เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Midnight Thought (ทูคิมดง)myephemeralmind
Ficlet: Stay in touch
  • Q: ในรายการ Produce101คุณยังคงติดต่อใครอยู่ไหม



    “เด็กฝึกที่ได้เลื่อนขึ้นเป็นคลาส B ขอให้ย้ายไปที่ห้องB ด้วยค่ะ”


    สิ้นเสียงของทีมงาน คิมดงฮันไม่รอช้ารีบปรี่ไปยังห้องของคลาส B ตามเด็กฝึกคนอื่นๆที่ได้ย้ายเกรดเหมือนกัน


    เปิดประตูเข้าไป ในห้องนั้นมีเด็กฝึกคลาส B หลายคนนั่งอยู่คนเหล่านั้นในเสื้อสีส้มจ้องมองมา คิมดงฮันรู้สึกฮึกเหิมใจเล็กๆเพราะอีกไม่นานเสื้อของเขาจะเป็นสีเหมือนคนเหล่านั้นถึงจะไม่ใช่คลาสเอแบบที่เด็กฝึกทุกคนใฝ่ฝัน แต่จากตอนแรกที่ได้เกรด D การขึ้นมาถึงสองคลาสก็นับว่าเขามาได้ไกลพอควร


    เมื่อนั่งลง คิมดงฮันพยายามสอดส่องสายตามองดูเพื่อนร่วมคลาสเผื่อจะเจอคนที่เขาพอจะรู้จักเด็กฝึกพัคจีฮุนกับทาคาดะ เคนตะที่ย้ายขึ้นมาจากเกรดซีเพลดิสคิมจงฮยอนที่ขึ้นมาจากคลาสดีพร้อมกับเขาพลันสายตาก็สบเข้ากับเด็กฝึกแบรนด์นิวมิวสิคคนหนึ่งที่เขาจำได้ว่าชื่อคล้ายๆกันคนๆนั้นใส่เสื้อสีส้ม หมายความว่าอยู่คลาสนี้มาแต่แรก ไม่ได้เลื่อนขึ้นไปแต่ก็ไม่ถูกย้ายไปไหน


    แบรนด์นิวมิวสิค คิมดงฮยอน


    จะจำได้คงไม่แปลกอะไรก็วันคัดเกรดเด็กฝึกจากแบรนด์นิวแสดงความสามารถไว้อย่างน่าทึ่งนี่นะอีกอย่างยังชื่อคล้ายๆเขาอีก


    มันเป็นแค่การสบตากันในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้นไม่สิ อันที่จริงมันแค่บังเอิญกวาดสายตาแล้วมาพบกันพอดีเสี้ยววิต่อจากนั้นต่างก็หันไปชวนเพื่อนข้างๆกันคุย


    แต่เสี้ยววินั้นสมองของคิมดงฮันได้รับข้อมูลมาประมวลผลเก็บไว้แล้วว่า ที่คลาสบีมีเพื่อนเด็กฝึกชื่อคิมดงฮยอน


    พอย้ายมาอยู่เกรดเดียวกันก็ดูเหมือนว่าคิมดงฮันจะได้เจอหน้าคิมดงฮยอนบ่อยขึ้นเวลาต้องซ้อมเพลงประจำรายการอย่างนายานาการเป็นเพื่อนร่วมคลาสทำให้ต้องได้เจอกันและมีโอกาสคุยกันบ้าง แต่ก็ยังไม่เท่าไหร่ต่างก็มีเพื่อนที่สนิทในคลาสของตัวเอง


    แต่ด้วยความที่ชื่อทั้งสองใกล้กันหรือส่วนสูงใกล้เคียงกัน สักเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งบล็อกกิ้งเพลงนายานาทั้งคู่จึงได้ยืนอยู่เยื้องๆกันดงฮันบังเอิญเห็นว่าในดวงตาเหนือถุงใต้ตาน้อยๆนั่นส่อแววเคร่งเครียดประมาณหนึ่ง


    ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเด็กฝึกในรายการทุกคนแบกความกดดันและความฝันมากับตัวทั้งนั้น ดงฮันเองก็เช่นกันตัวเขาเองยังเคยแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำเพราะความเครียดในรายการที่ทุกอย่างไม่แน่นอนและอะไรก็เป็นไปได้แบบนี้ถ้าไม่มีความกังวลใจเลยสิที่ดูจะเป็นเรื่องแปลก


    ติดที่เขาจำภาพคิมดงฮยอนที่ยิ้มหัวเราะอย่างสดใสกับเด็กฝึกจากแบรนด์นิวมิวสิคหรือเวลาเล่นกับเพื่อนเด็กฝึกที่สนิท รอยยิ้มนั้นทำให้บรรยากาศอึมครึมของรายการลดลงทันตาเห็นเลยล่ะ


    พอเห็นเจ้าของรอยยิ้มสดใสดูแบกรับมวลหม่นๆเอาไว้จู่ๆคิมดงฮันก็รู้สึกอยากจะเห็นเด็กฝึกคนนี้กลับมายิ้มหัวเราะได้แบบนั้นอีกครั้งหนึ่ง


    เขาอยากเป็นสาเหตุแห่งรอยยิ้มแบบนั้นบ้างแม้ว่าจะยังไม่สนิทกันเลยด้วยซ้ำ




    “พวกเรามาพยายามไปด้วยกันนะ” ดงฮันบอกแบบนั้น ตอนที่ยืนอยู่ข้างกันที่สนามเบสบอล ก่อนที่เพลงนายานาจะเริ่มขึ้นคิมดงฮยอนเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยแววตาฉงนแต่ก็พยักพเยิดรับคำของเขาด้วยรอยยิ้มตื่นๆ



    “อื้ม”


    พร้อมกับยกกำปั้นขึ้นเล็กน้อยคล้ายจะให้กำลังใจก่อนจะวางกลับไปตำแหน่งเตรียมพร้อมเหมือนเดิม


    ในตอนนั้น ไม่ใช่แค่คิมดงฮันที่ให้กำลังใจแต่เขาได้รับกำลังใจกลับไปด้วย



    หลังจากสเตจนายานามานั้นคิมดงฮันก็ไม่ได้มีโอกาสเจอดงฮยอนในการแข่งขัน แต่ด้วยความบังเอิญของลำดับทั้งคู่ได้มายืนข้างกันตอนที่จะต้องเลือกเพลงในการแข่งขันรอบโพสิชั่นภายหลังจากการอธิบายกติการต่างๆของการแข่งขันรอบนี้คุณผู้แทนโบอาก็ได้เปิดเผยรายชื่อเพลงที่ใช้ออกมา


    เด็กฝึกอันดับสูงมีโอกาสได้เข้าไปเลือกก่อนดงฮันใช้เวลาระหว่างนั้นในการพิจารณา แน่นอนว่าเขาปักธงการเต้นไว้ในใจเรียบร้อยติดที่ไม่ค่อยรู้จักเพลงที่ถูกเลือกมาสักเท่าไหร่


    ยิ่งพอคนลำดับก่อนหน้าผ่านไปเพลงก็เหลือให้เลือกน้อยลงทุกที


    “ตอนนี้เหลือเพลงไม่มากแล้วค่ะ”


    คุณผู้แทนประกาศออกไมค์เด็กฝึกที่เหลืออยู่มองหน้ากันเลิ่กลั่กเพราะหากว่าเพลงในตำแหน่งที่ต้องการจะแสดงหมดไปก็มีสิทธิ์จะต้องไปอยู่ในกลุ่มที่ไม่ต้องการได้


    “เลือกเพลงอะไรดีนะ”ดงฮันหันไปพึมพำกับคิมดงฮยอนที่ยืนอยู่ด้านข้าง


    “ฉันว่า Shape of you น่าจะเป็นเพลงที่ดีนะ”ดงฮยอนเอนมาหาทางเขาเล็กน้อย “หมวดเต้นนี่”


    “ทำไมคิดว่างั้น”


    “เพราะฉันชอบเพลงนี้”


    เจ้าตัวยิ้มกว้างพร้อมยักคิ้วข้างหนึ่งก่อนจะหัวเราะเสียงใสดงฮันส่ายหัวไปมาอย่างเหลือเชื่อกันท่าทีน่าหมั่นไส้นั่นทว่าข้อดีของมันคือช่วยลดความตึงเครียดของของบรรยากาศรอบกายลง


    “วีเอนเตอร์เทนเมนท์ คิมดงฮัน”เสียงของคุณผู้แทนเรียกเขาแล้ว


    คงต้องเป็นไงเป็นกัน


    “จะเชื่อนะ” เขาหันไปทางคิมดงฮยอนอีกครั้งอีกฝ่ายเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจทว่ารอยยิ้มบนหน้ายังคงอยู่เหมือนเดิม


    “เอาสิ”


    “ถ้าเพลงไม่ดีเจอแน่” ดงฮันตบบ่าของดงฮยอนหนึ่งทีก่อนจะเดินเข้าไปเลือกเพลงมีเสียงหัวเราะสดใสไล่หลังเขามา


    เขาตัดสินใจเลือกเพลง Shape of you โดยที่ไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเป็นเพลงยังไงเขาแค่รู้สึกเชื่อในคำพูดของอีกฝ่ายว่ามันเป็นเพลงที่ดี




    ใครจะคาดคิดว่ามันจะกลายเป็นสเตจตำนานของรายการ




    “อ้าว”



    มีเสียงทักขึ้นตอนที่ดงฮันไปเข้าแถวตามคำสั่งให้เรียงตามชื่อเมื่อหันกลับไปทางต้นเสียงจึงพบว่าเป็นเด็กฝึกคิมดงฮยอน คนที่ชื่อใกล้กับเขานั่นแหละตั้งแต่ที่ได้เจอกันแบบนี้ล่าสุดจริงๆก็ตอนสมัยอยู่คลาสบีตอนนั้นมีโอกาสได้คุยกันประมาณหนึ่ง จะว่าสนิทก็ใช่ แต่ยังไม่เท่าไหร่ต่างก็มีกลุ่มเพื่อนของตัวเองแถมผ่านมาสองสเตจก็ยังไม่มีโอกาสได้อยู่ร่วมทีมกันเสียที


    ทว่า เพราะเพราะชื่อใกล้จนแทบจะเหมือนกันแบบนี้ตอนนี้จึงได้นั่งข้างๆกัน ท่ามกลางเด็กฝึกนามสกุลคิมที่มีอีกนับสิบคนในรายการพวกเขาคุยกันเรื่องสัพเพเหระระหว่างรอเรียกเข้าห้อง รวมถึงได้หันไปคุยเล่นกันในระหว่างที่ทีมงานเปิดตัวอย่างเพลงในรอบคอนเสปต์


    ดงฮันพบว่าแม้จะไม่มีโอกาสได้คุยกันเท่าไหร่แต่พอมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ไม่ได้ขัดเขินอะไรกับการแซ็วกันเล่นหันไปเต้นท่าออกกำลังกายของดงมยองใส่กัน หรือเขาทำมือแบบเพลง I know you know แล้วอีกฝ่ายทำตาม


    เมื่อถึงคราวต้องแยกย้ายไปตามเพลงที่ได้รับใครจะคาดคิดว่าอีกฝ่ายจะได้มาอยู่ทีมเดียวกับเขา


    “เจอกันอีกแล้วนะ”คิมดงฮยอนเอ่ยเสียงใสก่อนจะนั่งลงข้างๆเขาที่พื้นเด็กฝึกที่ตามเข้ามาในห้องหลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีไม่นานแทดงฮยองที่เพิ่งเจอกันในสเตจ Shape of you ก็ตามเข้ามา


    คนในห้องจับกลุ่มคุยกันระหว่างรอคนครบต่างลองเดาเพลงที่พวกเขาจะได้รับเลือก ส่วนมากต้องการไม่ Never ก็ยอรอจวอกันทั้งนั้น


    “พวกนายอยากได้เพลงอะไรกัน” แทดงฮยองเอ่ยถาม


    “ฉันอยากได้ยอรอจวอนะ”ดงฮยอนที่นั่งข้างๆตอบพลางเล่นหัวเข่าเขาไปด้วยน่าแปลกที่นอกจากจะไม่ได้กระอักกระอ่วนใจอะไรการมีคิมดงฮยอนอยู่ร่วมทีมกันยังทำให้เขารู้สึกสบายใจแบบบอกไม่ถูก


    ที่ผ่านมาเขามักจะได้อยู่ร่วมทีมกับเหล่าฮยองที่อายุมากกว่าการมีเพื่อนร่วมทีมในวัยเดียวกันที่คุยกันถูกคอย่อมเป็นเรื่องดี




    พวกเราได้แสดงเพลง I know you know


    เด็กฝึกกว่าครึ่งในห้องดูสิ้นหวังโดยเฉพาะคิมแทดงที่เป็นคนอาสาไปเปิดแผ่นป้ายเอง รายนั้นน่ะภาวนาอย่างยิ่งที่จะไม่เจอเพลงนี้ดงฮยอนหันมาแค่นยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยกกำปั้นเป็นเชิงให้กำลังใจทั้งตัวเองและเขาดงฮันยิ้มตอบ




    “สำหรับเกมส์วันนี้จบลงแค่นี้ขอเชิญเด็กฝึกทุกคนกลับไปพักผ่อนได้ตามอัธยาศัยเลยครับ!”


    เด็กฝึกบยอนฮยอนมินกับยูฮเวซึงผู้รับบทบาทเอ็มซีรับเชิญของเกมส์กล่าวอย่างฉะฉานในขณะที่ผายมือให้เด็กฝึกคนอื่นๆในรายการออกจากโรงยิมไปพักผ่อนที่หอได้คิมดงฮันกับรูทเมทของเขาอย่างคิมดงฮยอนตัดสินใจว่าจะกลับไปพักที่หอก่อนที่จะมีการฝึกซ้อมในรอบเย็นทว่าก่อนจะได้กลับ เด็กฝึกบางคนถูกเรียกตัวไปให้สัมภาษณ์เพื่อนำไปออนแอร์ในรายการ



    “เจ้านั่นต้องไปเล่นเครื่องแถวฮงแดกอนแดประจำแน่เลย”

    ดงฮันเอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะตอนที่ทีมงานถามเกี่ยวกับดงฮยอนที่ได้คะแนนเยอะในเกมส์ PunchingKing



    ในระหว่างทางที่เดินกลับคนข้างตัวของเขาดูจะอารมณ์ดีไม่น้อยกับผลการเล่มเกมส์ Punching King เมื่อครู่ ถึงขนาดที่เดินฮัมเพลงมาทั้งทางกลับห้องพัก


    “ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ” ดงฮันเอ่ยถามขึ้นคนด้านข้างเหลือบมองเขาพร้อมด้วยใบหน้าที่ยังยิ้มแย้มทว่าคิ้วข้างหนึ่งเลิกขึ้นคล้ายไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดทั้งหมดคนเอ่ยถามเลยต้องพูดต่อเติม “ที่เล่นเกมส์เมื่อกี้น่ะ ดูอารมณ์ดีจังนะ”


    “ก็แหงสิเมื่อกี้นะเกือบชนะดงโฮฮยองเลยนา...” พูดพลางยกแขนขึ้นบิดไปมาเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อไปด้วย “949 เลยนะ 949”


    ว่าแล้วคิมดงฮยอนก็ฮัมเพลงเป็นเลขคะแนนตัวเองลากยาวไปจนถึงห้องพักของทั้งคู่


    คิดดูแล้วอะไรๆก็บังเอิญไปหมดตั้งแต่ชื่อที่คล้ายมากจนดูเผินๆแทบจะเหมือนกันแล้ว เกิดปีเดียวกันอยู่คลาสเดียวกันจนรอบคอนเสปต์ที่นั่งลุ้นเพลงอยู่ข้างๆกันแล้วได้มาอยู่ทีมเดียวกันเนี่ย


    ตอนนี้ที่ห้องพักก็ได้มาเป็นรูมเมทกันสองคนอีก


    จริงๆแล้วเขาค่อนข้างคิดถึงความโหวกเหวกของการอยู่รวมกันหลายๆคนแต่เมื่อมีการคัดออกจนเด็กฝึกน้อยลง การอยู่สองคนก็ไม่ได้แย่นักหรอก


    ไม่สิ ไม่แย่เลยการได้เป็นรูมเมทกับคิมดงฮยอนน่ะไม่มีทางเป็นเรื่องแย่เลย


    ข้อแรก พวกเขาอายุเท่ากัน 98 line จงเจริญการมีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวที่คุยกันได้อย่างสบายอกสบายใจน่ะมันย่อมดีที่สุดแล้ว


    ข้อที่สอง คิมดงฮยอนเป็นมนุษย์พลังบวกอย่างไรน่ะเหรอ ก็...แค่มองเห็นหมอนี่ยิ้มคุณก็ยิ้มตามได้แล้วไง หรือไม่ใช่กันล่ะอืม...ดงฮันหวังว่าจะไม่ได้มีแค่เขานะที่เวลาเผลอลอบมองรอยยิ้มนั้นแล้วต้องยิ้มตามออกมาทุกที


    ข้อที่สาม เวลาอยู่สองคนเหมือนจะได้คุยอะไรมากขึ้น เรื่องความกังวลใจบางอย่างที่ไม่เคยพูดออกไปตอนมีเพื่อนร่วมห้องจำนวนมากรู้สึกเหมือนว่าจะรู้จักกันมากขึ้นด้วย


    เพราะอยู่ทีมเดียวกันและเป็นรูมเมทกันเลยสนิทกันมากขึ้น...พูดแบบนั้นได้ไหมนะแต่ก็สนิทพอที่อีกฝ่ายจะมานอนเกลือกกลิ้งเล่นอยู่บนเตียงเขาแบบนี้นี่แหละ


    “ย่าห์ คิมดงฮยอน”


    “ขอนอนเล่นก่อนยังไม่ได้อาบน้ำแล้วไม่ค่อยอยากไปเตียงตัวเองเท่าไหร่”


    แล้วก็สนิทพอที่จะกวนประสาทกันแบบนี้แหละ


    “งั้นตามใจ”


    คิมดงฮันกลอกตาหนึ่งทีแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกฝ่ายบ้างตามมาด้วยเสียงโวยวายพร้อมหมอนที่ขว้างมาทางเขา


    “ย่าห์!”


    “ก็นายนอนบนที่นอนฉัน!”


    พอชี้ไปอีกฝ่ายก็เม้มปากแน่นแล้วพองลมไว้ที่แก้มเล็กๆเหมือนเด็กที่โดนขัดใจคิมดงฮยอนเปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิแล้วกอดอกอยู่อย่างนั้น


    อืม 
    พี่รองของแบรนด์นิวมิวสิคกำลังนั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์แบบเด็กๆอยู่บนเตียงของเขา


    และคิมดงฮันก็ไม่ต่าง เพราะเขาเองก็นั่งขัดสมาธิแล้วกอดอกบนเตียงของคิมดงฮยอนเช่นกัน


    “ถ้าอยากมีเรื่องกันขอบอกนะว่าฉันหมัดหนักกว่า”


    พูดข่มไม่พอยักคิ้วใส่เขาข้างหนึ่งด้วย โอเค 913 คะแนนของดงฮันจะไปสู้ 949 ได้อย่างไรกัน  แต่ใครมันจะงี่เง่าขนาดต่อยกันเพราะเรื่องที่นอนล่ะ เพราะแบบนั้นศึกที่เกิดขึ้นก็สงบได้


    คิมดงฮันยกธงขาว ลุกขึ้นยืนแล้วนอนทับลงไปบนดงฮยอนที่ยังนั่งบนเตียงเขานี่แหละ


    “นี่ ออกไปเลยนะคิมดงฮัน”


    “หมัดหนักมากก็จัดการเองดิ โอ๊ย!”


    สมพรปาก เจ้าของคะแนน 949 ต่อยลงมาบนต้นแขนของเขาอย่างแรงแล้วปีนข้ามดงฮันที่นอนทับอยู่ออกไปยืนนอกเตียงแล้วมุดตัวไปยังเตียงชั้นล่างฝั่งตรงข้ามกลับสู่เตียงของตนเอง


    “นายจะนอนเลยไหม” ดงฮยอนถามขึ้นมา


    “อาจจะงีบนิดหน่อย”เขาตอบพร้อมตะแคงหน้าไปที่เตียงฝั่งตรงข้ามพบว่าคนที่กำลังนอนอยู่ก็กำลังจ้องมองมาด้วยดวงตาใสแป๋วอย่างนั้น

    คิมดงฮยอนพยักหน้าทำความเข้าใจแล้วหลับตาลงพลางพูดงึมงำ


    “อืม ถึงเวลาอาหารเย็นค่อยลุกละกัน”


    “อืม”




    “เพราะนายไม่ตื่นเลย”

    คิมดงฮยอนมองเขาอย่างคาดโทษในขณะที่กำลังคนบะหมี่ในถ้วยให้เข้ากับผงเครื่องปรุง


    “อืม” ดงฮันพยักพเยิดตาม“แต่นายก็ไม่ตื่นนะ”


    ดงฮยอนจิ๊ปากเล็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะคีบเส้นรามยอนเข้าปาก


    ไม่มีใครตื่นในเวลาอาหารเย็นสักคนทั้งเขาและดงฮยอนการซ้อมเต้นรวมถึงเล่มเกมส์ต่อยเครื่องเล่นทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียพอควรตื่นมาอีกทีก็พบว่าแม่ครัวเก็บอาหารไปแล้วเหลือเพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้กินเท่านั้น


    ที่จริงก็ไม่ได้มีแค่พวกเขาหรอก ในเวลานี้ก็ยังมีเด็กฝึกหลายคนที่เดินไปมาในโรงอาหารเพียงแต่ทั้งคู่นั่งก้มหน้าก้มตารีบกินรีบเสร็จแล้วเดินกลับห้องไป


    “วันนี้เงียบๆนะว่าไหม” ดงฮยอนเอ่ยขึ้นตอนที่พวกเขากลับถึงห้อง เขามองหน้าอีกฝ่าย พอจะรู้ว่าหมายถึงอะไร


    “อืม พรุ่งนี้คัดออกนี่นะ”


    พ้นวันนี้ไป จะมีการคัดเด็กฝึกจาก 60 คนให้เหลือเพียง35 คนเท่านั้นที่จะได้ขึ้นแสดงในรอบคอนเสปต์บรรยากาศอึมครึมในหอพักเมื่อครู่จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย


    “ใจร้ายเนอะคัดออกทั้งที่ยังไม่ได้ขึ้นโชว์เลย”


    ดงฮยอนหันมายิ้มบางๆให้เขาสถานการณ์ของทั้งคู่เรียกได้ว่าเสี่ยงกับการคัดรอบ 35 คนดงฮันยังอยู่ในอันดับ 34 แต่ดงฮยอนในขณะนั้นอยู่อันดับที่ 41 ไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะเครียดขึ้นมา


    แต่เขาก็ไม่ได้ต่างไปเด็กฝึกทุกคนต่างรู้ว่าจนกว่าจะถึงวันประกาศผลไม่มีอันดับใดที่วางใจได้แม้จะเป็นเด็กฝึกอันดับสูงๆก็ตาม


    “ขอให้เรายังได้แสดงเพลงนี้ด้วยกันละกันนะ” เขาเอ่ยขึ้น ดงฮยอนหันมาเลิกคิ้วให้แล้วพยักหน้ายิ้มๆ


    “อืม นายก็เหมือนกัน”


    “ฉันว่าพ้นจากรอบนี้ไปหลังจากนี้เราอาจจะแอร์ไทม์เยอะขึ้นก็ได้”


    “เออ ฉันก็ว่างั้น”




    “ขอโทษนะ”


    ดงฮยอนพูดขึ้นมา ตอนที่ดงฮันออกมาจากห้องน้ำ


    “เรื่องอะไร”


    “เซ็นเตอร์”


    ดงฮยอนพูดถึงการยกมือโหวตเซ็นเตอร์คนใหม่ของเพลง Iknow you know หลังจากที่มีการคัดเด็กฝึกออกเหลือเพียง 35 คนเท่านั้นการคัดเลือกเซ็นเตอร์ระหว่างคิมแทดงกับคิมดงฮันที่เจ้าตัวชั่งใจอยู่อย่างหนักแต่สุดท้ายก็ตัดใจยกมือโหวตให้คิมแทดงไป


    “เรื่องมันตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วนะยังคิดมากอยู่เหรอ”ดงฮันเอ่ยถามพลางจับผ้าเช็ดตัวที่พาดบนบ่าขึ้นมาขยี้หัวตัวเองไปด้วย


    “แต่นายโหวตให้ฉันเป็นลีดเดอร์เลยนะ”


    “เกี่ยวที่ไหนกันล่ะอีกอย่างแทดงฮยองก็โหวตให้นายเหมือนกันนะ” ดงฮันหัวเราะออกมาก่อนจะเดินมานั่งที่เตียงฝั่งตรงข้าม หันหน้าเข้าหาอีกฝ่าย “แล้วนายโอเคไหมกับเรื่องลีดเดอร์”


    ดงฮันถามถึงตอนที่ทั้งคิมดงฮยอนและควอนฮยอนบินต่างเสนอตัวเป็นลีดเดอร์ของทีมแต่ว่าดงฮยอนแพ้คะแนนโหวตไป


    “โอเคสิถ้าคนส่วนมากโหวตแล้วเป็นไงฉันก็ยอมรับตามนั้น”


    “อืม งั้นฉันก็เหมือนกัน”


    เกิดจังหวะเงียบขึ้นแต่มันกลับปลดล็อคความกังวลใจให้คลายออกไปก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเปลี่ยนประเด็นเรื่องที่คุย



    “ถ้าคิดว่าไม่รอด ก็เอาฮาได้เลย”

    เขาบอกแบบนั้นกับดงฮยอนก่อนจะเริ่มการแข่งขันปั่นจิ้งหรีดทาลิปสติกดงฮยอนดูตั้งใจในการทาลิปสติกให้เขาแบบกะเอาชนะจริงๆแม้มันจะเหนือความคาดหมายที่รอยลิปสติกดันเลอะขึ้นไปจนจะครึ่งหน้าของเขาอยู่แล้วตราบใดที่ยังทาไม่เต็มริมฝีปากก็ยังจะล้มลุกคลุกคลานยันตัวเองขึ้นมาทาให้จนได้

    แต่พอได้เป็นฝ่ายไปปั่นจิ้งหรีดบ้างดงฮันก็เริ่มรู้ซึ้งแล้วว่ามันช่างยากเย็นกว่าที่คิดทั้งการทาลิปสติกให้อยู่ที่ปาก ทั้งการประคองสติจากความมึนงงสุดท้ายทั้งคู่ก็มีลิปสติกเต็มหน้าแบบที่ต้องมาช่วยกันเช็ดไปบ่นไปก่อนจะเริ่มกิจกรรมใหม่



    “มันอาจจะเป็นสเตจสุดท้ายของฉันก็ได้”


    เสียงของดงฮยอนดังขึ้นท่ามกลางความมืด ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเข้านอนในคืนก่อนวันแข่งขันดงฮันพลิกตัวจากหันหน้าเข้าหากำแพงไปยังอีกฝั่งแม้จะไม่รู้ว่าคนที่นอนเตียงตรงข้ามกำลังแสดงสีหน้าแบบไหน จะกังวลหรือพูดอย่างสบายๆ แต่น้ำเสียงดูจริงจังเหมือนว่าหมายความตามที่พูดจริงๆ


    “อาจจะเป็นสเตจสุดท้ายของฉันเหมือนกัน” เขาตอบไปแบบนั้น และได้เสียงหัวเราะเบาๆกลับมา


    “ไม่ปลอบใจกันบ้างเหรอ”


    “ไม่รู้สิ” ดงฮันถอนหายใจเบาๆ “ถ้ามันจำเป็นสเตจสุดท้ายเราก็ทำให้เต็มที่ไปเลยดีกว่า อย่างน้อยคนดูจะได้จดจำเรา”


    “อืม” อีกฝ่ายขานรับในลำคอคล้ายใกล้จะหลับแล้ว ประโยคถัดมาจึงแผ่วเบาลง “พวกเรามาพยายามไปด้วยกันนะ”


    “อื้ม”


    ท่ามกลางความกังวลใจในยามค่ำคืน
    มีความอบอุ่นใจแฝงตัวเข้ามา



    “ผมรู้สึกผูกพันและสนุกมากๆพอต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติก็รู้สึกเสียใจมากๆ ขอให้ทุกคนสู้ๆนะครับ” คิมดงฮันกำไมค์ในมือ กล่าวคำอำลาในรายการอย่างสดใส แต่ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าการต้องตกรอบมันน่าใจหายภายในใจของเขาวูบโหวงพอควรแม้จะพอคาดเดาได้


    “เด็กฝึก Brand New Music ทุกคนตั้งใจและพยายามแทนผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ”


    เขาเหลือบมองคิมดงฮยอนที่กล่าวคำอำลาอย่างหนักแน่นแม้ปลายเสียงจะเริ่มสั่นเครือ คนๆนั้นพยายามอย่างหนักที่จะไม่ร้องไห้ออกมาต่อหน้าเด็กฝึกแบรนด์นิวด้วยกันแต่ดงฮันเห็นว่าเมื่อจบรายการแล้วคิมดงฮยอนกำลังร้องไห้อย่างหนักกับเด็กฝึกจองเซอุน


    ภายหลังการประกาศอันดับและผู้ตกรอบบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าเหมือนครั้งที่ผ่านมา แต่ในครั้งนี้ดงฮันเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้องผิดหวังเขาไม่แน่ใจว่าจริงๆแล้วเส้นทางในรายการของเขาจบลงไวหรือมาไกลกว่าที่คิดกันแน่แต่เมื่อจบลงก่อนรอบสุดท้ายมันก็ทำให้รู้สึกเศร้าอยู่ดี



    งานประกาศผล 11 คนสุดท้ายเหมือนวันรียูเนี่ยนเด็กฝึกคนอื่นๆในรายการเขานั่งอยู่ด้านหลังของคิมดงฮยอนคนคนนั้นสวดมนต์ภาวนาให้พี่น้องร่วมค่ายอยู่ตลอดเวลาไหนจะถูมือไปมาอย่างเป็นกังวลจนดงฮันอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปแตะหลังให้กำลังใจ


    ดงฮยอนหันมาหาเขาด้วยหน้าที่เหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อมือของอีกฝ่ายเอื้อมมาแตะมือที่เขายื่นออกไปหา ดงฮันบีบมือข้างนั้นเบาๆ ก่อนจะคลายออกให้ดงฮยอนหันกลับไปลุ้นผลเช่นเดิม



    เมื่อการประกาศผลจบลงเด็กฝึกทุกคนต่างพากันกอดทักทายกันดงฮันก็เป็นหนึ่งในคนที่กอดกับกลุ่มเพื่อนของตัวเองในละแวกนั้นมาหมดแล้วเหลือก็แต่คิมดงฮยอนที่หันไปคุยกับเด็กฝึกคนอื่นนี่แหละ

    ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นจิ้มหลังของคนตรงหน้าอย่างหยอกล้อนึกไม่ถึงเหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะปีนเก้าอี้แถวนั้นแล้วทิ้งตัวลงมากอดทักทายเขาแบบเด็กๆทำให้ดงฮันต้องรีบโอบรับเอาไว้เพื่อกันไม่ให้อีกฝ่ายร่วงลงไปเสียก่อน


    คนเพิ่งทิ้งตัวลงมาหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะผละออกจากเขา


    คิมดงฮยอนนี่มีอะไรที่คาดไม่ถึงเยอะอยู่เหมือนกันแฮะ...




    ในงานแฟนมีตติ้งของเทรนนี่ค่าย Oui entertainment คิมดงฮัน จางแดฮยอนและโจซองอุคเพื่อนร่วมค่ายของเขามีการแสดงความสามารถเล็กๆน้อยๆอย่างการเต้นหรือร้องเพลง เมื่อถึงช่วงพบปะพูดคุยกันพิธีกรได้เอ่ยถามเขาถึงการไปถ่ายโฟโต้ชู้ตและให้สัมภาษณ์กับบรรดานิตยสารต่างๆ


    “พวกคุณมักจะเจอคำถามไหนบ่อยๆบ้าง”


    “มันก็จะคล้ายๆกันน่ะครับ”ดงฮันยกไมค์ขึ้นตอบ “นายสนิทกับใคร ไม่ก็พวกเรื่องราวที่ไม่ได้ออกอากาศ”


    “อ่า...เรื่องนั้นแฟนๆเองก็อยากรู้สินะครับแล้วในรายการคุณสนิทกับใครล่ะ” คุณพิธีกรเอ่ยถามต่อ


    “ในช่วงที่แข่งขันรอบคอนเสปต์เด็กฝึกจะอยู่ห้องกันเป็นคู่ๆน่ะครับ ผมแชร์ห้องกับคิมดงฮยอน”


    “อ่อ คิมดงฮยอนกุน”


    “ใช่ครับ ผมนอนกับแบรนด์นิวมิวสิคคิมดงฮยอน....” แล้วดงฮันก็สะดุดไป “อ่า...เดี๋ยวก่อนนะครับ ใช้คำว่านอนแล้วมันดูแปลกๆ...เราพักห้องเดียวกัน”ในระหว่างที่กำลังแก้คำ แฟนคลับผู้หญิงต่างพากันหัวเราะอย่างเขินอายบ้างก็เอามือปิดหน้า

    “ถ้าหัวเราะมันจะฟังดูแปลกๆนะครับ”คุณพิธีกรพูดขึ้น เสียงหัวเราะยิ่งดังขึ้นจนดงฮันได้แต่หัวเราะแห้งๆออกมาเพื่อนเทรนนี่ของเขาพากันเอามือดึงหมวกราวกับไม่รู้ไม่ชี้ด้วย


    “อย่าหัวเราะนะครับ” เขาร้อนรนขึ้นมาบ้างสาบานเลยว่าไม่ได้ทำอะไรแปลกๆ ถ้าเรื่องนี้ถึงหูดงฮยอนเขาอาจจะโดนหมัด 949 คะแนนของอีกฝ่ายอัดได้


    “พวกเขาไม่มีทางเลือกนะครับมันจำเป็นต้องอยู่กันสองคน” คุณพิธีกรช่วยพูด


    “มันอาจจะดีกว่าถ้าอยู่กันสามคนแต่เราก็ได้คุยกันเยอะ นั่นแหละครับ” แล้วดงฮันก็ตัดบทไปยังเรื่องอื่น





    “ท่อนนี้ไง everyday discovering somethingbrand new นายก็หมุนตัวออกไปก่อน” คิมดงฮันทำท่าให้ดูดงฮยอนลองทำตาม “รอก่อน นับ 1 2 3 แบบนั้นแหละ”


    “ท่อนโซโล่นายนี่ก็ยากเหมือนกันแฮะ”


    ดงฮยอนพูดขึ้นระหว่างช่วงพักของการซ้อมขึ้นสเตจShapeof you อีกครั้งในไฟนอลคอนเสิร์ตของเด็กฝึกรอบ 35 คนสุดท้าย เป็นเหมือนเรื่องบังเอิญที่น่าประหลาดที่ดงฮยอนได้มาร่วมสเตจรอบโพสิชั่นของเขา และเขาก็ได้ไปร่วมสเตจเพลง Bemine ที่ดงฮยอนเคยแสดงด้วย


    “นายทำไงก็ไม่เท่เท่าฉันหรอก” เขาแกล้งแหย่ขึ้น ดงฮยอนหันมาขมวดคิ้วใส่


    “พูดมาก มาสอนฉันอีกรอบเลยรับรองสาวกรี๊ดเยอะกว่านายแน่ๆ”


    “ได้ไง นี่สเตจในตำนานของฉันเลยนะ”


    แล้วดงฮยอนก็เบ้ปากใส่เขาทันที่พูดจบน่ามันเขี้ยวจนเห็นแบบนั้นดงฮันก็นึกอยากยกมือขึ้นบีบหน้าอีกฝ่ายให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็เปลี่ยนใจไปขยี้บนกลุ่มผมนุ่มแทน


    “ย่าห์! หัวยุ่งหมด”อีกฝ่ายยกมือปัดป้องและนั่นทำให้ดงฮันหัวเราะร่าออกมาจนคนอื่นในทีมหันมามองไม่นานนักแทฮยอนฮยองก็เรียกซ้อมรวม


    “ขอบคุณนะ”ดงฮันเอ่ยออกมาในขณะที่ดงฮยอนกำลังจะเดินไปยังตำแหน่งที่ควรอยู่


    “เรื่องอะไร” อีกฝ่ายทำหน้างง


    “ที่แนะนำเพลงนี้”


    “ก็บอกแล้วว่าเพลงดี” ดงฮยอนยักไหล่เล็กน้อย แสดงท่าทีที่หากเป็นคนอื่นทำเขาคงหมั่นไส้ไปแล้ว


    แต่เพราะนี่เป็นคิมดงฮยอนเพราะงั้นดงฮันจึงเพียงแค่หัวเราะออกมาขณะที่ส่ายหัวเบาๆ ก่อนที่คนในทีมจะเริ่มซ้อมเต้นอีกครั้ง




    เมื่อไฟนอลคอนเสิร์ตรอบ 35 คนจบลงคิมดงฮันตระหนักได้ถึงการสิ้นสุดของการเป็นเด็กฝึกในรายการจากนี้ไปนี่แหละที่เขาได้กลับไปใช้ชีวิตเด็กฝึกธรรมดาของค่ายแบบที่พูดเอาไว้ตอนคัดออก


    เขาโบกมือลาเด็กฝึกคนอื่นๆตอนที่แยกย้ายกันหนึ่งในนั้นรวมถึง

    คิมดงฮยอนด้วย



    จากนี้ ต่างฝ่ายต่างก็ไปตามเส้นทางของตนไปตามหาความฝันในชีวิตจริงของตัวเอง





    ‘ยินดีด้วยนะ เรื่องที่จะเดบิวต์’



    เขาส่งข้อความแสดงความยินดีไปให้คาทกของดงฮยอนทันทีที่เห็นข่าว ยูนิต MxMจากค่ายแบรนด์นิวมิวสิคเต็มไปหมดในสื่อออนไลน์ภายหลังจากนั้นหลายชั่วโมง มีเบอร์ของอีกฝ่ายโทรกลับมาดงฮันขอตัวออกจากห้องซ้อมในบริษัทมารับโทรศัพท์ทันที


    “ไง” เป็นเขาที่พูดขึ้นหลังจากปลายสายเงียบไป ชั่วอึดใจจึงมีเสียงตอบกลับมา


    “...เรื่องข้อความน่ะ ขอบคุณนะ” เสียงจากปลายสายดูตื่นเต้นในขณะเดียวกันนั้น ดงฮันก็สัมผัสได้ถึงความกังวลบางอย่าง


    “มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า”เขาตัดสินใจเอ่ยถามออกไป


    “น้ำเสียงฉันชัดไปอีกแล้วเหรอ” คำตอบของคิมดงฮยอนกลั้วด้วยเสียงหัวเราะขันๆ


    “ก็ถ้าไม่มีอะไร...ตอบกลับในคาทกก็ได้นี่นา”


    “อยากคุยด้วยเสียงไม่ได้หรือไงเล่า...” อีกฝ่ายทำเสียงตัดพ้อขำขันก่อนจะปรับอารมณ์เดิมคืน“แต่ก็นะ...นายว่างคุยรึเปล่าล่ะ”


    “อืม คุยได้”


    “งั้นเหรอ...” ดงฮยอนเว้นช่วงไปหน่อยก่อนจะเริ่มพูดออกมาถึงสิ่งที่กังวลใจอย่างที่ดงฮันเดาออกจากน้ำเสียง



    และหลังจากนั้นเอง เมื่อใดที่ได้ติดต่อกันทั้งเขาและดงฮยอนต่างก็คอยรับฟังเรื่องที่กังวลใจของอีกฝ่าย



    ดงฮันนี่

    เรื่องที่จะเดบิวต์กับ JBJ น่ะยินดีด้วยนะ :-)

    -คิมดงฮยอนคนเท่-




    คิมดงฮันกดดูข้อความที่ได้รับหลังจากในโซเชียลเน็ตเวิร์คเริ่มกระจายข่าวคอนเฟิร์มเรื่องการเดบิวต์JBJ อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มจนเหล่าฮยองในวงต้องพากันโห่แซ็วจนต้องปลีกตัวออกมาหาที่เงียบๆเพื่อกดโทรหาเจ้าของข้อความ


    “ไง”




    Q: ในรายการ Produce101คุณยังคงติดต่อใครอยู่ไหม


    ดงฮัน: ดงฮยอนที่กำลังจะเดบิวต์ MxM ครับในเดือนกันยายนมีวงรุ่นพี่ที่ชื่อเสียงเยอะเลยเราเลยได้คุยกันเกี่ยวกับความกังวลนี้ เขาดูเป็นกังวลมากจริงๆครับ





    “คิมดงฮัน อ่า...ไม่ใช่สิ คิมดงฮยอนกับคิมดงฮยอนยังติดต่อกันอยู่ไหม”
    ดงฮันอ่านข้อความจากแฟนคลับที่ส่งเข้ามาระหว่างที่กำลังถ่ายทอดสดในวีไลฟ์



    แน่นอน เขาตอบได้อย่างไม่ต้องคิดเลยล่ะ



    “กับดงฮยอนยังติดต่อกันอยู่ครับ”


    #มนต101

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in