เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อยากให้ลองบ่นดูบ้างsquarrium
ไม่ป่วยคือลาภอันประเสริฐ เพราะฉะนั้นไปวิ่งกันเถอะ!

  • ช่วงนี้กระแสวิ่งถือว่ากำลังมาเวอร์ๆ ไม่ว่าจะเปิดในเฟส หรือในไอจี มีแต่คนลงรูปว่าไปวิ่งออกกำลังกาย ไปงานวิ่งบ้างอะไรบ้าง

    นี่ก็เลยถือโอกาสเล่าเกี่ยวกับการเริ่มวิ่งของตัวเอง

    ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อน เป็นคนที่เกลียดการวิ่งขนาดที่ว่าเคยพูดเอาไว้ว่าจะให้ออกกำลังกายยังไงก็ได้ ยกเว้นวิ่ง คือไม่เอาจริงๆ เพราะมันเหนื่อย

    มันฝังใจมาตั้งแต่ตอนมัธยม เพราะเคยลงสมัครคัดนักกีฬากรีฑา แล้วต้องไปถึงโรงเรียนเช้ามากเพื่อซ้อมวิ่งก่อนคัดตัว ตอนนั้นใจไม่สู้แล้วก็ไม่ได้มี Passion อะไร เลยไปซ้อมได้ไม่กี่ครั้งก็เลิก โตขึ้นมาหน่อยก็ต้องวิ่ง 100 เมตรบ้าง วิ่งผลัด 4x100บ้าง 4x200 บ้าง ตอนนั้นเราเต็มที่มากเพื่ออยากให้ชนะ แต่เพื่อนในทีมไม่ได้เต็มที่ด้วยขนาดนั้น เลยทำให้เราฝ่อไปเอง

    ขึ้นมหาวิทยาลัย ขนาดว่ามีฟิตเนสให้ใช้ฟรีก็ยังไม่เลือกวิ่งเลย เพราะรู้สึกว่ามันเหนื่อย แล้วก็บอกตัวเองตอนนั้นแหละ ให้ทำอะไรก็ได้ แต่ไม่วิ่ง!

    จนเมื่อกลางปีที่แล้วที่ป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาล 7 วัน เป็นความอนาถที่สุดในชีวิต เพราะเป็นไข้เลือดออก ไข้ขึ้นอยู่ 7 วัน ทำอะไรไม่ได้เลย ข้าวก็กินไม่ได้ ตื่นมาก็นอนอยู่บนเตียง หมอไม่ให้ลุกไปไหน ต้องเจาะเลือดทุกเช้า-เย็น ได้แต่พลิกไปพลิกมา เล่นมือถือมากๆ ก็เหนื่อย ดูทีวีซ้ำไปซ้ำมาจนเบื่อ ออกจากโรงพยาบาลแล้วยังต้องตามดูอาการ ลุกจากเตียงเดินไปไหนมาไหนก็หน้าจะมืด ใช้ชีวิตไม่ปกติต่อไปอีกเกือบเดือน 

    หลังจากนั้นก็บอกตัวเองว่าพอแล้ว จะไม่ยอมป่วยแบบนั้นอีกแล้ว 

    แต่ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แค่มีความคิดอยากออกกำลังกาย แค่นั้น

    จนเมื่อต้นปี ได้ไปฟังคนคนคนหนึ่งที่ถือเป็นไอดอลเราหลายๆ เรื่อง (แต่ขอยังไม่บอกว่าใคร) พูดถึงว่าเคยป่วยเพราะทำงานหนักเกินไปแล้วไม่ได้ออกกำลังกายเลย เลยเริ่มที่จะไปออกกำลังกายทุกอย่างที่ทำได้ จนกลายเป็นคนเสพติดการออกกำลังกาย และสุขภาพดีไปเลย มันพอดีกับช่วงที่อาการออฟฟิศซินโดรมกำลังกำเริบพอดี นั่งอยู่เฉยๆ ก็ปวดไหล่ลามไปถึงคอจนทรมานไปหมด เลยตัดสินใจแล้วว่า เอาวะ ลองไปวิ่งดูสิ๊ มันจะซักแค่ไหน

    เอาเข้าจริงก็แก้ไม่ถูกจุดเท่าไรหรอก เพราะออฟฟิศซินโดรมควรจะไปโยคะมากกว่า แต่เลือกที่จะวิ่งเพราะลงทุนน้อยที่สุด รองเท้าผ้าใบก็มีอยู่แล้ว สวนสาธารณะแถวๆ บ้านก็มี

    วันแรกที่ตื่นเช้าออกไปวิ่งไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยด้วยซ้ำ วิ่งๆ เดินๆ สลับกันไป ไม่ได้จดไว้ด้วยว่าวิ่งได้เท่าไร แต่รวมแล้วน่าจะไม่เกิน 2 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเหมือนกันนะ จากคนที่เกลียดการวิ่งมาก เราให้กำลังใจตัวเองแบบนั้น 5555

    จากคนที่เสาร์อาทิตย์ตื่นเที่ยง ตื่นบ่าย ต้องกระตุ้นตัวเองให้ตื่นเหมือนตอนไปทำงาน แล้วก็ออกไปวิ่งให้ทันก่อนจะสาย

    จนตอนนี้วิ่งมาได้ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ รวมแล้ว 23 ครั้ง จากที่วิ่งต๊อกๆ กิโลสองกิโล กลายเป็นเคยวิ่งได้ 7.5 กิโลในหนึ่งวัน! เป็นพัฒนาการระยะการวิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดแล้ว 

    ถามว่ามีอะไรในร่างกายที่เปลี่ยนไปบ้าง มันค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แต่เอาเป็นว่าตั้งแต่วิ่งมาก็ยังไม่เคยป่วยเป็นไข้เป็นหวัดเลย (แน่ล่ะ เพราะมันแค่สองเดือนกว่า)

    แล้วเหมือนเราออกไปวิ่งข้างนอกด้วยมั้ง วิ่งในสวนสาธารณะที่มีคนเยอะแยะมาวิ่งเหมือนกัน จริงจังบ้าง สมัครเล่นบ้าง เหมือนยิ่งกระตุ้นให้เราอยากวิ่งต่อไปเรื่อยๆ

    มันอาจจะไม่ได้เห็นความต่างแบบปุบปับทันที แต่เชื่อว่าตอนนี้ร่างกายต้องมีภูมิต้านทานกับโรคและความเหนื่อยในการดำเนินชีวิตแล้วแน่ๆ

    เอาไว้จะรวบรวมมาเขียนว่ามีอะไรเกี่ยวกับร่างกายที่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปเพราะการวิ่งบ้าง

    แต่ตอนนี้ไปวิ่งกันเถอะทุกคน 


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in