เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Midnight Thought (ทูคิมดง)myephemeralmind
OS: Strawberries & Cigarettes




  • “หยิบไฟแช็กให้หน่อยสิ”



    มันเป็นประโยคแรกที่ดอมินิกส์ คิม หรือดอม เอ่ยขึ้นกับดงฮยอน ในงานปาร์ตี้ของใครสักคนในโรงเรียน ในตอนนั้นที่ดงฮยอนหลบหนีความวุ่นวายของงานมาอยู่ในห้องครัว



    ดอมเป็นหนุ่มเอเชี่ยนสุดฮอตในชมรมรักบี้ที่มิชา เพื่อนในคลาสของดงฮยอนชอบพูดถึงให้ฟัง ดงฮยอนมารู้ทีหลังเมื่อได้คุยต่อจากนั้นเล็กน้อยว่าที่จริงแล้วหมอนั่นชื่อดงฮัน อันที่จริงก็เหมือนๆกับตัวเขาเองที่เมื่อมาเรียนที่นี่ก็มักจะให้คนเรียกว่าดีนซึ่งเป็นชื่อที่โฮสต์มัมตั้งให้มากกว่าจะบอกว่าชื่อดงฮยอน



    ดงฮยอนมาแลกเปลี่ยน ส่วนดงฮันย้ายมาอยู่กับครอบครัวได้หลายปีแล้ว



    ในโรงเรียนเล็กๆทางตอนเหนือของอเมริกา พวกเขาเป็นเอเชียแค่ไม่กี่คนและเป็นคนเกาหลีสองคนในที่แห่งนั้น ดงฮยอนคิดว่ามันเป็นเหตุให้พวกเขาสนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็ว อย่างน้อยๆดงฮันก็เป็นคนที่ดงฮยอนสามารถพูดภาษาบ้านเกิดด้วยได้อย่างสบายใจ



    ดงฮยอนคิดแบบนั้นโดยพยายามมองข้ามสายตาที่มักทำให้เขารู้สึกปั่นป่วนในใจ ตั้งแต่ครั้งที่เขาส่งไฟแช็กให้อีกฝ่ายตอนที่เจอกันครั้งแรก







    ดอมินิกส์ คิม หรือ คิมดงฮัน คนคนนั้นกำลังอยู่ข้างเขา เป็นคนขับรถให้นั่งซะด้วย หมอนั่นโทรเข้ามาที่มือถือของเขาตอนกลางดึก คิดถึง คือคำที่หมอนั่นพูดออกมาจากปลายสาย และในคืนเดียวกันนั้นดงฮยอนก็ปีนออกนอกรั้วบ้านเมื่อรถของอีกฝ่ายมาจอดเทียบ



    “ไง” หมอนั่นเอ่ยทักพร้อมดึงมือของเขาไปกุมไว้หลวมๆก่อนจะแนบริมฝีปากลงที่หลังมืออย่างแผ่วเบา “มือของนายเย็นเฉียบเลยนะ”



    “อากาศมันหนาว”



    “เหรอ” ดงฮันหัวเราะในลำคอ “แต่เหงื่อซึมตามมือเลยนะ”



    ดงฮยอนชักมือของตนเองกลับมาวางบนหน้าตัก ให้ตายสิ ด้วยรอยยิ้มกวนๆที่ดูเหมือนจะรู้ทันไปซะทุกอย่าง เขาชักจะเริ่มเกลียดหมอนี่ขึ้นมาแล้ว แต่ก็เกลียดตัวเองด้วยที่ตามออกมาอย่างง่ายดาย





    รถค่อยๆเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนอย่างไม่รีบเร่งนัก มีเพลงของ Oh Wonder คลอไประหว่างทางช่วยทำลายบรรยากาศความเงียบ ดงฮยอนเอนหัวพิงกับกระจกรถ สายตาเหลือบมองไฟถนนตามทาง เขาไม่คิดถามอีกฝ่ายสักนิดว่ากำลังจะไปที่ใด



    ดงฮันเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมันข้างทาง หมอนั่นแวะลงไปยังร้านสะดวกซื้อ ใช้เวลากับเคาท์เตอร์สักพักก่อนจะเดินออกมา ดงฮยอนทำเป็นว่าในมือของดงฮันมีแค่กล่องบุหรี่เท่านั้น



    เขานั่งในรถรออีกฝ่ายที่ยืนหันหลังสูบบุหรี่อยู่ด้านหน้า ยอมรับเลยว่าแผ่นหลังกว้างสมเป็นนักกีฬากับแจ็กเก็ตยีนส์ที่คลุมทับอยู่นั้นเข้ากับผมย้อมสีบลอนด์ของดงฮัน



    “ฉันไม่ชอบกลิ่นบุหรี่เท่าไหร่” ดงฮยอนจำได้ว่าตัวเองเคยพูดแบบนั้น และเขาจะขอคิดไปว่ามันคงเป็นเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายยืนพ่นควันบุหรี่อยู่ข้างนอกรถ และไม่ลืมเคี้ยวหมากฝรั่งก่อนกลับเข้ามา



    “รู้ตัวมั้ยว่าตัวเองกำลังจ้องฉันแบบไม่วางตาเลย” ดงฮันเอ่ยขึ้นตอนกลับมานั่งที่คนขับ



    “รู้”



    “นายนี่นะ” หมอนั่นเดาะลิ้นของตนเองเข้ากับกระพุ้งแก้ม แววตาวาววับอย่างเห็นได้ชัดแม้จะอยู่ในความมืดที่มีเพียงแสงไฟจากนอกรถส่องเข้ามา ดงฮยอนไม่ปฏิเสธอะไรเมื่อดงฮันเคลื่อนตัวเข้าหา เงาของคนตรงหน้าทาบทับลงมา มีเพียงกลิ่นบุหรี่ที่ยังคงติดอยู่เท่านั้นที่ทำให้เขาต้องนิ่วหน้า ก่อนจะถูกมอมเมาด้วยรสสตรอเบอร์รี่ที่เขาคาดว่ามาจากหมากฝรั่งที่อีกฝ่ายเพิ่งเคี้ยวไป



    มันไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาจูบกัน อันที่จริง มันเริ่มตั้งแต่วันที่เจอกันครั้งแรกแล้ว หากแต่ว่าครั้งนั้นมีเพียงกลิ่นบุหรี่ปนเปไปด้วยเหล้าจนเขาต้องผลักอีกฝ่ายทิ้ง ก่อนที่มันจะตามมาด้วยครั้งถัดๆไปที่กลิ่นบุหรี่เบาบางลงในสถานที่ลับตาคนที่ต่างกันไป



    อุณหภูมิในรถค่อยๆสูงขึ้น ดงฮยอนคิดว่าเป็นเพราะร่างกายที่บดเบียดเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ จนกระทั่งมือของดงฮันสอดเข้าใต้เสื้อยืดของเขาและแตะลงบนหน้าท้อง พวกเขาจึงผละออกจากกันเพราะไม่มีใครอยากให้ครั้งแรกของทั้งคู่จบลงในรถ



    “สตรอเบอร์รี่เหรอ” ดงฮยอนเอ่ยแหย่ตอนที่อีกฝ่ายถอนจูบออกไป ดงฮันปาดนิ้วซับคราบน้ำลายที่เลอะตามมุมปากให้ ผมเผ้าของทั้งคู่ดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง



    “ในร้านมันเหลือแค่นั้น”



    “ฉันชอบนะ...” ดงฮยอนพึมพำ แต่ในรถคันไม่ใหญ่นักเสียงนั้นไม่เบาเกินจะได้ยิน อีกฝ่ายหัวเราะในลำคอก่อนจะสตาร์ทรถ ชัดเจนว่าครั้งนี้คนขับรถดูร้อนรนกว่าขามาซะอีก







    ทั้งคู่ยืนกัดริมฝีปากแน่นตอนที่ยืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์เช็คอิน มองกุญแจที่พนักงานโมเต็ลยื่นให้ก่อนจะมองหน้ากันเงียบๆ ดงฮยอนไม่แน่ใจนักว่าที่จริงแล้วใครใจร้อนกว่ากันระหว่างดงฮันที่กระชากเขาเข้ามาจูบตั้งแต่ที่เปิดประตูห้องหรือว่าเขาที่ดันอีกฝ่ายชิดประตูตอนจะจูบตอบ พวกเขาพากันมาถึงเตียงได้ถูกแม้ว่าจะอาศัยเพียงแสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาพอให้เห็นบางอย่างในห้อง



    ดงฮยอนรู้อยู่แล้วว่าร่างกายของนักกีฬาที่ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างดงฮันนั้นต้องดูดี แต่เมื่ออีกฝ่ายกระชากแจ็กเก็ตยีนส์ของตนเองออกตามด้วยเสื้อยืดสีขาว สิ่งที่เขารับรู้มาก็ไม่ผิดเพี้ยนไปเลยแม้แต่น้อย



    เจ้าซองสีเงินในมือของดงฮันคือสิ่งเดียวกับที่เขาเห็นตอนอีกฝ่ายออกจากร้านสะดวกซื้อ ดงฮันคาบมันเอาไว้และใช้อีกมือฉีกออกอย่างชำนาญ ภาพตรงหน้าทำให้หน้าของดงฮยอนเห่อร้อนขึ้นมายิ่งกว่าครั้งแรกที่จูบกันเสียอีก



    “กลัวไหม” อีกฝ่ายกระซิบถามที่ข้างหู ดงฮยอนส่ายหัวช้าๆแม้ว่าในใจจะเริ่มรู้สึกหวาดหวั่นตามประสาคนไม่เคย “สัญญาว่าจะเบามือ”



    “อ...อืม”



    “ถ้าเจ็บบอกนะ”



    มือของดงฮยอนกำผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อร่างกายเปิดรับสัมผัสแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน มันถาโถมเข้ามาพร้อมกับการก้าวเข้าสู่โลกที่ไม่เคยพบเจอ ตามเนื้อตัวของดงฮันยังคงมีกลิ่นบุหรี่ติดอยู่ให้รู้สึกได้แต่มันไม่ทำให้ดงฮยอนรู้สึกอยากจะผลักไสอีกฝ่ายออกไปสักนิด



    “ดงฮัน...”



    “ฉันชอบที่นายเรียกชื่อนี้ของฉัน” เจ้าของชื่อจูบซับลงบนริมฝีปากของเขา มือของดงฮยอนปัดป่ายไปตามกล้ามเนื้อของอีกฝ่าย มือหนาของดงฮันเฟ้นกลับตามร่างกายของเขา



    “เรียก...ชื่อฉัน” เขากอดคอของดงฮันแน่นขึ้นพร้อมกับกระซิบกลับที่ข้างหู “เรียกชื่อของฉัน”



    “ดงฮยอน” ริมฝีปากของดงฮันแตะลงข้างลำคอของเขา ไล่ลงสู่ไหปลาร้าและหน้าอกพร้อมเสียงนุ่มทุ้มที่พึมพำไปด้วย “คิมดงฮยอน”







    ดงฮยอนลืมตาขึ้นมาพร้อมความรู้สึกปวดแปลบที่สะโพก เขาพบว่าดอมินิกส์ คิมหรือคิมดงฮันคนนั้นกำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่หน้าเขาโดยที่แขนหนักๆของอีกฝ่ายทับตัวเขาอยู่



    อืม...หรือจะเรียกว่ากำลังโอบกอดเขาอยู่ก็ได้



    เขาเลื่อนมือของอีกฝ่ายออกอย่างเบามือ ก่อนจะค่อยๆลุกไปนั่งที่ปลายเตียง บนพื้นรอบๆนั้นมีเสื้อผ้าของพวกเขาวางอยู่อย่างไม่เป็นที่เป็นทางดีนัก สายตาของเขาเหลือบพบกล่องบุหรี่และไฟแช็กที่ตกอยู่ไม่ไกลนัก ดงฮยอนเอื้อมตัวลงหยิบมันขึ้นมา เขามองมวนบุหรี่ในมือก่อนจะพยายามจุดไฟแช็กอยู่สองสามครั้งกว่าไฟจะติดพอให้เขาจุดบุหรี่ในมือขึ้นด้วย อย่างที่คิด เขาสำลักควันเข้าตั้งแต่ครั้งแรกที่ลองสูบจนต้องยอมดับบุหรี่ในมือไป



    “แอบสูบแบบนี้ไม่กลัวกลับบ้านไปแล้วที่บ้านจับได้เหรอ หืม?” อีกฝ่ายกอดเข้าที่เอวของเขาก่อนจะเกยคางลงบนไหล่ ดงฮันคลอเคลียเขาอยู่สักพักก่อนจะแนบริมฝีปากลงที่ข้างลำคอ



    “มันก็ไม่เลว...”



    “โกหก”



    ใช่ ดงฮยอนโกหก กลิ่นของบุหรี่ที่เพิ่งดับไปยังคงลอยฟุ้งอยู่ทั่วห้อง ดงฮยอนไม่ชอบกลิ่นขมปร่าที่น่าเวียนหัวของมันสักนิด



    ดงฮันที่ดูจะรู้ทันเขาไปเสียทุกเรื่องก็ดูจะจับได้ หมอนั่นดึงเขาให้หันไปหาแล้วแตะริมฝีปากลงมาก่อนจะค่อยๆแทรกซึมเข้าหาอย่างลึกซึ้งและดงฮยอนเองก็ตอบรับมันเป็นอย่างดี



    ไม่มีสัมผัสไหนที่จะทำให้ดงฮยอนหลงใหลไปได้มากไปกว่าสัมผัสที่มาจากดงฮันอีกแล้ว







    Long nights, daydreams

    Sugar and smoke rings, I’ve been a fool

    But strawberries and cigarettes always taste like you



    Strawberries and cigarettes – Troye Sivan







    #มนต101

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in