เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ยิงสิ ศึกปืนนองเลือด(1)KCD.JOR
อยากกินหมูกรอบขนาดนั้น??
  • ท่านชายลานุเป็นโอรสเพียงพระองค์เดียวของกษัตริย์และราชินีเมืองกาลบุรีองค์ก่อนเมื่อตอนวัยเด็กของลานุลานุถูกเลี้ยงดูอยู่ในวังโดยมีพี่เลี้ยงคอยดูแลไม่ได้ขาดสาย ทั้งเรื่องการกินมีอาหารทุกอย่างที่เด็กอย่างเจ้าชายลานุควรได้กิน ทั้งเรื่องอยู่ มีเครื่องความสะดวกทุกอย่างที่เจ้าชายลานุมีไม่เหมือนกับคนนอกวังของเล่นมากมายกองเป็นเพนิญที่ห้องเล่น ทั้งจากตลาดหน้าวังทั้งจากต่างประเทศต่างเมืองที่คนจากเมืองอื่นเอามาถวายทุกๆปี

                “นมนม นมอยู่ไหน?” ลานุเรียกร้องขณะที่ตนเองกำลังเล่นของเล่นอยู่

                “นมก็อยู่ตรงนี้ไงค่ะนมจะไปไหนได้ ถ้านมไปไหน นมคนอื่นก็คงมาอยู่กับท่านค่ะ”

                “เราไม่ได้หมายถึงนมนี้”

                “ไม่ใช่หม่อมฉันหรอค่ะนั้นเดียวหม่อมฉันไปตามนมมาอีกคนนะท่าน” นมค่อยๆคลานออกจากห้องนั่งเล่นโดยที่ลานุไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไรว่าสิ่งที่นมกำลังจะทำนั้นมันทำให้วังวุ่นวานมาก

                “ท่านลานุค่ะนมไม่อยากออกไปหานมบ่อยๆ นมก็เลยเรียกนมทั้งหมดมาเลยค่ะ ไม่ทราบว่าท่านลานุตรัสกับนมเมื่อกี้ท่านหมายถึงนมคนไหนหรอเพค่ะ?”

                “นมนมทำไรเนี้ย?” ลานุว่างของเล่นและเริ่มถามนมด้วยความสงสัย

                “ก็ท่านลานุตรัสกับนมเมื่อสักครู่ว่าไม่ใช่นมนี้ แล้วนมคนไหนเพค่ะที่ท่านอยากพบ?”

                “เราแค่อยากดื่มนมน่ะนมนมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเนี่ย?”

                “อะไรนะเพค่ะ?”

                “เราบอกว่าเราอยากดื่มนม เราหิวนม เราถามนมว่านมอยู่ไหน เราไม่เห็นนม เราจึงถามนมว่านมอยู่ไหนเพราะเราไม่เห็นนม เราเลยถามนม....”

                “เพค่ะนั้นรอนมที่นมจะมาถวายนะเพค่ะ นมอยากให้ท่านรอนมที่ห้องนี้นะเพค่ะ”นมรีบพูดตัดก่อนที่ลานุจะพูดจบ

                “ให้เร็วนะนมวันนี้เราอยากจะออกไปข้างนอกหน่อย”

                “วันนี้ท่านอยากจะไปหนใดเพค่ะ?”

                “วันนี้เราแค่อยากออกไปที่กรมทหารเราอยากไปขอให้พวกเขาตีดาบให้กับเจ้านี้”

                “เจ้าไหนเพค่ะ?”

                “เจ้านี้ไงล่ะ”ลานุหยิบตุ๊กตาไม้ที่วางอยู่บนเก้าอี้ เครื่องแต่งกายของมันบ่งบอกได้อย่างดายว่ามันเป็นตุ๊กตานักรบ

                “เจ้านี้หรือเพค่ะ?แล้วท่านทรงอยากให้กรมทหารถวายดาบแบบไหนให้เจ้านี้เพค่ะ?”

                “เราอยากได้ดาบเหล็กกล้า”

                “ดาบเหล็กกล้าเลยหรอเพค่ะ?”นมถามท่านชายของพวกเขาโดยกลั้นเสียงหัวเราะไว้

               “เปล่าเลยค่ะท่าน ท่านรีบดื่มนมเถอะเพค่ะนมด้านเอานมมาให้นมถวายนมแล้วเพค่ะ เอาพวกมึง สักคนไปบอกที่กรมทหารทีว่า ท่านลานุจะเสด็จไปที่กรมทหารอีก1 ชั่วโมงข้างหน้า”

                “ช้าไปแหละนมข้าจะไปเดียวนี้ ไปเตรียมม้ามา” นมที่นมวางไว้ให้ลานุดื่มหมดอย่างรวดเร็วก่อนที่นมจะไปบอกนมอีกคน

                วังที่ลานุอยู่นั้นเป็นวัง2 ชั้น บันไดของวังนั้นเป็นแบบฝรั่งที่ออกแบบเป็นวงรีทรงสูงขดได้ประมาณรอบครึ่งไม่นานนักลานุได้มารอม้าที่หน้าประตูวัง ด้านหน้าประตูวังนั้นมีขั้นบันไดหินอ่อนขัดเงาอยู่3ขั้นขนาบด้วยต้นสนดำ2ต้นที่ท่านพ่อของลานุบอกว่ามันคือต้นบอนไซจากเมืองที่ชื่อว่ายี่บุนมองไปด้านหน้ามีแต่กำแพงคอนกรีตสีขาวมนๆ มีต้นทองอุไรเรียงยาวที่มีสีเหลืองของมันที่คอยปกปิดร่องรอยศิลปะอันลือค่าของเจ้าชายแห่งกรุงกาลบุรีไม่นานนัก ม้าตัวโปรดของลานุก็ควบมาพร้อมกับม้าอีก2ตัวของนมทั้ง2

                วังของลานุอยู่ในเขตวังใหญ่ของพ่อตอนนี้วังหลายๆวัง สถานทีภายในวังหลายๆที่กำลังบูรณะจากเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ในวันรวมญาติใหญ่ของราชตระกูลเหตุการณ์นั้นทำให้ลานุเสียพ่อและแม่ตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าจะหาคนทำได้แล้วแต่ทางการคิดว่าการที่จะลงมือได้เสียหายหนักขนาดนี้ทำเพียงคนเดียวไม่สามารถทำได้แน่นอน ทางการยังคงสืบสวนต่อไป ตามธรรมเนียมแล้วลานุต้องขึ้นครองราชย์ต่อจากท่านพ่อทันทีแต่ด้วยความที่ลานุยังไม่สามารถทำราชการใดๆได้ จึงทำให้ภาคี ผู้เป็นขุนนางคนสนิทของท่าพ่อของลานุมาช่วยราชการแทน

                

  • ดุสิตาเป็นหนึ่งในหลายๆคนที่รอดจากเหตุการณ์นั้นเธอเป็นราชวงศ์ห่างๆจากภานุดุสิตามีจุดเด่นที่เด่นมากๆคือแก้มที่ค่อนข้างที่จะใหญ่ น่าหยิกเธอเสียแม่ของเธอในเหตุการณ์เดียวกันกับลานุ ในวันรวมญาติวันนั้นแน่นอนหลังจากเหตุการณ์นั้นลานุมีคำสั่งให้ครอบครัวของดุสิตาย้ายเข้ามาอยู่ในวังพร้อมกับพ่อที่ไม่ได้เข้ามาในวันรวมญาติวันนั้นเพราะไม่สบายทุกครั้งที่ลานุเห็นดุสิตา ลานุชอบทักทายดุสิตาทุกครั้งนมต่างรู้กันดีว่าเจ้าชายของพวกนมนั้นหลงรักเด็กหญิงผู้นี้ตั้งนานแล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่ท่านทั้ง2พบกันที่งานรวมพระญาติครั้งแรกจนถึงตอนนี้ความรู้สึกนั้นก็ยังเหมือนเดิม ถึงแม้ว่ายังจะเด็กอยู่ก็ตาม

                “ตาตาคับ อยู่บ้านมั้ย?” เมื่อม้าควบผ่านบ้านของดุสิตา ลานุก็สั่งมาให้หยุดโดยดึงบังเหียนทั้งสองข้างพร้อมกันมาขาหลังโดยดึงจากเบามาหนัก

                “อ้าวท่านนุสวัสดีค่ะ ท่านกำลัง...”

                “เรากำลังจะไปกรมทหารนะเราจะไปให้ไอ้พวกทหารทำดาบมาถวายให้เรานะ เราจะเอามาให้กับเจ้านี้”ว่าแล้วท่านลานุก็ยกตุ๊กตาขึ้นทั้ง2มือเหนือศีรษะ

                “ให้เกียรติเหล่าทหารของท่านด้วยเพค่ะเรียกไอ้ได้อย่างไรพี่ๆทหารเขาต้องฝึกซ้อมกันอย่างหนักเพื่อที่จะปกป้องพวกเรานะเพค่ะพี่ๆยังจะต้องตื่นเช้าทุกๆวัน ออกมาวิ่ง ออกกำลังกายกันอย่างหนักไหนจะต้องโดนตีจากไม้ไผ่เพื่อความแข็งแรง ข้าวก็ได้กินแบบรีบๆ พี่ๆเสียสละมากมายท่านกรุณาให้เกียรติพี่ๆทหารด้วย”          

                “แอบไปดูทหารมาใช่มั้ย?ทำไมรู้รายละเอียดขนาดนี้ แล้วสรุปจะมามั้ย?”

                “จะไปแอบดูทำไมพี่ๆฝึกกันหนักมาก ร้อนๆก็ร้อน เสื้อก็ต้อง..” ดุสิตาแอบไปดูทหารซ้อมจริงๆเพราะสอทหารรุ่นเด็ก ที่ดุสิตาแอบชอบมาได้สักระยะหนึ่งแล้วเป็นจุดมุงหมายในการไปแต่บะครั้ง ดังนั้นการที่ดุสิตากำลังจะพูดว่าได้เห็นทหารถอดเสื้อนั้นต้องรีบหยุดคำพูดนั้นเดียวนี้ เธอรู้ว่าลานุไม่ชอบให้เธอไปมองผู้ชายอื่นมากนักแต่ครั้งนี้รอดตัวไปเพราะท่านกำลังจะให้ขอเสนอกับเธอ

                “เดียวเราพาไปกินหมูกรอบ”เหล่านมที่มาด้วยนั้นต่างรู้กันดี ท่านลานุพยายามหลายวิธีมากมายส่วนมากนั้นดุสิตาก็มักจะปฏิเสธคำเชิญของลานุแทบจะทุกครั้ง นมต่างรู้กันดีว่าดุสิตาไม่ได้มีใจตอบกับท่านชายของพวกนม แต่ท่านก็ฉลาดที่รู้จุดอ่อนของดุสิตาหมูกรอบนั้นเอง

                “จริงหรอท่านจริงๆนะ?”

                “จริงสิ”ลานุยิ้มอ่อน “แต่ตาต้องขึ้นมากับเราเดียวนี้นะ”

                “นั่งกับท่านหรอเพค่ะ?บนม้าตัวเดียวกัน เพค่ะ?”

                “นมว่าให้ท่านตามานั่งท่านนมก็ได้เพค่ะ เดียวนมเดินตามเพค่ะ” นมเข้าใจสถานการณ์ดีท่านลานุคงจะไม่หยุดถ้านมไม่เริ่มหยุด

                “ถ้าท่านไม่หยุดนะเพค่ะดีไม่ดีครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ท่านจะได้เห็นนางนะค่ะ เชื่อนม”นมอีกคนลงจากหลังม้า มากระซิบข้างหูท่านชาย

                “อย่างไงก็ได้มากับเราแหละกัน ให้เวลา 2 นาที”

  • ทุกครั้งที่ลานุมีดุสิตาอยู่ใกล้ๆลานุดูมีความสุขอย่างที่ใครๆก็สังเกตได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องถึงมือนมหรอกเพราะนมรู้อยู่แล้ว แต่คนทั่วไปที่ไม่ได้เห็นพระองค์นานๆ ต่างเข้าใจกันเองว่าท่านชายทรงมีความสุขมาก แต่เพราะอะไร อาจคงเป็นเพราะเด็กผู้หญิงผิวขาวแก้มโตคนนั้น คนที่นั่งอยู่บนหลังม้าคนที่ถูกท่านชายลานุจ้องมาอย่างไม่หยุดได้

                “ท่านถ้าท่านจะจ้องตาตาขนาดนี้ หันหลังขี่ม้ามั้ยเพค่ะ?”

                ไม่ต้องสงสัยว่าลานุจะตอบกลับคำท้าทายที่ดุสิตานั้นอย่างไรหลังจากนั้น ลานุก็หันหลังขี่ม้าจริงๆนมทั้ง2ได้แต่เอาส่ายหน้าถึงความหลงใหลที่มันมากมายของท่านชายกับท่านดุสิตาดุสิตากับลานุก็เล่นเกมจ้องตากันตลอดทาง อาจจะป็นเกมของดุสิตา แต่สำหรับลานุนั้นมันคือการส่งผ่านความรู้สึกที่อีกฝ่ายนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลย ม้าถูกจูงจนมาถึงกรมทหารอากาศที่มันร้อนไม่มาก แต่ด้วยกรมทหารมีต้นไม้น้อยนั้น ทำให้ลานุเหงื่อออกเยอะเพราะลานุอยู่ในวังเป็นส่วนใหญ่แต่ไม่ใช่สำหรับดุสิตาที่แอบมาบ่อย

                “ไม่ร้อนหรอตานมไปเอาร่มมาให้ตา”

                “เอาให้ตัวเองดีกว่ามั้ยเพค่ะ?เหงื่อออกจนตาคิดว่าท่านพึ่งอาบน้ำมา”

                “พูดเกินไปแหละตาเดียวจะกินหมูกรอบคนเดียวเลยนะ”

                “ขอโทษๆตาไม่เป็นไร นมค่ะ ดูแลท่านชายนะค่ะ ตาไม่เป็นไรค่ะ”

                “คงเป็นเพราะเธอแอบมาดูทหารซ้อมจริงใช่มั้ยถึงทนอากาศแบบนี้ได้ นุเริ่มสงสัยแหละนะ”

                นมเริ่มรู้พฤติกรรมของท่านชายอย่างดีหึ่งแน่นอน เอาตั้งแต่เด็กเลยนะท่าน

                “ตาตามาพอดีเลย สอหิวข้าวพอดี”

                เสียงของสอทหารรุ่นเด็กที่ดุสิตาเอาข้าวน้ำมาให้เป็นประจำ ทำให้ภานุตาโต  หูผึง หน้าแดงและหายใจเร็วและแรงบ่งบอกถึงอาการไม่พอใจอย่างมาก การที่ได้ยินชื่อของดุสิตาออกจากปากจากเด็กผู้ชายคนอื่นไม่ใช่สิ่งที่ลานุคาดหวังไว้มากนัก ความสุขที่เกิดขึ้น จางหายไปอย่างช้าๆ นมก็ทำตัวไม่ถูกแต่ก็เตรียมพร้อม ดุสิตาไม่ต้องพูดถึง

                “มึงพูดกับใคร!!!!!!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in