การเดินทางจะทำให้ได้รับอะไรใหม่ๆกลับมาเสมอ
การไปทัศนศึกษากับทางโรงเรียนก็คงเป็นเช่นเดียวกัน
วันนี้ (10 ก.ค. 59) ทางโรงเรียนได้จัดให้มีการไปทัศนศึกษาสำหรับผู้นำในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นทีมงานกรรมการนักเรียน หัวหน้าห้องม.ต้นและม.ปลาย (ซึ่งผมเป็นหนึ่งในนี้ด้วย) ไปเรียนรู้วิถีชีวิตพอเพียงที่ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง เขตมีนบุรี ในกรุงเทพของเรานี่เอง
ในใบกำหนดการนัดไว้ว่า 06.00 น. ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โรงเรียน ซึ่งแน่นอนว่าจะเลทไปไกลเสมอ ตอนแรกผมก็ไม่อยากจะไปซักเท่าไหร่เพราะมันเป็นวันหยุดของเรา แต่เพื่อให้อยู่รอดในตำแหน่งหน้าที่ในโรงเรียน
โอเคกูไปก็ได้ (จำยอมสัสๆ)
ทุกคนมาพร้อมกับเสบียงพร้อมกินบนรถ การนั่งรถไปทัศนศึกษาในอุดมคติของผมคือ ขาไปสายย่อให้เต็มที่ ส่วนขากลับนั้นจะเน้นเปิดเพลงช้า ปล่อยให้ใจล่องลอยกลับโรงเรียนช้าๆ จนหลับคร่อกๆ
แน่นอนว่าความจริงไม่ได้เป็นอย่างอดุมคติ ตอนขาไปต้องทำกิจกรรมบนรถไปด้วย สายย่อเลยวงแตก ขากลับดันเหนื่อยจนหลับไปหมดอีก #อวสานสายย่อ
แต่เอาจริงๆประเด็นที่ผมอยากเล่าในบล็อกตอนนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับการไปทัศนศึกษาแบบทั่วไปๆ การไปทัศนศึกษาครั้งนี้คือ การไปศึกษาวิถีชีิวิตแบบพอเพียง (ในใจคิด:เป็นวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์แขนงหนึ่งของไทย) ข้อมูลที่รู้เบื้องต้นก่อนไปทัศนศึกษาคือ ต้องดำนาด้วย
โอ้ม่ายยยยย ทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ (จิตใจฝ่ายขี้เกียจได้กล่าวไว้)
พอได้ไปสัมผัสวิถีชีวิตพอเพียงเข้าจริงๆ ผมก็มองมันเปลี่ยนไป เพราะมันสนุกมากๆ วันนี้ผมได้เดินเที่ยวในสวน เก็บผลไม้กินสดๆจากต้นเป็น BearGrylls กันเลยทีเดียว ได้ทำขนมไทยอย่างขนมกล้วยกินเอง (เพื่อนๆน้องๆในกลุ่มวางกับดักไว้ในขนมที่ทำด้วยนะ เลวมาก(ด่าตัวเองที่ไม่ห้ามน้อง)) ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำนา การละเล่นพื้นบ้าน และสุดท้ายคือการดำนา
แม้ว่าจะเหนื่อยแต่ก็สนุก ได้พักจากโลกที่หมุนไปไวจนเกินพอดี ลืมความจริงร้ายๆทิ้งเอาไว้ก่อน(Vacation Timeมั้ยล่ะ) มาใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย พอเพียง มีความสุขกับการรับ ได้รู้จักการให้ ที่สำคัญที่สุดคือเค้าให้เราได้ฉุกคิดว่าทุกอาชีพมีความสำคัญแตกต่างกัน ชาวนาก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สำคัญเหมือนกัน ถ้าต่อไปไม่มีชาวนาแล้วใครจะปลูกข้าวเราได้กินกัน
การออกเดินทางทุกครั้ง เราจะได้บางอย่างกลับมา สำหรับผมให้ครั้งนี้มันคือ ประสบการณ์และการเติบโตขึ้นมาอีกก้าวเล็กๆ
ก่อนที่จะกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in