เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Dear diary and someone out there.blurr_r
1st : One year passed,



  • นี่คือการเริ่มเขียนไดอารี่วันแรก เหมือนเป็นnew year resolutionของปีที่แล้วที่จะเริ่มเขียนไดอารี่อย่างจริงจังอีกครั้งหลังจากหยุดเขียนไปหลายปีมากๆแล้ว จริงๆมันเหมือนไม่มีเรื่องให้เขียนเท่าไหร่ ถึงได้มาเริ่มกันวันที่12ของปีนี้แบบนี้ไง 

    ปีใหม่ที่ผ่านมา มีอะไรยุ่งๆเยอะเหมือนกัน แต่เราจะมาเริ่มกันตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่ ย้อนความกันซักหน่อย ยังไงซะก็ไม่ได้เริ่มเขียนตั้งแต่ต้นปีอยู่แล้ว จะย้อนไปก่อนหน้านั้นซัก3วันก็คงไม่หนักหนาอะไรหรอก เรากลับไปในวันที่28 ธันวาคม 2560 วันครบรอบ1ปี ที่เรียบง่ายที่สุดครั้งหนึ่งกับ... จะเรียกคุณยังไงดีไม่ให้น้ำเน่า เรียกด้วยอะไรให้กลับมาอ่านเองแล้วไม่กระดากใจดีล่ะ เอาเป็นว่า 'คุณ' ก็แล้วกัน รู้หรอกว่ายังไงคุณก็ไม่เข้ามาอ่าน แต่ถ้ามาอ่านก็... คงจะเขินๆหน่อยล่ะนะ

    ที่บอกว่าครบรอบ1ปีครั้งหนึ่ง ก็หมายความตรงตัว มันไม่ใช่การครบรอบ1ปีครั้งแรก เคยคบใครมาหลายคน แต่เหมือนครั้งนี้จะพิเศษกว่าหน่อยตรงเริ่มโตและมองความรักจริงจังมากขึ้นแล้ว ถึงตอนโตไปมากกว่านี้แล้วกลับมาอ่านที่เขียนอยู่นี่อาจจะมองว่า แม่งก็เด็กอยู่ดี ก็เถอะ แต่เอาน่า ก็ค่อยๆพัฒนาความคิดความอ่านกันไปแหละ จริงๆมันก็ไม่ค่อยมีอะไรมากหรอกไอวันครบรอบ1ปีเนี่ย คงเหมือนคู่รักคู่อื่นมั้ง อาจจะจืดจางกว่าหน่อยด้วยซ้ำ เราก็ทำเหมือนทุกครั้งที่ออกมาเที่ยวกัน เหมือนทุกครั้งที่คุณชวนออกมาเที่ยวเพราะอยากจะออกมาเฉยๆ แล้วสุดท้ายก็จบที่ดูหนังทุกที ดูเยอะจนพอสิ้นปีกลับมานั้งนับกันก็เออ ปีเดียวที่คบกันมานี่ดูหนังกันเป็น10เรื่องแล้วนะ แลเวดูท่าคงจะมากกว่านี้ในปีถัดๆไปด้วยนะเนี่ย จริงๆมีช่วงนึงที่โรงหนังมีโปรโมชั่นให้ทำบัตรสมาชิกที่เสียเดือนละ200บาทแล้วดูฟรีทั้งเดือน ตอนคุณชวนไปทำก็บอกคุณไปว่า 'ไม่ทำหรอก ไม่ได้มีหนังที่อยากดูทุกเดือนซักหน่อย'  

    แต่พอนับๆดูแล้วก็เออ จริงๆดูหนังเกิน12เรื่องต่อปีได้นี่ยังไงก็คุ้มนะ ไม่ต่างกับดูทุกเดือนนั่นแหละ แต่มันหมดช่วงโปรนั้นแล้วอะ ทำไม่ทันแล้ว ก็คงเลยตามเลย เสียตังกันต่อไปเพราะเราทั้งคู่คงไม่หยุดดูหนังด้วยกันไปอีกซักพักใหญ่เลยแหละ

    เย็นวันนั้นก่อนแยกกันตอนนั่งกินไอศกรีมอยู่ คุณถามว่า 'นี่สรุปเราไม่ต้องให้ของขวัญวันครบรอบกันใช่มั้ย' 

    เหมือนคุณกลัวโกรธที่ไม่มีของให้ แต่ตอนนั้นคงอารมณ์ดี ไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย เลยตอบไปว่าไม่เป็นไร ไม่ได้อยากได้อะไร บวกกับไม่มีของให้เหมือนกัน ไว้อยากให้ค่อยให้แหละ ไม่ต้องเป็นวันสำคัญก็ได้ คุณทำหน้าเข้าใจแล้วก็โล่งใจปนๆกัน สังเกตุเห็นนะ แต่ไม่พูดหรอก ปล่อยให้สบายใจไป

    ขึ้นปีใหม่ เราทั้งคู่ไม่สบาย คุณที่ไปฉลางกับเพื่อนดูจะเป็นหนักกว่า ก็เล่นนอนดึกทั้งๆที่ปกตินอนเกินเที่ยงคืนที่ไหน จริงๆไม่ใช่นอนดึกด้วย ต้องเรียกนอนเช้าแล้ว คนบ้าอะไรนอน8โมง จะไม่สบายก็ไม่แปลก มันคุ้มมั้ยเนี่ยกับการไปเฮฮาแต่ต้องป่วย

    เออใช่ ช่วงเดือนธันวา คุณมาโม้ด้วยว่าคุณขับรถเป็นแล้ว แทบกรี๊ดสลบตอนรู้เรื่อง เหมือนเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันไกลขึ้น จะได้ไปนู่นไปนี่แบบมีคนรับส่ง แต่ถึงแบบนั้นคุณก็ไม่ขับไปไหนมาไหนอยู่ดี ก็ไม่เข้าใจว่าแล้วจะขับเป็นไปเพื่ออะไร

    นั่นคือทั้งหมดที่ผ่านมาในช่วงข้ามปีที่มีวันครบรอบเป็นส่วนหนึ่งด้วย ออกจะธรรมดาว่ามั้ยสำหรับคู่รักที่คบกันปีแรก ไม่มีดอกไม้ ของขวัญ เค้ก หรือการกินข้าวในที่ดีๆ เราแค่ทำเหมือนที่เราเคยทำทุกครั้งเวลาออกไปไหนมาไหนด้วยกันเท่านั้นเอง




  • เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราพึ่งได้คุยกันถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นตลอด1ปี พูดถึงงเรื่องดีๆ กับความสนุกสนานในตอนนั้น ความสุขในตอนนั้น แต่ไปๆมาๆก็ไปถึงเรื่องเศร้าได้ยังไงก็ไม่รู้ เรื่องความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นแต่ไม่ได้บอกไป ความกังวลและน้ำตาที่ไม่เคยได้พูด เหมือนปลดปล่อยออกมาแบบไม่ได้นัดหมาย ไม่ได้ตั้งใจไว้ ถึงจะคิดว่าคงจะได้บอกในซักวัน แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นวันนั้น วันธรรมดาๆวันนึงที่เราก็แค่คุยเล่นทางโทรศัพท์ เหมือนทุกอย่างไหลลื่น ไม่ีความโกรธที่เคยเกิดขึ้นในตอนนั้น มีแต่เพียงความเศร้าเล็กน้อยที่ตกค้างเพราะไม่เคยได้ปลดปล่อยออกไปจริงๆซักครั้ง เพราะกลัวอีกคนเสียใจ กลัวว่าถ้าพูดไปคุณคงรู้สึกผิดมาก แต่เมื่อเราคบกัน มันคงไม่ดีถ้าเราจะปกปิดความรู้สึกแบบนี้ไปตลอด ตัดสินใจบอกไป ไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้าหรอกว่ามันจะออกมาดีรึเปล่า แค่รู้สึกว่า เราควรได้รู้นะ ว่าอีกคนที่เรารักรู้สึกอะไร แต่คุณเข้าใจ ขอบคุณมากจริงๆ

    จริงๆมันมีอีกหลายเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่าขอบคุณมาตลอด เช่น เพราะเป็นคนที่ทุกคนมาปรึกษา ทำให้ไม่ค่อยได้บอกความรู้สึกจริงๆของตัวเองกับใครมากนัก เพราะการเป็นที่พึ่งเลยเหมือนต้องแบกรับอะไรหลายๆอย่าง แต่คุณก็รับฟังให้ในวันที่ล้มจนแทบไม่อยากลุกขึ้นมาอีกแล้ว ทั้งความเสียใจ ทั้งเสียงโวยวายที่ดังแถมยังแสบแก้วหูจนถ้าเป็นคนได้ยินเองต้องด่าแน่ๆ ทั้งอารมณ์ที่รุนแรงหงุดหงิดงี่เง่าในบางครั้งที่พยายามควบคุมแล้วแต่พอไม่ไหวก็ระเบิดทุกที่ หยดน้ำตาทั้งหมดนั่น ขอบคุณที่รับมันไว้ ขอบคุณจริงๆ

    ขอบคุณที่พยายาม ทั้งๆที่รู้ว่ามีอะไรไม่เข้ากันหลายอย่าง ทั้งที่เคยบอกไปตรงๆว่าคุณไม่ตรงกับสเปคเราเลยแม้แต่นิดเดียว แต่คุณก็ยังพยายาม ทดแทนด้วยความรักที่มี มากมายจนใจรับไว้แทบไม่หมด

    เราคบกันมา1ปีแล้วนะ กับอีก10กว่าวันได้ แม้จะไม่ค่อยไม่ได้มีอะไรพิเศษระหว่างกัน เป็นคู่จืดชืดๆคู่นึงที่วันๆเอาแต่นอนหลับ คุยอะไรเล่นเรื่อยเปื่อย ดูหนังแทบทุกเรื่องในโรง กินอาหารร้านเดิมๆที่ชอบทั้งคู่ เวลาที่มีให้กันจริงๆก็น้อยเต็มที แต่ก็ยังโทรหากันแทบทุกคืนที่จะทำได้ เหมือนแทบจะไม่มีอะไรให้เทียบกับคู่รักที่เห็นในอินสตาแกรมคู่อื่น ไม่เคยลงรูปคู่ ไม่หวานแหววอะไรทั้งนั้น แต่ทั้งหมดที่คุณทำคือการเดินอยู่ข้างๆกันมาตลอด ไม่ไปไหน ไม่เคยหมดรัก ถึงมันจะแค่1ปี แล้วก็คงต้องดูกันไปอีกยาวๆ แต่ที่ผ่านมาก็ยังรู้สึกขอบคุณเสมอ

    ยอมรับว่าเคยคิดว่าคิดผิดหรือเปล่าที่เลือกให้เป็นคุณในตอนนั้น เพราะก็มีคนดีๆเข้ามาอีกเยอะแยะ แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว คงคิดได้แค่ ถ้าไม่เลือกคุณตอนนั้น จะมีความสุขเท่านี้มั้ย อาจจะไม่ได้สุขมาก แต่ขอให้เป็นสุขที่ยาวซักหน่อยก็แล้วกัน




    One year passed, you still holding my hand.
    ก็ขอให้มีมี two years passed , three years passed กันไปอีกเรื่อยๆนะ


    คิดว่าการพูดถึงคุณหลังจากนี้คงจะไม่ได้หวานแหววอะไรหรอก ในบันทีกต่อจากนี้บางเรื่องอาจจะไม่มีคุณด้วยซ้ำ แต่เปิดประเดิมด้วยเรื่องของคุณแล้ว เรื่องราวต่อจากนี้คงจะเป็นอะไรที่ดีๆเหมือนกับเรื่องของคุณ หวังว่านะ




    In my bed , In my place
    11.24 pm 120118    




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in