เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#30dayswritingchallengeSilapa Junior
DAY 1
  • ถ้าบังเอิญได้พบกับผู้นั้นอีก ผมอยากจะถามอะไรมากมาย


    ท่ามกลางป้ายรถเมล์มอซอกลางดึกในคืนฝนตก แสงสว่างจากหลอดนีออนหลังป้ายโฆษณาช่วยลดความน่ากลัวของบรรยากาศโดยรอบลง

    รถเมล์รอบท้ายของแต่ละสายทะยอยรับผู้โดยสารที่ป้ายไปเรื่อยๆ
    รถเมล์สายของผมยังไม่มา

    "กล้บบ้านเหรอไอ้หนู" เสียงของชายวัยกลางคนพูดขึ้น"ครับ" ผมสะดุ้งตกใจ รู้สึกตัวอีกทีก็เหลือแต่ผมนั่งอยู่คนเดียวที่ป้าย ผมรู้สึกตัวชาด้วยความกลัว เขายืนหน้าเข้าหาถนน นิ่งราวหุ่นไล่กา

    "ความฝันของเธอคืออะไร"อะไรวะ อยู่ๆ มาถาม แต่จะให้ทำยังไง ไม่ตอบก็ใช่ที่

    "มีเงินพอที่จะใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ทำสิ่งเชิงสร้างสรรค์แล้วมีคนชื่นชมพอประมาณ ไม่ไม่ต้องเยอะมากก็ได้ครับ เอาแบบพอที่จะ.. "

    "สรุปคือ รวย กับ คนยอมรับงั้นสิ" เขาพูดขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พลางขยับปกเสื้อโค้ตสีน้ำตาลในเข้าที่

    "ก็...ประมาณนั้นครับ"

    "งั้นชั้นจะขอถามต่อ ถ้าสมมติชั้นเป็นผู้วิเศษ ให้พรเธอได้ แต่จะให้พรสัมบูรณ์น่ะมันแพง เอาพรถูกๆแบบมีข้อแม้ไปแล้วกัน ให้เลือกข้อใดข้อหนึ่งข้อแรกคือฝันเธอจะเป็นจริงแน่ ไม่มีรู้ว่าเมื่อไร อาจจะพรุ่งนี้ ปีหน้า หรือ อีก 50 ปีก็ได้ ข้อสองคือฝันเธอจะเป็นจริงภายใน 3 ปี แต่มีโอกาสแค่ห้าสบ-ห้าสิบ เธอจะเลือกทางไหน"

    พอพูดเสร็จ ชายผู้นั้นก้มลงควานหาอะไรบ้างอย่างในกระเป๋าหนังใบใหญ่เสียงเปาะแปะของน้ำฝนกลับมาปกคลุมบริเวณอีกครั้ง

    ผมนิ่งไปนาน ไม่สามารถตอบคำถามของชายผู้นั้นได้ ทั้งที่พรข้อแรกดูจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องอย่างไร้ข้อกังขาแต่ผมเกลียดการรอ รออย่างไม่มีกำหนด มันทำผมขุ่นมัวใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    "แต่เธอรู้อะไรไหม ความฝันของผมคือการได้อ่านหนังสือที่กินใจที่สุด ได้ลิ้มลองอาหารที่เลิศรสที่สุด และได้ดูรายการทีวีที่ตลกที่สุด"

    แว่วเครื่องยนต์และยางล้อที่เสียดสีกับเพื่อนถนนค่อยๆ ดังขึ้น มันอุ้มกระเป๋าพร้อมเอี้ยวตัวไปทางขวา มาสักที สาย 76 ของผม

    "ถ้าวันไหนความฝันชั้นเป็นจริงขึ้นมาเมื่อไร ได้รู้แล้วว่าจะไม่มีหนังสือเล่มไหนกินใจไปกว่านี้อีกแล้ว อาหารมื้อต่อๆไปทำได้อย่างมากแค่อร่อยเทียบเท่า และได้หัวเราะงอหายที่สุดในชีวิต ไปเรียบร้อยแล้ว มันคงน่าเศร้าขึ้นมาพิลึก ว่าไหมไอ้หนู"

    เบรกแหลมบาดหู ทะลุเสียงฝนดังขึ้น ตามตัวเสียงปึงปังของประตูอัตโนมัติ ผมยืนขึ้น เขาผู้นั้นเองก็คงรู้ว่า ผมจะขึ้นรถเมล์ไปแล้ว

    "เรื่องพร ไม่ต้องตอบชั้นหรอกนะ เก็บไว้ตอบตัวเองก็แล้วกัน เอ้านี่ ชั้นให้ "

    ชายผู้นั้นหันมาเอามือเย็นยาบเปียกน้ำฝน จับที่ข้อมือและยัดวัตถุกลมๆ ห่อพลาสติดในมือผมอย่างไม่พูดพล่ามทำเพลง ปีกหมวกบังส่วนใหญ่ของหน้าเขา แต่ยังไม่ใหญ่พอบังรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก

    ผมตัวชาด้วยความกลัวปนความไม่เข้าใจอีกครั้ง อะไรวะเนี่ย ผมคิดพลางก้าวขึ้นรถเมล์ไป

    เสียงประตูปิดลงพร้อมกับคันเร่งของรถที่ดังขึ้น ผมเซไปคว้าพนักเก้าอี้และนั่งลง เข้าผู้นั้นไม่ได้ขึ้นรถสายนี้ หันไปอีกทีก็ไม่อยู่ที่ป้ายรถเมล์แล้ว

    ผมกำสิ่งของในมือแน่น ไม่กล้าแบดูว่ามันคืออะไร ในหัวมีคำถามมากมายถ้าบังเอิญได้พบกันอีก ผมมีหลายเรื่องอยากจะถามเขากลับบ้าง หนึ่งในนั้นคือถามว่าเขาผู้นั้นเคยดู How I met your mother รึยัง

    ผมว่ามันตลกดี

    โจทย์
    Select a book at random in the room. Find a novel or short story, copy down the last sentence and use this line as the first line of your new story

    (ประโยคแรกนำมาจากประโยคสุดท้ายของหนังสือ โมโม่ เขียนโดย มิฆาเอล เอนเด้)

    #30dayswritingchallenge

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in