากนี้อีกแล้ว ทางสตูดิโอก็ตัดสินใจกลับมาเล่าเรื่องราวต่อจากภาค 2 โดยทิ้งห่างไป 10 ปี เล่าเรื่องราวของลูกสาวลอรี่ที่ชื่อ เจมี่ กับฆาตกร ไมเคิล ไมเยอร์ ที่ออกอาละวาดอีกครั้ง โดยตัวของลอรี่รถคว่ำตายไปแล้ว ก็คือ เจมี่ลี เคอร์ติส ไม่กลับมาแสดงในภาคนี้
ภาคที่ 5 อย่าง Halloween 5: The Revenge of Michael Myers (1989) เล่าเรื่องราวต่อจากภาค 4 ในอีก 1 ปีต่อมา ง่ายๆ คือเรื่องราวเกิดขึ้นปีเดียวกับที่หนังฉายนั่นแหละ
ภาคที่ 6 จู่ๆ ก็หยุดนับเลขไปเสียอย่างนั้น โดย Halloween: The Curse of Michael Myers (1995) เกิดขึ้นหลังจากภาค 5 ถึง 6 ปี ภาคนี้เป็นหนึ่งภาคที่ถูกแฟนๆ สวดยับมากที่สุด ด้วยการออกทะเลไปในทางที่หนังเฉลยให้ ไมเคิล ไมเยอร์ แท้จริงแล้วทำพิธีกรรมในลัทธิประหลาด เลยต้องไล่ฆ่าทุกคน บียอนด์มั้ยล่ะ
ทีมสร้างเล็งเห็นแล้วว่ากระแสตอบรับในภาคต่อค่อยๆ ลดลง จึงกลับไปสานต่อเรื่องราวจากภาค 2 เพราะตัวละครลอรี่นั้นยังเป็นที่น่าสนใจของแฟนๆ โดยที่ภาคที่ 7 หรือ Halloween H20: 20 Years Later (1998) เกิดขึ้น 20 ปีหลังจากภาคแรกสุดเลย ภาคนี้ได้เจมี่ลี เคอร์ติส กลับมารับบท ลอรี่ ที่ปลอมการตายของตัวเองและเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อหลบหนีฝันร้ายที่เคยมีต่อไมเคิล ไมเยอร์ แต่ก็หนีไม่พ้น
ต่อมาเป็นภาคที่ 8 ชื่อ Halloween: Resurrection (2002) ภาคนี้นอกจากจะโดนสวดยับอีกตามเคยแล้ว ยังห่วยจนแฟรนไชส์ต้องลงหลุมพักยาวไปเลย เล่าเรื่องราว 3 ปีต่อมาจากภาค H20 โดยที่เปิดเรื่องโดยลอรี่ถูกไมเคิล ไมเยอร์ ฆ่าตายสำเร็จ แล้วถัดไปอีก 1 ปี มีรายการเรียลิตี้ไปถ่ายทำในบ้านของไมเคิล ไมเยอร์ เอง แล้วโดนไล่ฆ่าทีละคน
ต่อมาในปี 2007 ร็อบ ซอมบี้ นักร้องนำวง White Zombie ได้เข้ามารีเมคหนัง Halloween ใหม่ โดยการเอาเนื้อเรื่องจากภาคเก่าๆ มายำใหม่ แถมยังแต่งเรื่องราวประวัติความเป็นมาของไมเคิล ไมเยอร์ให้ด้วยอีก โดยทำออกมา 2 ภาค ชื่อ Halloween (2007) และ Halloween II (2009) ผลตอบรับก็ไม่ได้ดีไปกว่าภาคก่อนหน้าเท่าไหร่นัก ปิดตายแฟรนไชส์ลงหลุมไปอีกครั้ง
ในปี 2016 ลิขสิทธิ์สร้างหนังตกมาที่ Blumhouse Production ผู้สร้างเดียวกับ Get Out, The Purge ต่างๆ จอห์น คาร์เพนเตอร์ กับโปรดิวเซอร์ของบลัมเฮาส์ก็หารือกันในเรื่องไอเดียภาคต่อของแฟรนไชส์ Halloween ก็ได้ความว่า ยังไงภาคต่อควรจะดำเนินต่อจากภาคแรก ทำให้หนังเรื่องที่ 11 ของแฟรนไชส์ อย่าง Halloween (2018) นั้น ดำเนินเรื่องต่อจากหนังภาคแรกในปี 1978 โดยทิ้งห่างไปถึง 40 ปี ตามเวลาฉายของภาคแรกด้วยนั่นเอง แถมยังทิ้งภาคต่อทุกภาคที่เคยมีออกไปให้หมด ภาคนี้ได้ เจมี่ลี เคอร์ติส กลับมารับบท ลอรี่ สโตรด เช่นเคย ดังนั้นมีวิธีการดูหนังทั้งสิ้น 4 แบบคือ
เนื่องจากภาค 3 เป็นภาคแยกที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับภาคอื่นๆ จึงเป็นภาคที่จะดูตอนไหนก็ได้ หากจะดู Halloween (2018) ให้รู้เรื่อง ฉะนั้นควรดูแบบที่ 4 คือทำการบ้านภาคต้นฉบับปี 1978 ก่อน ค่อยไปดูภาคปี 2018 ในโรงเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in