2:30น.
ลืมตาขึ้นมองเพดาน จะใช้คำว่ามองก็คงยาก เพราะความมืดปกคลุม ไม่มีแสงจากที่ไหนลอดมากระทบรูม่านตา กระพริบตาถี่ขึ้นภาพลางๆในความมืดสายตาค่อยๆปรับชัดขึ้น ลูบมือไปบนที่นอนควานหาโทรศัพท์มือถื ที่ลูบเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เริ่มเหนื่อยและขี้เกียจ สุดท้ายก็กางแขนขาออก นอนต่ออีกสักยก ตาเริ่มพริ้ม อากาศและความอุ่นเป็นใจ ที่นอนไม่เคยนอนสบายเท่านี้มาก่อนเลย "อืมมมม..." ตาปิดสนิท
.
.
.
.
"ปิ๊ปๆๆๆ ปิ๊ปๆๆๆ ปิ๊ปๆๆๆๆๆ" แสงสว่างแว๊บๆเปิด แว๊บปิดอยู่ปลายเท้า
"อืม...เมื่อกี้หาเจอก็แปลกแล้วละ"
ก่อนที่ทั้งบ้านจะตื่นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุก ฮึบตัวขึ้นนั่ง เลื่อนปุ่มให้หุบปากแล้วดับไฟลง นั่งทบทวนว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง พล่างถอนหายใจออกมาหนักๆหนึ่งครั้ง
3:40น.
ล้มตัวลงนอนที่โซฟาขนาดหนึ่งเมตรห้าสิบในห้องทำงานของแม่ หลังจากเดินทางออกมาจากบ้าน ฝาเพดานที่เป็นไปตามฉบับโรงพยาบาล ขาวโพลน ไฟสว่างจ้า ในหัววนเรื่องภารกิจที่ต้องสะสางในวันนี้ ไปซื้อใบสอบJLPT กลับมาเรียน ไปทำคัทเอาท์ให้เสร็จ ตามคุณลุงมารับ จัดแจงเงิน บอกหน้าที่ให้เพื่อนช่วยเรียบเรียงของออกจากรถ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ด- - - คร่อก
5:30น.
"นี่...แม่ไปทำงานก่อนนะลูก"
"อื้ออ" แม่เข้ามาสะกิดหวานๆปลุกให้รู้เวลา และเตรียมตัวตื่นได้แล้ว แม่เดินออกจากห้องไป เสียงกลอนลงล็อคดังแกร๊ก บิดขี้เกียจสองสามครั้ง ลุกขึ้นพับผ้าผ่มให้เรียบร้อย และจัดการอาหารเช้าบนโต๊ะที่แม่เตรียมไว้ให้ เปิดผีซ่าฮานาดะดูไปพร้อมกับการกินไปด้วย
6:30 น.
เดินก้าวยาวสลับสั้นไปมหาลัย สติเหลือริบรี่ อาการนอนน้อยเริ่มแผลงฤทธิ์ หาวรอไฟจราจรให้เปลี่ยนเป็นแดง
เมื่อถึงมหาลัย นั่งเตรียมเอกสารที่ต้องไปส่งในวันนี้ มองนาฬิการอเวลา เพื่อนทักไลน์บอกตำแหน่งให้เคลื่อนตัวไปหา
9:40 น.
เดินทางไปส่งเอกสารJLPT (สอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น) ยืนๆ นั่งๆรอให้บริษัทเปิดทำการ เจ้าหน้ายิ้มแย้มเพราะท้องอิ่ม ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี ทำให้ชื่นใจ
10:50 น.
วิ่งกระหืดกระหอบกับเพื่อนอีกสองคน เพื่อทราบว่าอาจารย์ยกคลาส "ค่ะ ขอบคุณมาก" จึงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เพื่อนอยู่กันเกือบครบ จึงพากันไปทำคัทเอาท์ต่อ เพราะวันนี้ต้องแบกขงไปที่สยามพารากอน คุณลุงรถรับจ้างจะมาถึงมหาลัยในเวลาบ่ายสามตรง แต่ของยังไม่เรียบร้อยดี
13:05 น.
ภายในห้องเย็นเฉียบ มีคำทำงานเพียง 7 คน จาก43 "ฮึบ ไม่เป็นไรๆ" เสียปลอบตัวเองอยู่ภายในหัว ไม่มีใครช่วยก็ไม่เป็นไร งบโดนตัดก็ไม่เป็นไร ไม่มีสวัสดิการอะไรเลยก็ไม่เป็นไร ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดเป็นพ ได้แต่ยิ้มให้กำลังใจกันและกัน
14:30 น.
"!!!!!" เวลากระชันชิดเข้ามา แต่เสาที่ต้องเอาไปยังประกอบไม่เสร็จ "โปก โปก โปก!" เสียงตอกไม้ดังกังวาลไปทั้งตึกคณะ ผู้คนต่างๆยื่นหน้าออกมาสังเกตการณ์ แอบมองประตูห้องพักอาจารย์เป็นระยะ ทุกครั้งที่บานประตูเลื่อนออก หัวใจเต้นรัวถี่ไม่เป็นจังหวะ เห็นท่าจะไม่ดี ตะปูไม่ทะลุไม้เลย ตัดสินใจวิ่งไปที่ฝ่ายวัสดุ ขอร้องพี่ๆคนสวนมาช่วย "คุณพระ คุณเจ้า ดั่งฟ้าประทานพร" พี่เขามาตอกเสร็จภายในสิบนาที
15:02 น.
รถกระบะติดหลังประกอบจอดเทียบเคียงข้างไม้อัดสีแดง รุ่นพี่ปีสี่เดินชิลผ่านมาสองคน เห็นเข้าจึงเข้ามาช่วยยกไม้ขึ้นหลังรถ แต่ลำบากนิดหน่อยเพราะไม้ทั้งกว้างและสูง สุดท้ายต้องถอดหลังคาออก เมื่อขนของเสร็จก็ได้เวลาออกเดินทาง เพื่อนชายกับแฟนของเขานั่งหน้าเป็นกับคนขับ หญิงสาวห้สคนปีนขึ้นหลังกระบะเปิดประทุน จับไม้อย่างมาดแมน
15:10 น.
ฟ้าฝนเป็นใจ ไม่มีเมฆครึ้มให้ใจโจ้งครึมหวั่นใจกระดาษอาจเปียกฝน แต่เพราะฟ้าโล่งแสงแดดจึงทำงานเต็มกำลัง เหม่งที่ทำงานเหมือนดวงอาทิตย์อีกสี่ดวงแข่งกันเปล่งแสง รถเคลื่อนตัวไปตามถนนเรื่อยๆ มีร่มบ้าง แต่น้อย เมื่อถึงสยาม ความบันเทิงจงเริ่มขึ้น รถไต่ขึ้นทางลาด เสียศูนย์เล็กน้อย เมื่อไล่ระดับสูงขึ้น สูงขึ้น สูงขึ้น สูงขึ้น ความเสียวเริ่มวิ่งตามมาติดๆ ไม้ไหลเล็กน้อย ท้ายกระบะที่ไม่ได้ปิด ยิ่งทำให้ท้องน้อยจุกแน่น ไหนจะเสียงโหยหวนเล็กๆจะเพื่อนที่นั่งอยู่ริมสุด ใกล้ท้ายกระบะ
"ทำไมต้องมาเสี่ยงตายแบบนี้วะ!!!!!!"
สุดท้ายเราก็แผดเสียงออกมา แต่ดังคล้ายสถบกับตัวเอง
16:03 น.
รถจอดที่ชั้น5หลังเวทีฮอลในสยาม เพื่อนทยอยลงจากหลังกระบะแบบไม่มีอะไรติดมือลงไป คนในสุดอย่างเราจึงได้รับหน้าที่ลำเลียงของส่งไป ส่งไปเรื่อยๆจะหมด และเหลืองานไม้หนักอีกชิ้น เพื่อนชายอีกคนที่รีบรับห่อกระดาษ และของตบแต่งได้แต่มอง มอง และมอง โอเค! เราจัดการเอง โดดลงหลังกระบะที่เหมือนเท้าถึงพื้น พื้นหลังกระบะ สูงเทียบท่าเอว แบกไม้และเดินเข้างาน
16:10 - 17:40 น.
ปัญหาล้านแปดเกิดขึ้นให้แก้ตลอดเวลา เกือบทุกช่วงลมหายใจ แม้จะเข้าใจดีว่าไม่มีแววชนะ แต่ใจที่ฮึบสู้มาขนาดนี้ จะต้องไม่หยุดและปล่อยงานลอยแพ ฮึบ!! เอาวะ จนสำเร็จในที่สุด มองนาฬิกาบอกเวลา17:32น. แม่โทรมาถามไถ่ช่องทางการกลับบ้านด้วยความเป็นห่วง จึงนัดแนะสถานที่มารับ
20:20 น.
ถึงบ้านด้วยไข้สูง ไหล่ที่ปวดล้าจากการตอกค้อน และแบกไม้ ร่างกายทรุดโทรมลง อาบน้ำด้วยมือที่สั่นแทบขาดใจ ความเบื่ออาหารกำเริบ นั่งทบทวนบทเรียนเล็กน้อย ก่อนสมองจะสั่งการให้ไปนอน
21:10 น.
จัดตารางชีวิตคร่าวๆในหัวว่าต้องทำอะไรบ้างในวันถัดๆไป อยู่ๆเรื่องเธอคนนั้นก็แล่นเข้ามาในสมองและความรู้สึก จู่ๆน้ำตาก็ไหล และหลับไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in