เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
มูฟวี่ 101StarLord4K
13 มุกคลาสสิกที่หนังภัยพิบัติวันสิ้นโลกต้องมี
  • หนังภัยพิบัติวันสิ้นโลกเป็นหนังอีกแนวที่มีคนชอบดูกันเยอะ เพราะเราจะได้เห็นภาพที่ในชีวิตจริงแทบไม่มีทางได้เห็น คือการที่โลกอันน่าอยู่ของเราถูกทำลาย ไม่ว่าจะโดยภัยธรรมชาติ สัตว์ประหลาด รวมไปถึงหุ่นยนต์ยักษ์ และเอเลี่ยนบุกโลก บลาๆๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด หนังเหล่านี้มักจะใช้มุกคลาสสิกที่เราเห็นแล้วจะต้องบ่นออกมาว่า อีกแล้วหรอ จะไม่เก่าไปหน่อยหรอมุกนี้ และเราก็ได้รวบรวม 13 มุกคลาสสิกที่หนังภัยพิบัติเหล่านี้มักเอามาใช้กัน

    1. โลกที่เรารู้จักไม่เป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป

    หนังส่วนใหญ่ชอบเปิดด้วยคำบรรยายอย่างเท่ๆ ว่า "The world as we know it..." หรือ "โลกที่เรารู้จักไม่เป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป" เพื่อกระตุ้นความอยากของคนดูอย่างเราให้ชวนติดตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหนังเรื่องไหนได้เสียงของลุงมอร์แกน ฟรีแมน มาด้วยล่ะก็นะ เรื่องนั้นปังแน่นอน

    2. นก นกบินเต็มไปหมด

    และมันก็จะต้องมีฉากใครซักคนสังเกตเห็นฝูงนกร้องกันอย่างบ้าคลั่ง ไม่ก็นกบินหนีกันไปเป็นฝูง เพื่อจะบอกเราว่ากำลังจะมีภัยอันตรายอย่างใหญ่หลวงรอโจมตีเราอยู่ ก็แอบสงสัยว่าทำไมเป็นนก หรือเพราะว่านกเซ้นส์ดีที่สุดงั้นหรอ แถมบางเรื่องยังเปลี่ยนจากนกเป็นหนูซะด้วย ชวนอี๋เข้าไปอีก

    3. พระเอกนางเอกหย่ากันแล้ว

    ไม่รู้ว่าทำไมพระเอกต้องมีเมียมีลูก แถมหย่ากันแล้วทั้งสิ้น โดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นลูกสาวมักจะอยู่กับพ่อ ลูกชายมักจะอยู่กับแม่ แต่พอเกิดภัยพิบัติ ต้องมีเหตุให้พ่อแม่ลูกมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง โดยที่ตอนเจอหน้ากันครั้งแรกก็เป็นยัยตัวร้ายกับนายปากดี เถียงกันไปอีก ลูกก็ต้องมาคอยห้ามอีก ว่าพ่อแม่อย่าทะเลาะกันเลย หรือถ้าอยากเพิ่มความดราม่าอีกลูกต้องร้องไห้ด้วย ขยี้มันไปให้สุด

    4. เทพีเสรีภาพมักโดนทำลายก่อนทุกที

    ไม่ว่าจะเป็นคลื่นยักษ์ ภูเขาไฟระเบิด เอเลี่ยนบุกโลก เทพีเสรีภาพจะต้องโดนทำลายก่อนทุกที แบบทุกเรื่อง เรื่องไหนไม่มีฉากนี้ถือว่าเป็นหนังเกรดบี สมควรได้มะเขือเน่าไป และทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของผู้สร้าง และงบทำซีจีว่าจะทำลายเทพีของเราอย่างไร บางเรื่องก็ให้โดนตัดหัวขาด บางเรื่องก็ขาดครึ่งตัว บางเรื่องก็ลอยไปตามน้ำ โถ เทพีผู้น่าสงสาร โดนทุกเรื่อง
  • 5. แลนด์มาร์คทั่วโลกก็โดนทำลายตาม

    นอกจากเทพีเสรีภาพสัญลักษณ์ของอเมริกาถูกทำลายแล้ว แลนด์มาร์ดต่างๆ ทั่วโลกก็มักจะถูกทำลายตาม ถูกต้องเลยแบบไม่ต้องเดา ที่แรกคือหอนาฬิกาบิ๊กเบนที่อังกฤษ เราจะเห็นอิฐกระจายเป็นเสี่ยงๆ หน้าปัดนาฬิกาแตกเป็นชิ้นๆ ยังไม่พอ หอไอเฟลที่ฝรั่งเศส ถ้าไม่ล้มครืนถือว่ากระจอก ต่อมาเป็นหอเอนปิซ่าที่อิตาลี เอ๊ะ เราลืมเอเชียไปแล้วหรือยัง เปล่าเลย ไม่ลื้มไม่ลืม อ่ะ ฉายภาพกำแพงเมืองจีนสัก 10 วิให้รู้ว่าเรายังไม่ลืมคนเอเชียนะ

    6. ผู้สื่อข่าวตายออกอากาศ

    แล้วทีนี้ก็จะมีผู้สื่อข่าวที่วอนนาบีอยากเป็นเหมือนฐาปนีย์ข่าว 3 มิติ ออกไปรายงานสดตามสถานที่เกิดเหตุว่าคุณผู้ชมคะ ดูนู่นสิคะ บลาๆๆ แต่ปรากฏว่าสปิริตแรงกล้าไปหน่อย เลยมักจะโดนลูกหลงจากภัยพิบัติไปด้วย ตายห่าออกจอทีวี แล้วภาพก็จะต้องรีบตัดกลับมาสถานีด้วยความตกใจว่าโอไม่นะ เราสูญเสียนักข่าวฝีมือดีไปอีกหนึ่งท่านแล้ว

    7. พระเอกรู้หลักการทุกอย่าง

    พระเอกมักจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ หรือคนที่เก่งมากๆ เก่งแม่งไปหมดทุกเรื่องอ่ะ ไม่รู้จะเก่งอะไรนักหนา รู้ไปหมดว่าที่มาของภัยพิบัติคืออะไร สาเหตุ วิธีแก้ มันรู้หมด แต่สิ่งที่มันไม่รู้อย่างเดียว คือมันไปทำอีท่าไหนให้เมียฟ้องหย่า คือมันรู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องตัวเอง โถ น่าสงสารจัง

    8. นักการเมืองเห็นแก่ตัว

    ตัดไปที่สภาสูงใหญ่ของอเมริกาหรือองค์การสหประชาชาติ นักการเมืองก็จะนั่งเถียงกันว่าจะเราดีลกับภัยพิบัตินี้ยังไง แล้วพระเอกก็จะต้องเข้าไปเสนอแผนการว่านี่นะ มันเป็นยังงี้ๆๆ แล้วก็แก้ปัญหายังงี้ๆๆ แต่นักการเมืองก็จะแบบ ผมไม่เห็นด้วย ผมว่าแผนนี้มันไม่เวิร์ค ที่จริงก็คือพวกนางจะทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองรอดก่อน เพราะว่าพวกนางเป็นคนสำคัญ พยายามจะสะท้อนความเน่าเฟะของระบบการเมืองในโลกแห่งความเป็นจริงให้มากที่สุด แต่ไม่ต้องเสียใจไป พวกนักการเมืองเหล่านี้เดี๋ยวก็จะต้องมีเหตุการณ์ให้ตายก่อนอยู่ดี

    9. สัตว์เลี้ยงรอดเสมอ (และตุ๊กตาหมีด้วย)

    ถ้าหนังยังดราม่าไม่พอ ให้ลูกสาวร้องห่มร้องไห้กับพ่อว่า พ่อคะ หนูลืมหมาไว้ในบ้าน มันเติบโตมากับหนู หรือพ่อคะ หนูลืมตุ๊กตาหมีคุมะมงไว้ในบ้าน เป็นของขวัญจากปู่ทวด ถ้าหนูไม่มีมัน หนูจะนอนไม่หลับ พระเอกก็จำเป็นต้องเข้าไปช่วยหมาหรือตุ๊กตาตัวเล็กๆ ด้วย อาจจะเป็นหมาของลูกสาว แมวของลูกชาย ตุ๊กตาของขวัญของจากปู่คนข้างบ้าน หรือเด็กตัวเล็กๆ ที่เป็นคนไข้ในการดูแลของเมียที่เป็นพยาบาล เป็นการสร้างภาระเพิ่มให้พระเอกต้องเข้าไปเสี่ยงตายเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งถ้าหนีไปแต่แรกก็รอดแรก แต่เพื่อลูกพ่อทำได้ แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงพวกนี้รอดชีวิตเสมอไปจนจบเรื่อง แต่การที่มันจะรอด พระเอกต้องเสี่ยงตายให้คนดูลุ้น ไม่ก็เพื่อนพระเอกมักจะตายแทนคนนึง อ้าว
  • 10. สร้างความฮึกเหิมด้วยคำพูดของท่านประธานาธิบดี

    หลังจากภัยพิบัติได้ผ่านไปก็ได้สร้างความเสียหาย ประชาชนก็เริ่มหมดกำลังใจในการอยู่ต่อ ต้องเป็นหน้าที่ของท่านประธานาธิบดีที่ต้องออกมากล่าวถ้อยคำปลุกใจประชาชนตอนกลางเรื่อง เพราะเขาคือคนเดียวที่จะช่วยเรียกศรัทธาผู้คนกลับคืนมาได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนเขียนบท ว่าจะสรรหาถ้อยคำออกมาให้ซึ้งและกินใจขนาดไหน และแน่นอน ท่านมักจะรอดเสมอ เพื่อมากล่าวขอบคุณประชาชนในตอนท้ายเรื่อง

    11. คนแก่สละชีพ

    มันจะต้องมีเหตุการณ์ที่ครอบครัวพระเอกกำลังจะเอาตัวรอด แต่ต้องเกิดเหตุติดขัดอะไรซักอย่าง ทำให้ต้องมีการเสียสละเพื่อให้ครอบครัวพระเอกไปต่อ และคนๆ นั้นต้องตกเป็นคนแก่ที่สุดเสมอ เช่นพ่อพระเอก หรือพ่อนางเอก มักจะเป็นตัวละครที่บางทีก็น่ารำคาญเพราะชอบจู้จี้ขี้บ่น หรืออาจจะทำไม่ดีกับลูกไว้ เช่นขัดใจหรือเรื่องมาก แต่สุดท้ายก็เสียสละตัวเองเพื่อไถ่บาปหรือลบความผิดที่ทำให้ลูกไม่สบายใจ และมักจะกล่าวลาอย่างเท่ว่า ฉันแก่แล้ว อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ลูกนั่นแหละที่ต้องอยู่รอดให้ได้ โห เท่ซะไม่มี แต่ตัวเองก็ปล่อยมือตกจากที่สูง ร้องอ้า แล้วก็ตายอย่างน่าอนาถ

    12. เสี้ยนหนามพระเอกก็ไม่รอด

    แรกเริ่มเมื่อนางเอกหย่ากับพระเอกไป นางก็จะไปมีผัวใหม่ แต่ผัวใหม่ก็จะกาก คือเก่งสู้พระเอกไม่ค่อยได้ แต่เมียใหม่พระเอกมักจะใช้แรงงานเก่งกว่า ซึ่งในจุดนี้พอเกิดปัญหา ผัวใหม่นางเอกก็ช่วยพระเอกกับนางเอกไว้ได้ แต่ก็มักจะไม่รอด เพราะความโง่ก็ดี หรือไม่ก็เสียสละให้นางเอกเพื่อพิสูจน์ตัวเองบลาๆๆ ก็ดี แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของคนเขียนบทก็คือคุณจะปูทางให้พระเอกนางเอกกลับมารีเทิร์นกันไง ทำไมเราจะไม่รู้ล่ะ แหม

    13. พระเอกแม่งรอดตายทุกอย่าง (และเมียพระเอกด้วย)

    สุดท้ายต่อให้ภัยพิบัติทำลายโลกไปเท่าใด คนตายครึ่งโลก แต่ครอบครัวพระเอกรอดแทบจะทุกคน พระเอก เมียพระเอก ลูก รอดกันหมด (และสัตว์เลี้ยงด้วย) ในบางฉากที่ถ้าเป็นคนธรรมดาก็คงจะตายห่ากันไปแล้ว แต่พระเอกรอดเสมอ เพื่อให้พระเอกกับนางเอกก็จะมองออกมาจากระเบียงหรือลานกว้าง มองโลกที่กำลังฟื้นตัวเองแล้วก็บอกแก่กันว่า เราจะกลับมาเริ่มต้นกันใหม่นะ ภาพก็เฟดออก จบ เครดิตขึ้น น้ำเน่าซะไม่มี แต่ก็นั่นแหละ ถ้าแกตายตั้งแต่ 5 นาทีแรกเค้าก็คงไม่เรียกแกว่าพระเอกหรอก จริงมั้ย

    นี่เป็นส่วนหนึ่งของมุกคลาสสิกที่หนังเหล่านี้ชอบใช้กัน เอาเป็นว่าถ้าเราเห็นหนังภัยพิบัติเข้าฉายอีกเมื่อไหร่ ให้ตระหนักรู้ได้เลยว่ามันจะต้องใช้มุกเหล่านี้อย่างน้อยก็ข้อสองข้อแน่นอน

    -- เรียบเรียงจาก Watchmojo --
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in