เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#ฉันจะมารีวิว : K-POP ALBUM REVIEWguemuihwanhyang
#ฉันจะมารีวิว : Yerin Baek ‒ tellusboutyourself
  • [#ฉันจะมารีวิว]
    002. Yerin Baek ‒ tellusboutyourself >> เล่าสู่กันฟัง
    Release: 2020/12/10
    Genre: dream pop, synthpop, pop rock
    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    Yerin Baek(แบคเยริน) ศิลปินสายอินดี้ที่จัดว่าโคตะระแมสเอามากๆในประเทศเกาหลีใต้ เดินไปตรอดซอยไหนเป็นอันต้องได้ยินเพลงของเธอทั่วทุกสารทิศ ถึงเส้นทางความเป็นสาวอินดี้ซุปตาร์ของเธอมันอาจจะดู privilege ไปซะหน่อยแต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ใช่ว่ามันจะโรยด้วยกลีบกุหลาบพร้อมกับการใส่ชุดราตรีจิกส้นสูงแบรนดฺเนมหรูหราเดินบนพรมแดง

    • เธอเริ่มต้นเส้นทางด้วยการไปออกรายการ Amazing Contest Star King ในปี 2007 ด้วยการร้องเพลง Listen ของดีว่าตัวแม่ค้างฟ้าอย่าง Beyoncé และก็ได้นำเพลงนี้แหละไปออดิชั่นภายใต้ต้นสังกัด Top3 ของอุตสาหกรรมวงการเพลง JYP แล้วก็ได้ผ่านการออดิชั่นเป็นเด็กฝึกในอันดับที่สอง(โดยอันดับหนึ่งคืออูยองวง 2PM อีกอย่างเธอเป็นเด็กฝึกรุ่นใกล้เคียงกับจีฮโยวง TWICE) ในช่วงระหว่างการฝึกเธอต้องไปอยู่กับครอบครัวที่ New York เป็นเวลาสองปีและยังควบคู่เทรนไปด้วยจนปี 2012 เธอได้เดบิวท์อย่างเป็นทางการในฐานะดูโอ้ 15& กับนักร้องสาวผู้ชนะการประกวด K-Pop Star ซีซั่นแรกอย่าง พัคจีมิน(ปัจจุบันเธอคือ Jamie) ในซิงเกิ้ลแรก I Dream แน่นอนว่าเสียงตอบรับไปในทางที่ดีจนมีซิงเกิ้ลออกมาเรื่อยๆทั้ง Somebody, Can’t Hide It จนกลายเป็นเดบิวท์อัลบั้มเต็มชุดแรก Sugar ในปี 2014 รวมไปถึงซิงเกิ้ลสุดท้ายในฐานะดูโอ้(ทั้งคู่)ในปี 2015 อย่าง Love is Madness ก็กระแสตอบรับดีเช่นกันแต่ใช่ว่าเธอจะได้รับแสงสปอร์ตไลท์อย่างเต็มที่

    • จุดเริ่มต้นของการปล่อยโซโล่อย่างเป็นทางการนี่แหละมันคือเริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้.. เพราะเธอได้ไปร่วม featuring กับรุ่นพี่แร็ปเปอร์อดีตชายคาบ้านเดียวกันอย่าง San E ในซิงเกิ้ล Me You ในเดือนพฤษภาคมที่สามารถไต่ขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งได้นั้นคือครั้งแรกที่ทำให้เธอถูกพูดถึงในฐานะแบคเยรินอย่างจริงจังจนไม่รอช้าส่งเดบิวท์อีพีชุดแรกอย่าง FRANK ในเดือนพฤศจิกายน การตั้งชื่ออัลบั้มเพื่ออุทิศตนให้กับไอดอลตลอดการ Amy Winehouse กับสไตล์เพลง dream pop R&B ชวนหลงใหลแถมซิงเกิ้ลหลักอย่าง Across the Universe ยังได้แรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง The Martian ที่ปล่อยออกมาในปีเดียวกันอีกด้วย ด้วยกระแสที่ส่งมาหาเธอไม่หยุดยั้ง ด้วยความไม่รอช้าเลยปล่อย Bye bye my blue ในปี 2016 ช่วงเวลาที่ไม่ห่างกันมากมาย ทั้งสองเพลงหลักนี้ทำให้เธอกลายเป็นนักร้องสาวที่ถูกพูดถึงอย่างล้นหลามถึงขั้นถูกเชิญไปร่วมร้องกับนักร้องหนุ่ม R&B อย่าง DEAN หรือแต่งเพลงให้กับสาวโซยูอดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปสุดเซ็กซี่ SISTAR แถมยังได้ไปออกในรายการ Yu Huiyeol’s Sketchbook ซึ่งเป็นเรื่องน่าตกใจอย่างมากเพราะเธอมีนิสัยชอบเก็บตัวและขี้อายสุดๆแถมช่วงที่ผ่านมาในฐานะ 15& เธอกลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้านรูปลักษณ์เป็นอย่างหนักมันเลยเป็นสาเหตุที่พอเข้าใจได้ว่าทำไมเธอถึงไม่อยากสู้กับสื่อสักเท่าไหร่ถึงจะเคยผ่านงาน MC คู่กับจีมินมาแล้วก็ไม่ทำให้เธอกล้ามากพอที่จะเผชิญหน้าด้วยความมั่นใจนักแต่เห็นเธอมีบุคลิกนิสัยแบบนี้ใช่ว่าเธอจะไม่ใช่สาย fighter นะ เพราะซิงเกิ้ลเจ้าปัญหา Berlin และ Square นี่แหละทำให้เธอถึงจุดระเบิดขีดสุดออกมาติหนิ JYP อย่างไม่ไว้หน้าเพียงเพราะไม่ยอมให้เธอได้ทำตามในสิ่งที่ตัวเองต้องการแถมพอแทร็คถูกปล่อยออกมาก็วงเล็บปีที่ทำเสร็จและมีปัญหาในเวลาเดียวกันแม่งซะเลย ที่มาของ Square (2017) เลยดูมี easter egg ความตลกแฝงเรื่องเลวร้ายอันน่าโมโหในตัวเธอเองไปโดยปริยาย.. ถึงแม้ว่าอีพีสองอย่าง Our love is great ในปี 2019 จะเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จสามารถคว้าแดซังรางวัลใหญ่สาขาอัลบั้มในงาน KMA ปีล่าสุดที่ผ่านมาไปได้ ท้ายที่สุดแล้วเธอก็โบกลากับต้นสังกัดใหญ่ที่อยู่มานานถึง 12 ปีก่อนจะได้รับรางวัลซะอีก

    • การได้ออกมาจากบ้านหลังแรกมันทำให้เธออยากทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการอย่างเต็มรูปแบบ ความไม่รอช้าหลังจากหมดสัญญาไปได้เพียงสามเดือนเธอทำการเปิดค่ายสังกัดของตัวเองขึ้นมาที่ชื่อว่า Blue Vinyl พร้อมส่งสตูดิโออัลบั้มชุดแรกอย่างเป็นทางการ Every letter I sent you. ในเดือนธันวาคม จดหมายความรักและคำขอบคุณจากเยรินถึงแฟนๆที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอดกับแทร็คลิสต์ที่อัดแน่นถึง 18 เพลง เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวของตัวเธอเองในทุกรูปแบบรวมไปถึงการได้ปล่อยซิงเกิ้ล Berlin และ Square (2017) บรรจุในอัลบั้มเช่นกันและผลก็เป็นไปตามคาด Square (2017) กลายเป็นซิงเกิ้ลหลักครองใจสายสตรีมเมอร์เกาหลีขึ้นอันดับหนึ่งทุกชาร์ตแบบสะบัดผมเชิ่ดใส่เจวายพีที่คิดผิดอย่างแรง และด้วยกระแสที่มาแรงแซงทางโค้งไอดอลและศิลปินรุ่นพี่ที่อยู่บนชาร์ตหลายๆเพลง ทำให้เธอได้ไปร้องเพลงประกอบละครดังเรตติ้งสูงลิ่ว Crash Landing On You อย่าง Here I Am Again ในเดือนถัดมาแถมยังถูกตามจีบเชิญไปร่วมงานกับบรรดาศิลปินแร็ปเปอร์มากหน้าหลายตา นับว่าความสำเร็จภายใต้การดูแลของตัวเองเป็นการเปิดโอกาสให้เธอได้เผชิญโลกกว้างมากขึ้นที่ไมใช่แค่การอยู่ในห้องนอนไปวันๆ รวมไปถึงการได้แต่งเพลงให้นักร้องหญิงสายแดนซ์อย่าง CHUNG HA(ชองฮา) จนทั้งคู่ได้กลายเป็นพี่น้องในวงการที่สนิทสนมของเธออีกหนึ่งคน
    .
    .
     
    • การกลับมาหนึ่งปีถ้วนของเธอสำหรับสตูดิโออัลบั้มสองที่ปล่อยออกมาในช่วงเวลาเดียวกันจากอัลบั้มแรก อาจจะฟังดูออกแนวกวนตีนนิดหน่อยในความติสท์แตกของเธอ เดิมทีแผนจำหน่ายสำหรับงานชุดที่สองเราจะต้องได้ฟังกันในช่วงซัมเมอร์นี้ อย่างที่บอกไปนั้นแหละเหตุผลหลักเกิดจากความขี้เกียจของตัวเธอเอง(ดูเป็นคนตรงไปตรงมาดี เยี่ยมมาก ฮ่าๆๆๆ)และด้วยปัจจัยรอบด้านเยอะสิ่ง(ที่ไม่ใช่แค่ขี้เกียจอย่างเดียว)เธอจึงตัดสินใจเลื่อนปล่อยออกไปก่อนจนมาจบในเดือนธันวาคมด้วยเหตุผลง่ายๆอีกแหละว่าอยากปล่อยให้ตรงกับเดบิวท์อัลบั้ม tellusboutyourself ที่ยังคงเนื้อหาเกี่ยวกับความรักเหมือนดั่งเช่นเคยแต่มันจะไม่ใช่การเล่าเรื่องในด้านของเธอเพียงผู้เดียวเหมือน Every letter I sent you. ที่เขียนจดหมายถึงแฟนๆ เธอกลับนึกสนุกอยากให้ผู้ฟังได้มีส่วนร่วมเข้ามาเอ็นจอยกับเรื่องราวต่างๆในทั้งหมด 13 แทร็คที่ยังคงเป็นภาษาอังกฤษล้วนพ่วงด้วยโปรดิวเซอร์คู่ใจคนเดิม คูรึม หนึ่งในสมาชิกวงอินดี้ขนาดเล็ก The volunteers ที่เยรินได้ก่อตั้งขึ้นด้วยตัวเอง แต่คราวนี้เธอจะไม่ได้หยิบโหย่งความเก็บกดจับแทร็คมายัดใส่เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจเหมือนงานชุดแรกเพราะทุกอย่างใน tellusboutyourself เธอกลับเนรมิตขึ้นมาใหม่ทั้งหมด!!


    • ช่วงเริ่มต้นของอัลบั้มนี้เธอได้เริ่มต้นมันเมื่อต้นปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างงานชุดนี้กับอีพี Our love is great ฉะนั้นแล้วในบางแทร็คเราจะได้เห็นซาวนด์ที่ค่อนข้างละม้ายคล้ายคลึงกันบ้างแต่ระดับแบคเยรินแล้ว แน่นอนว่าเธอกลับรังสรรค์มันออกมาได้สนุกมือยิ่งกว่าเก่า.. อย่าง open track ตีหัวด้วยความหมายสุดเรทอย่าง 0123 หรือชื่อปัจจุบันว่า Lovegame ถึงจะเป็นซาวนด์ร็อคที่ผสมด้วยซินธ์หวานๆ ไอ้ท่อน verse they'll try to have you in their bed, do not deny ก็รู้แล้วว่าเกมรักครั้งนี้มันต้องร้อนแรงอย่างแน่นอน ฟีลดูไม่ค่อยต่างจาก Young in Love ของชองฮาสักเท่าไหร่ ถ้าเอาเนื้อหามาเปรียบเทียบกันแล้ว ในเวอร์ชั่นชองฮากลายเป็นน้องสาวโดยทันที, I’m in love ฉันขอมอบความรักที่ฉันมีทั้งหมดให้กับคุณเพื่อที่ฉันจะได้มีลมหายใจและใช้ชีวิตอยู่กับคุณไปนานแสนนาน, “HOMESWEETHOME” ความรักก็เหมือนกับบ้านอันแสนสุข ต่อให้ชีวิตคู่ระหองระแหงแค่ไหนสุดท้ายเราสองคนก็ยังคงรักเอยเตยหอมกันและกันเสมอไป อย่างที่บอกไปว่าเธอนั้นเริ่มสนุกมือกับการรังสรรค์ซาวนด์ดนตรีแทร็คนี้แหละคือคำว่ามันส์มืออย่างแท้จริง เธอหยิบจับสูตรดนตรีจำพวก electronica อย่างแนว house เข้ามามีบทบาทโดยที่ไม่รู้สึกว่าแม่งคือความแปลกแยกเลยสักนิดเดียวแถมยังบิดพริ้วบีทให้มันสนุกชวนโยกอีกต่างหาก รับฟีลหน้าหนาวสุดๆ

    tellusboutyourself เธอไม่ได้ชูถึงความรักที่แสนหวานเป็นหลักแน่นอนว่ามันก็ย่อมมีอีกหนึ่งด้านที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด Mr. Delicate ความสัมพันธ์แตกหักที่จนไปสู่การสร้างความเจ็บปวดทั้งสองฝ่าย มันไม่ใช่ความเจ็บปวดที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ในท่อนบริจด์เยรินกลับเปลี่ยนบริบทซาวนด์เป็นสนามระบายอารมณ์ถึงความขีดสุด ไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ต้องตายกันไปข้าง, You’re so lonely now, so you need me back by your side again พอต่างคนต่างแยกทางกันแล้วมักจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกลับไม่ยอมรับมัน เมื่อรู้สึกว่าเปล่าเปลี่ยวก็พร้อมที่จะไปอยู่ข้างๆเสมอ, Hall&Oates นึกถึงช่วงที่ยังมีความรู้สึกต่อกันมันก็อดคิดถึงไม่ได้ว่าเราทั้งคู่ต่างเคยมีความสุขกันมากขนาดไหน, I am not your ocean anymore ภาคต่อจาก Bye bye my blue พอมันถึงจุดที่หมดความห่วงใยแล้วก็ต่างคนต่างอยู่กันไปซะแล้วไม่ต้องเห็นหน้ากันอีก, Bubbles&Mushrooms เปรียบความรักเหมือนดั่งฟองสบู่ที่มันไม่สามารถอยู่ได้นานแสนนาน เสริมความเวี๊ยตด้วยการ shuffle บีทตบท้ายปิดอัลบั้มเจ๋งๆ

    • ด้วยความเนื้อหามันออกไปทาง love story รักๆเลิกๆแต่ใช่ว่าจะไม่มีความหมายแฝงที่สามารถรับรู้ได้ถึงความ personal ในตัวของเธอด้วยเช่นกัน Loner เพราะผู้คนต่างพากันสร้างมาตรฐานไว้สูงสำหรับเธอ มันเลยทำให้ความมั่นใจที่ดีอยู่ในตัวเองกลับลดลงจนกลายเป็นคนที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับคนหมู่มากจนกลายเป็นคนโดดเดี่ยวและแปลกแยกในสังคม เห็นถึงความอัดอั้นข้างในระหว่างที่เธออยู่ต้นสังกัดดัง เพราะศิลปินในค่ายต่างทำมาตรฐานไว้ดีเยี่ยม ความคาดหวังในอันดับต่อมาจึงต้องทำให้ได้ในแบบเดียวกันซึ่งมันก็ย้อนไปถึงช่วงปี 2016 ที่ค่ายกลับสร้างความกดดันในตัวเธอตอนที่แบคอายอนปล่อยซิงเกิ้ล So-So ออกมาก่อนหน้าที่ประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่าผลงานครั้งนั้นจะประสบความสำเร็จตามกันไปด้วยติดๆแต่มันกลับสร้างบาดแผลลึกๆในใจของเธอไม่ต่างกัน รวมไปถึงช่วงปี 2017 ที่เธอปล่อยระเบิดความในใจเรื่องซิงเกิ้ลเจ้าปัญหาด้วยเช่นกัน


    • ถึงคราวที่เธอจะต้องตอกกลับพวก haters กันบ้าง Hate you สบถคำว่า fuck ออกมาอย่างเต็มที่ราวกับหมดความอดทนที่ต้องเจอแต่กับพวกที่คอยเกลียดชังเธอ ระเบิดด้วยซาวนด์ modern pop rock ติดป้าย explicit เชิ่ดใส่กองเซ็นเซอร์เอาให้รู้ว่ากูก็ไม่ทนกับคนแบบมึงแล้ว มันจึงมากกว่าวลีเด็ดที่ติดตัวไปตลอดอย่าง fuck you too, bitch! เสียอีก, 0415 มันคือเพลงไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอเวอร์ชั่น electronic dance-pop แต่ในทางความหมายกลับสื่อไปถึงพวก haters แบบเต็มๆ การที่สนิทสนมกับชองฮามันก็ทำให้เธอเริ่มติดสูตรสไตล์แดนซ์มาบ้างนิดหน่อย


    • จาก unreleased track สู่การบรรจุลงในอัลบั้มที่ยาวนานแสนนาน I’ll be your family! synthpop น่ารักๆ ถ้ารู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อไหร่ฉันจะให้ความรักกับคุณราวกับว่าเป็นที่พึ่งทางใจเสมือนคนในครอบครัวของตัวเอง มันคือแทร็คปลอบใจที่เยรินสื่อออกมาว่าตอนนี้ฉันรู้สึกดีและโอเคกับความรู้สึกของตัวเองแล้ว แถมเพลงนี้เธอเคยนำไปแสดงตามงานเทศกาลต่างๆรวมถึง open concert ครั้งแรกของเธอเองด้วยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา


    • รู้สึกได้เลยว่าเยรินเธอสนุกมือกับซาวนด์ใหม่ๆที่มันต่างจากงานภาคดนตรีชุดที่แล้วแบบชนิดที่ว่าห่างไกลกันสุดขอบ การหยิบจับความหลากหลายแนวทั้ง synthpop, pop rock modern หรือแม้กระทั่งสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนอย่าง electronic house ก็สามารถรังสรรค์มันออกมาให้เข้ากับบริบทตัวเธอเองได้ด้วยเช่นกัน มันอาจจะไม่ได้ใหม่จ๋าถึงขนาดต้องร้องว้าวแต่มันกลับทำให้เธอมีพัฒนาการทางดนตรีมากขึ้นกว่าเดิม ลดความเป็น lo-fi เหงาๆเพิ่มความเข้มข้นให้เข้าถึงง่ายกว่าเดิมแต่ยังไม่ละทิ้งสไตล์ความเป็นสาวดรีมป็อบติสท์ๆ

    • ในความหมายของ tellusboutyourself มันไม่ใช่แค่การมาเล่าสู่กันฟังอย่างเดียว จุดเริ่มต้นของอัลบั้มชุดนี้มันเหมือนเป็นอะไรที่เธออยากระบายความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ในมานานแสนนานที่ไม่ใช่การหยิบจับปูใส่กระด้งเอาเพลงเก่าๆยัดใส่ลงไปแบบ Every letter I sent you. จนมันดูมากสิ่งเกินความจำเป็นเหมือนที่ว่าไว้.. ถึงมันจะหนักไปทางความรู้สึกเจ็บปวดแต่มันกลับสร้างความ fresh ให้ตัวเธอเหมือนว่าได้ยกภูเขาออกจากอกไปแล้ว อัลบั้มนี้จึงเป็นการเล่าเรื่องราวของตัวเองในรูปของความรักที่มันควรจะปล่อยวางพร้อมเดินหน้าต่อไปโดยที่ไม่รู้สึกว่ามันจะต้องเหงาอีกต่อไป

    .
    .
    .

    “เพราะเธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ยังไงล่ะ”

    (8/10)
    Top Tracks: You’re so lonely now, so you need me back by your side again, I am not your ocean anymore, Ms. Delicate, Loner, “HOMESWEETHOME”, Loveless, Hate you, 0415, I’ll be your family!

    thank u for reading ?
    ถ้ามีคำหรือประโยคไหนที่ใส่มาเพื่อความอรรถรสแล้วไม่ถูกใจผู้อ่านทุกท่านขออภัย ณ ที่นี้ด้วยจ้า


    ขออนุญาตฝากเพจตัวเองเล็กน้อย ถือว่ากดไลก์เป็นกำลังใจอันเล็กน้อย
    https://facebook.com/chanjamareview





เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in