เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Midnight Thought (ทูคิมดง)myephemeralmind
OS: Slow Hands





  • Slow, slow hands

    Like sweat dripping down our dirty laundry






    อาการปวดเมื่อยไปทั้งตัว เหมือนว่าทั้งร่างจะแหลกไปให้ได้เป็นอาการแรกที่คิมดงฮยอนตื่นมาแล้วพบเจอ ก่อนจะลืมตามาเพื่อพบกับเพดานห้องที่ไม่ใช่ห้องของตนเอง ทว่าเขารู้ดีว่าตัวเองกำลังอยู่ในห้องของใคร



    เมื่อค่อยๆยันตัวเองให้นั่งบนเตียงได้อย่างยากลำบาก เขาก็พบว่าสภาพรอบๆนั้นเละเทะยับเยินราวกับว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเพิ่งมีคนก่อสงครามขึ้น



    ถึงจะรู้สึกมึนๆหัวจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปหนักๆเมื่อคืน แต่หัวของดงฮยอนก็ยังประมวลผลได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น



    และข้อเท็จจริงนั้นทำให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย



    ไม่รู้ว่าเจ้าของห้องหายหัวไปไหน บนพื้นข้างเตียงก็ยังมีเสื้อผ้าของคนคนนั้นอยู่ แต่ดงฮยอนก็กัดฟันเพื่อยันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนเพื่อใส่เสื้อผ้าของตนเองที่ตกอยู่แถวๆนั้น



    เขาต่อสู้กับอาการมึนหัวเพื่อสำรวจว่าตนเองไม่ได้ลืมของสำคัญอะไรไว้ ก่อนจะค่อยๆเปิดประตูห้องนอนอย่างระมัดระวัง



    ทว่าไม่เงียบเชียบพอ



    เจ้าของแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่ยืนอยู่หน้าห้องครัวนั่นหันมาเอ่ยทักขึ้นก่อนจนได้



    “นายจะไปไหนน่ะ”



    เป็นคิมดงฮัน เพื่อนที่เขาสนิทพอที่จะเคยมานอนค้างบ่อยๆพ่วงตำแหน่งเจ้าของห้องที่เขายืนอยู่



    “กลับหอ”



    “นายจะกลับไปทั้งสภาพนี้ได้ยังไง”



    หมอนั่นโวยวายขึ้นมาโดยไม่ได้คำนึงถึงสภาพของตนเองด้วยซ้ำ



    ให้ตายสิ สภาพของดงฮันตอนนี้ทำให้ดงฮยอนนึกอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด



    ใครใช้ให้คิมดงฮันสวมแค่กางเกงยีนส์ปิดบังท่อนล่าง เปลือยท่อนบนโชว์กล้ามเนื้อซึ่งปรากฏร่องรอยที่ไม่ต้องถามก็รู้ว่าฝีมือของใครอย่างนั้น



    โอเค เขารู้ดีว่าหมอนี่หน้าตาดี เดินไปตามถนนก็มีผู้หญิงมองตามเป็นเรื่องปกติ



    แต่เรื่องที่คิมดงฮันฮอตขนาดนี้มันทำให้เขาเริ่มรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น



    “ดงฮยอนนี่ นายกำลังลวนลามฉันทางสายตานะ”



    ดงฮยอนสะดุ้งออกจากภวังค์เล็กน้อย เกือบลืมไปด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านี้เขากำลังคุยอะไรอยู่



    “ฉัน...จะกลับหอ”



    “ไปอาบน้ำก่อนค่อยกลับ ฉันทำข้าวต้มไว้ให้”



    “แต่...”



    “จะไปอาบดีๆหรือให้อุ้มไป” ว่าแล้วดงฮันก็ทำท่าจะพุ่งเข้ามาอุ้มจริงๆจนดงฮยอนต้องถดตัวหนีไปพร้อมชี้ขู่ไว้ไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามาหาก่อน











    แล้วดงฮยอนก็มายืนอยู่ใต้ฝักบัวแต่โดยดี



    เพราะโดนยัดเยียดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายมาให้ บวกกับรู้สึกเหนียวเนื้อตัวไม่น้อย ดงฮยอนเลยตัดสินใจอาบน้ำให้มันจบๆก่อนจะกลับหอไป



    พอปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวไหลชำระร่างกายไป ดงฮยอนก็เหมือนจะค่อยๆได้สติกลับคืนมา



    เมื่อคืนเขาเมาเละเทะเลยล่ะ



    มันไม่มีอะไรมากไปกว่าดื่มฉลองสอบเสร็จกับกลุ่มเพื่อนที่หนึ่งในนั้นก็มีคิมดงฮันได้ แต่ก็จำอะไรได้ไม่ชัดเจนนัก



    เห็นภาพลางๆอีกทีก็ตอนที่เขามาอยู่ในห้องนอนนั้นแล้ว ภาพเขาค่อยๆเคลื่อนเข้าหาดงฮัน ฝ่ามือของตนเองที่ลูบไล้ไปตามหน้าท้องของอีกฝ่าย และฝ่ามือหนาที่เฟ้นไปตามแผ่นหลังและลำตัวของเขา ซึ่งอะไรเหล่านั้นมันคงนำพาให้ทั้งคู่มาจบลงแบบนี้



    และภาพลางๆที่ว่านั่นทำให้ดงฮยอนยกมือขึ้นกุมหน้าตัวเองเอาไว้



    คิดอะไรไม่ออก...




    เมื่อได้สติมากกว่านี้หลังอาบน้ำเสร็จ เมื่อออกไปจากห้องน้ำ เขาไม่รู้ว่าควรเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายยังไง ต้องมีปฏิกิริยาอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



    ที่แน่ๆก็ไม่ได้มีอะไรให้ต้องร้องห่มร้องไห้หรือเรียกร้องให้ดงฮันรับผิดชอบอะไร



    มันก็แค่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่หน่อยๆกับข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาลึกซึ้งกันไปแล้ว











    “ยาแก้ปวด ไว้กินหลังกินข้าวเสร็จละกัน”



    คิมดงฮันวางกระปุกยาลงบนโต๊ะอาหาร ข้างๆกับถ้วยข้าวต้มที่หน้าตาดูดีกว่าที่เขาคิด



    ไม่ยักจะเคยรู้ว่าหมอนี่ทำอาหารเป็น



    รสชาติดีด้วย



    “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ไม่อร่อยเหรอ”



    “นายน่ะไปใส่เสื้อผ้าดีๆได้แล้ว”



    เพราะคิมดงฮันยังสวมแค่กางเกงเหมือนเดิม และร่องรอยตามเนื้อตัวนั่นมันรบกวนจิตใจของเขา ตอนที่อาบน้ำเมื่อครู่ ดงฮยอนก็มีโอกาสได้สำรวจร่างกายว่ามีร่องรอยพวกนั้นไม่ต่างกัน



    “เมื่อคืนนายถอดเสื้อฉันเองกับมือเลยนะ โอ๊ย! ขอโทษๆ”



    ดงฮยอนขว้างผ้าเช็ดตัวที่พาดแถวนั้นไปที่หัวของดงฮันทันทีที่อีกฝ่ายเอ่ยเรื่องหน้าไม่อายนั่นขึ้นมา ซึ่งแม้จะโดนผ้าขนหนูขว้างใส่หน้า ดงฮันก็ทำเพียงแค่ระเบิดหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเท่านั้น ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อนั่งลงประจันหน้ากับเขา



    “มีอะไรอยากคุยกันมั้ย”



    “คุยอะไร”



    “คบกันมั้ย”



    “แค่ก!”



    จู่ๆดงฮยอนก็สำลักข้าวต้มคำที่เพิ่งกินเข้าไปจนดงฮันต้องรีบไปเทน้ำใส่แก้วมาให้ดื่ม



    “เฮ้ย! ถึงกับสำลักเลยเหรอ ใจเย็นๆ ค่อยๆหายใจ”



    เขาหายใจเข้าออกเล็กน้อยให้แน่ใจว่าตัวเองหายสำลักแล้วค่อยตอบออกมา



    “ย่าห์! คิมดงฮัน ล้อเล่นอะไรเนี่ย”



    “ฉันจริงจัง”



    แววตาของคนตรงหน้าเปลี่ยนไป และนั่นทำให้ดงฮยอนรู้สึกประหม่าขึ้นมา



    ถึงจะรู้จักกันมานาน แต่ก็ไม่เคยได้มองหน้ากันตรงๆแบบนี้ คิมดงฮันที่ปกติชอบแหย่เพื่อนให้อารมณ์เสียเพื่อความสนุกส่วนตัวของตัวเองกำลังทำหน้าจริงจังใส่เขา



    “ฉันไม่ได้พูดเพราะว่าจะรับผิดชอบอะไร แต่ถ้านายไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น ฉันก็ขอโทษ...แล้วถ้านายอยากให้มันเหมือนว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันก็จะไม่พูดถึงมันอีก”



    “ฉันไม่รู้”



    “...”



    “ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เอาไว้”



    ความเงียบก่อตัวขึ้นทันทีที่ดงฮยอนพูดจบ เขารู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ทั่วท้องหน่อยๆ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมีปฏิกิริยาตอบรับยังไง ดงฮันลุกขึ้นจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนมายืนข้างๆเขาแทน ก่อนจะโน้มตัวลงมาทำในสิ่งที่ดงฮยอนไม่ได้คาดเอาไว้



    ดงฮยอนไม่ได้เตรียมใจจะรับมือกับจูบที่อีกฝ่ายเริ่มขึ้นมา



    ดงฮันยังคงยืนอยู่ ทว่าโน้มตัวลงมาประทับริมฝีปากลงที่ปากของดงฮยอนที่ยังคงนั่งบนเก้าอี้ ฝ่ามือหนานั่นเลื่อนมาประคองต้นคอของเขาเอาไว้ก่อนที่การกระทำเหล่านั้นจะลึกซึ้งมากขึ้น



    ไม่รู้ว่าเผลอจูบตอบไปตอนไหน ทว่าจูบที่เกิดขึ้นตอนที่สติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการทำให้หัวใจของดงฮยอนทำงานอย่างหนัก รู้ตัวอีกทีเขาก็ถูกยกให้นั่งบนโต๊ะ แขนทั้งสองข้างเลื่อนขึ้นไปคล้องคอคนตรงหน้าเสียแล้ว



    ทั้งสองจูบกันอยู่สักพักก่อนที่ดงฮันจะถอนจูบออกมาให้ดงฮยอนได้โกยเอาอากาศเฮือกใหญ่เข้าปอด ฝ่ามือที่เคยประคองที่ต้นคอกับโอบรัดที่เอวเลื่อนมาประคองใบหน้าแทนก่อนที่นิ้วมือจะค่อยๆเกลี่ยไปตามใบหน้าอย่างอ่อนโยน



    “ตอนนี้นายคิดถึงเรื่องนั้นบ้างรึยัง”



    “ยัง”



    “จะลองจูบอีกรอบดูมั้ย”



    “ย่าห์! คิมดงฮัน”



    ดงฮันหัวเราะชอบใจเมื่อโดนผลักออก แต่ไม่นานก็เหมือนมีแรงดึงดูดให้ทั้งคู่เคลื่อนเข้าหากันอีกที ซ้ำไปมาอยู่อย่างนั้น







    แล้วคิมดงฮยอนก็เริ่มที่จะคิดถึงเรื่องนั้นดูบ้างแล้ว












    #มนต101 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in