เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ส่องไพร่iwannabacktobed
วันที่เก้า "หลังตั๋วหนัง"
  • 13:45น.

                  เปลือกตาหนักค่อยๆฝืนแรงโน้มถ่วงโลกยกขนตาทั้งแผงขึ้นให้นัยน์ตาทำงานมองตู้กระจกฝุ่นเขรอะ เสื้อผ้าที่ยับย่น ที่นอนไม่เข้าที่เข้าทางบ่งบอกถึงการใช้งานหนักเมื่อคืนนี้ 


    "อื้อ..."


    ความปวดแล่นแปร๊บเข้าที่ขมับ แขนปวดระบมกล้ามเนื้อเต้นกันตุบตับ สองมือยกนวดหว่างคิ้วคลึงให้อาการปวดลดลงบ้าง ก้มเคาะหน้าจอโทรศัพท์ สองครั้งให้โชว์เวลา


    '13:54'


    "หลับไปตั้งแต่สามทุ่มเลยเหรอ...อืมม"


    ครางเบาๆในลำคอ เหมือนไปช่วยกระตุ้นอาการคันคอให้กำเริบไอออกมาสองสามครั้งทำให้รู้ว่ากำลังมีไข้อ่อนๆ แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป จะไม่ให้ไข้แค่นี้มาทำให้เรื่องพังเป็นโดมีโน ลุกขึ้นพับผ้าห่มและจัดผ้าปูให้เรียบตึงจนเป็นที่พึงพอใจ เดินหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าห้องน้ำ



    14:36 น.
                  เดินออกจากห้องน้ำ เปลือกตายังคงหนัก ความอยากอาหารไม่ปรากฏ กลิ่นอาหารยิ่งทำให้พะอืดพะอมมากยิ่งขึ้น เบือนหน้าหนีแล้วเข้าห้อง ค่อยๆล้มตัวแนบไปกับที่นอนเรียบตึง แขนขาประท้วงอย่างรุกเร้าให้อยู่ในท่าปลาดาวอย่าขยับไปมากกว่านี้เลย ไข้ที่เพิ่มขึ้น นึกอยากจะไปหยิบเจลมาโปะ ลุกขึ้นสิ ลุกขึ้นสิ ลุกขึ้นสิ. . . .สติลบเลือนปล่อยให้ไข้หวัดเข้ากัดกิน


    17:45 น.

                  หยีตาขึ้นมองเพดาน แสงแดดอ่อนยามเย็นส่องผ่านผ้าม่านเขียวกระทบเข้ากับเพดานขาวครีมย้อมให้เป็นสีเขียวอ่อนๆ ซุกหน้ากับหมอนพร้อมบิดขี้เกียจ ลมเอื่อยๆจากพัดลมชวนให้นอนต่อ เปลือกตาไม่หนักอย่างเมื่อเช้าเท่าไหร่นัก อาการเย็นแห้งๆที่หน้าผากทำให้รับรู้ได้ว่ามีคนเอาเจลลดไข้มาแปะให้ อาการอื่นยังคงเป็นแฟนคลับตามติดอย่างเหนียวแน่น ถอนหายใจออกมายาว ปล่อยสายตาทอดยาวมองหลอดไฟที่ผ่านการใช้งานมานาน เสียงลงส้นเท้าหนักของพี่ชายที่เดินย่ำหนักกระทบพื้นไม้บนบ้านปลุกให้ลุกจากภวังค์ มองไปที่หัวเตียงนาฬิกาตั้งโต๊ะบอกเวลาห้าโมงเย็นจะหกโมง พลิกตัวกลับมานอนท่าปลาดาวหงายพุงชี้ฟ้าอีกครั้ง พล่างคิดตารางชีวิตพรุ่งนี้คร่าวๆ ไปเปิดชมรมที่มหา'ลัย...


    "โอ้ยแม่งเอ๊ย ต้องจ่ายเงินให้ไอ้กิจกรรมบ้าๆนี่อีกแล้ว"


     ลุกขึ้นนั่งตั้งสติ แล้วเดินไปหาข้าวกินเพื่อจะได้กินยา


    19:20 น.

                  ยืนมองโต๊ะที่รกรุงรัง หลังจากกินข้าวเสร็จ โต๊ะที่ขาดการดูแลเอาใจใส่เพราะหลังกลับมาจากมหา’ลัยก็ได้แต่โยนของไว้ เหลือพื้นที่ไว้แค่ทบทวนบทเรียนขนาดพื้นที่เท่าแผ่นรองตัดเท่านั้น เอาวะยาก็กินแล้วจึงเริ่มจัด คัดแยกขยะออกมา เดินไปหยิบถุงขยะมาเตรียมพร้อม จับสลิปแยก(เป็นโรคเก็บใบเสร็จ และตั๋วรถเมล์) เก็บใส่กระป๋องใส่สลิป แยกตั๋วรถเมล์ออกไปอีกกระป๋อง แล้วหันมาจัดหมวดหนังสือ แยกหนังสือเรียน นิยาย(แยกนิยายฆาตรกรรม ชีวประวัติ วรรณกรรมเยาวชน วรรณกรรมผู้ใหญ่) การ์ตูน(แยกสำนักพิมพ์ ประเภท สี ลำดับเล่ม) โต๊ะโล่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มองเวลาตอนนี้สองทุ่มกว่าแล้ว เหลือเพียงกองหนังสือที่ซื้อไว้แต่ยังไม่ได้อ่าน จัดแบ่งว่าอยากอ่านอันไหนมากที่สุด เมื่อจัดเสร็จแล้ว ได้หนังสือที่อยากอ่าน ก็ยกกองใหญ่ไปไว้ที่ชั้นหนังสือ จัดเรียงอย่างสวยงาม


    21:04 น.

                  กลับมานั่งที่โต๊ะ มองหนังสือเรียนที่ต้องทบทวน กับหนังสือที่อยากอ่าน

    “สักแว๊บเต่อะ”

    หยิบหนังสือของฮารุกิ มุราคามิเปิดไปหน้าที่มีที่คั่นอย่างสงสัยว่าเคยอ่านไปแล้วเหรอ เมื่อพลิกหน้ากระดาษออกดู ก็พบว่าคือตั๋วหนังน่าจะเป็นของวันที่ไปซื้อหนังสือแล้วใส่เอาไว้ เป็นตัวหนังของเรื่องAtomic Blonde ทำให้ชวนนึกถึงหลายๆฉาก ทั้งของหนูโซเฟีย โบเทลล่า ความหล่อของบิลลล ความกรีดตาคมของบิลล ความน่ารักของบิลลล ยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่คนเดียวสักพักก็หยิบกล่องเทปคาสเซ็ทจากเรื่องGuardian of the Galaxyที่แฮนเมดทำจากกระดาษซึ่งเป็นที่เก็บสะสมตั๋วหนัง มือไม้อยู่ๆก็อ่อนเปลี้ยเพลียแรงทำตั๋วหนังหลุดมือ


    21:21 น.

                  น้ำตาไหลเปื้อนแก้ม โพร่งจมูกไม่สามารถควบคุมน้ำมูกให้อยู่ในโพร่งได้ ปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรง กลั้นเสียงไม่ให้คนในบ้านรับรู้ ฟันกระต่ายคู่หน้ากัดริมฝีปากล่างช้ำ สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เสียงน้ำมูกกระทบโพร่งจมูก สูดลมเข้าปอด ตัวสั่นเมื่อผ่อนลมหายใจออก 

    "ฮึก! ฮึก!" 

    พยายามเก็บเสียงให้มากที่สุด ปากเจ่อบวมขึ้นเรื่อยๆ ตาหยีภาพพร่ามัวน้ำตายังคงไหลซึมเป็นสาย จ้องมองด้านหลังตั๋วหนังเขียนด้วยลายมือตัวเอง ที่บ่งบอกอารมณ์รื่นเริงในขณะนั้น ความสุขจากตัวหนังสือพรั่งพรูออกมา ยิ่งทำให้รู้สึกเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นความกระอักกระอวนที่ไม่สามารถแผดเสียงกรีดร้องบอกผู้อื่นได้ ไม่สามารถเม้ามอยกับเพื่อนสาวปรึกษาเพื่อนหนุ่ม หรือจับเข่าคุยกับครอบครัว เพราะตัวเองคิดเสมอว่า สิ่งที่เกิดเป็นสิ่งที่ตัวเองทำ เหมือนเชือกที่ผูกแล้วก็ต้องแก้เอง ซุกหน้าลงกับแขนตัวเอง ตัวสั่นครืน มือจับตั๋วชูขึ้นแน่นอย่างหวงแหน ตั๋วที่เขียนไว้


    "ดูพร้อมYOU"

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in