อาจเป็นเพราะคำว่าวันอังคาร พ้องกับ ลอยอังคาร ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผมชอบ (คนอ่านบอก WTF) ไม่ คือฟังก่อน ตอนที่อาม่าผมเสีย ผมได้มีโอกาสลองไปงานเผาท่านที่ปัตตานี จังหวัดที่อาม่าใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของท่าน ในเช้ามืดวันต่อมา พวกเราเหล่าญาติๆ นั่งเรือออกไปในอ่าว...รึเปล่าน้า ไม่แน่ใจ ไปถึงจุดที่เป็นรอยต่อระหว่างน้ำจืดกับน้ำเค็มเรือลำน้อยค่อยๆชะลอความเร็วลงและจุดตรงจุดประจบพอดีทางซ้ายเป็นจืดสีน้ำตาลเหลืองอำพัน อีกทางเป็นน้ำทะเลสีน้ำเงินเขียวดูสุขุม พระอาทิตย์ค่อยๆ ขึ้น เสียงนกร้องขับขานถึงวันใหม่ชั่วขณะนั้นราวกับฝันเลยเราค่อยๆ หย่อนโถอัฐิจากท้ายเรือบริเวณรอยต่อของน้ำสองสี อุปมาเปรียบเหมือนประตูสู่ภพภูมิหน้า ผมไม่มีวันลืมเช้าวันนั้นเลย

อาจเป็นเพราะวันอังคารคือวันโชคดี ในศาสนายิว วันอังคารถูกถือว่าเป็น 'วันแห่งความโชคดี' เพราะในบทแรกของหนังสือปฐมกาล ย่อหน้าที่พูดถึงวันอังคารมีคำว่า คือมันดีย์ อ่ะ (it was good) ถึงสองครั้งสองครา โห เล่นกันง่ายๆ งี้เลย ในทางตรงกันข้าม ชาวกรีกและสเปนโบราณบอกว่า วันอังคาร 13 ต่างหากล่ะ ที่ดูยกให้เป็น 'วันแห่งความโชคร้าย'

อาจเป็นเพราะวันอังคารถูกใช้มาประกอบเพลงศิลปินชื่อดังอย่าง the rolling stone เพลง Ruby tuseday เป็นเพลงที่เพราะติดอันดับ 500 เพลงที่ดีที่สุดในโลก จากนิตยสาร Rolling stone (นี่มันอัฐยายซื้อขนมยาย) ความหมายกินใจท่อนที่ผมชอบคือ

Who could hang a name on you?

When you change with every new day

Still I'm gonna miss you.

"There's no time to lose, I heard her say.

Catch your dreams before they slip away.

ใครจะไปแขวนชื่อให้เธอได้ใน

เมื่อเธอเปลี่ยนเป็นคนใหม่ในทุกวัน

แต่ฉันก็จะยังคิดถึง

เธออย่ามัวแต่เสียเวลา เธอบอกกับฉัน

คว้าความฝันมาก็มันจะหลุดลอยไป

..........

จะสังเกตได้ว่า ยิ่งหาเหตุผลมากเท่าไร น้ำหนักอาจะดูน้อยลงไป

อาจเป็นเพราะเพราะบางที เหตุผลที่เราจะชอบอะไรสักอย่าง ก็เรียบง่ายเสียจนเกือบจะไม่เป็นเหตุผล

ก็แค่ชอบ เท่านั้นเอง เนอะ : )

โจทย์