เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Amateur movie reviewsfan_mable
Isle of Dogs สารถึงคนรักหมา
  •        เรามานั่งคิดๆดูกับคำถามว่ามีสิ่งใดบ้างที่ทำให้โลกของเราสดใส คำตอบมีอยู่สามอย่างคือ หนังดีๆ คนที่เรารัก และเจ้าเพี้ยนมีขน (น้องงงงงง)

                 แล้วจะเป็นเช่นไร ถ้าหากวันหนึ่งตื่นมาไม่พบเจ้าตูบผู้ภักดี ขี้เล่น และตัวอุ่นๆที่เราชอบเข้าไปจุ๊บไปกอดรัดฟัดเหวี่ยง นั่นคือสารแจ้งเตือนจากภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ Wes Anderson กับหนังที่ถ่ายทำแบบ Stop Motion เป็นเรื่องที่สองอย่าง Isle of Dogs ชื่อภาษาไทยว่า เกาะเซ็ตซีโร่หมา

    https://www.eastbayexpress.com/oakland/isle-of-dogs-is-a-howl-of-delight/Content?oid=14419608

                      ญีุ่ป่นในยุคที่กำลังก้าวเข้าสู่อนาคตแบบเต็มรูปแบบ รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้ผู้นำที่บูชาแมว แต่เกลียดสุนัขเข้าไส้ อนุมัติการกวาดล้างและขับไล่สุนัขไปอยู่บนเกาะขยะ ประเดิมด้วยการส่งสุนัขในปกครองของตัวเองไปตัวแรก หลังจากคำสั่งถูกเริ่มใช้ไม่ว่าจะสุนัขตามบ้านหรือสุนัขเร่ร่อนก็ถูกส่งไปที่เกาะขยะจนเกลี้ยงเกาะญี่ปุ่น หลายเดือนต่อมาหลานชายของผู้นำการขับไล่สุนัขบินมายังเกาะขยะ เพื่อออกตามหาสัตว์เลี้ยงคู่หูของตน พร้อมด้วยการช่วยเหลือจากสุนัขกลุ่มหนึ่งที่ถูกทอดทิ้ง ปฎิบัติการตามหาสุนัขที่หายไปจึงดำเนินขึ้น ภายใต้ความคุ้มครองของสุนัขที่ถูกทิ้งทั้งห้าตัว

    https://www.hobbyconsolas.com/reviews/critica-isla-perros-nueva-pelicula-wes-anderson-201396
                      เวสไม่เคยทำให้แฟนคลับของเขาผิดหวังจริงๆ เหมือน Isle of Dogs จะยิ่งตอกย้ำมาตรฐานว่าเวสยังคงทำได้สุด สุดแล้วสุดอีก สุดทั้งพล็อตของเรื่อง สุดเรื่องภาพ และที่สำคัญมุกตลกหน้าตายที่แทรกเข้ามายิ่งทำให้เรารักกับอารมณ์ขันตลกๆของเขามากยิ่งขึ้น สำหรับฉากในเรื่องสีสันสวยงาม น่าสนใจทุกๆฉาก รายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็เก็บเรียบแทบไม่มีที่จะให้ไปติเลยสักนิด ภายใต้การพูดญี่ปุ่นของตัวละครมนุษย์ที่ถึงแม้ว่าเวสจงใจจะไม่ขึ้นซับอิ้ง แต่ให้มีตัวละครที่เป็นล่ามทำหน้าที่แปลเป็นอังกฤษแทน ก็ไม่สามารถกั้นกำแพงระหว่างภาษาไปได้เลย สีหน้าและท่าทางของตัวละครมนุษย์ยังถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างดีเยี่ยม และที่ขาดไปไม่ได้เป็นส่วนสำคัญที่สุดคือ ตัวละครต่างๆในหนังเรื่องนี้

    https://clture.org/isle-of-dogs/
                      การออกแบบคาแรคเตอร์ของตัวละครในเรื่องทำได้ดีเยี่ยมจริงๆ มีการเล่าย้อนอดีต (Flashback) ที่จะทำให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครได้ดียิ่งขึ้น และตัวละครอย่างชีฟ (Chief) ที่เป็นละครที่มีไดนามิคและมีพัฒนาการที่สุดในเรื่องแล้ว หมาจรจัดที่ไม่มีใครเขาอยากรับไปเลี้ยงเพราะว่าจ้องจะกัดไม่เลือกหน้า ตามสัญชาติญาณของสุนัขที่ไม่เคยได้มีเจ้านายเป็นตัวเป็นตน กลับกลายเป็นว่าการดำเนินเรื่องทำให้เราค่อยๆเห็นความเปลี่ยนแปลงของชีฟที่มีต่อเด็ก มันกลายเป็นหมาที่อ่อนโยนและเปิดใจมากขึ้น ข้อสังเกตในหนังของเวสคือ ตัวละครเอกจะมีความไม่สมบูรณ์แบบและนั่นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังน่าดูมากยิ่งขึ้น นี่ยังไม่นับตัวละครเล็กๆที่สร้างความตลกให้กับเรา อย่างแก๊งค์หมาทั้งสี่ในตอนแรกที่รู้สึกจะยึดติดกับประชาธิปไตยมากซะเหลือเกิน หรือตัวละครอย่างโอราเคิล (Oracle) หมาปั๊กนักพยากรณ์ที่มีซีนทีไรเราก็เอ็นดูตลอด เพราะน้องน่ารักแล้วก็ชอบทำให้คนอื่นดูเด๋อไปเลย

    http://whatculture.com/film/isle-of-dogs-review-7-ups-2-downs?page=2
                       นอกจากอารมณ์ขัน และคาแรคเตอร์น่ารักๆของน้องหมาแต่ละตัวในเรื่องแล้ว ที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ นักพากษ์ผู้ให้เสียงตัวละครก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงและมีบางคนที่เคยร่วมงานกับเวส แอนเดอร์สันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น บิล เมอร์เรย์ ที่เป็นตัวเอกประจำหนังของเวสอย่างเรื่อง The Royal Tenenbaums และThe Life Aquatic with Steve Zissou, เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน ที่เคยเล่นเรื่อง The Grand Budapest Hotel และ Moonrise Kingdom, ทิลด้า สวินตัน อีกคนในThe Grand Budapect Hotel และยังมีนักแสดงที่ไม่เคยร่วมงานกับเวสแต่ต่อไปน่าจะมีให้เห็นในหนังของเวสต่อๆไป อย่างสการ์เล็ต โจแฮนสันและไบรอัน แครนสตัน



                     ยิ่งถ้าได้มาดูเบื้องหลังการถ่ายทำ กว่าจะทำหนังแนว Stop-Motion ออกมาได้แต่ละฉากๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ ต้องให้เวลากับรายละเอียด การเคลื่อนไหวที่ดูลื่นไหลไม่หลอกตา และอารมณ์ของหนังที่จะต้องปะติดปะต่อกันตลอดทั้งเรื่อง ตอนที่ดูเราพูดจริงๆเลยว่าไม่มีตอนไหนเลยที่จะทำให้เราวอกแวก หรือทำให้เรารู้สึก เห้อเมื่อไหร่แม่งจะจบ ไม่มี ไม่มีเลยความรู้สึกนี้ มีแต่ความตื่นเต้น สนุกและรู้สึกอยากติดตามเอาใจช่วยทั้งเด็กทั้งหมาไปพร้อมๆกัน
                   อีกเสน่ห์ในหนังฝีมือเวสคือเวสมักจะเน้นเรื่องความรักในครอบครัว และความสัมพันธ์ที่เกิดจากการปรับตัวเข้าหากัน โลกในหนังของเวสไม่เคยสมบูรณ์แบบ ตัวละครอาจจะมีปมไม่ว่าจะทางร่างการหรือจิตใจ แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อหนังจบ มันก็ทำให้เราเพลิดเพลินกับตัวละครที่ไม่สมบูรณ์แบบ เรียนรู้ได้อีกมากจากข้อผิดพลาด และหัดที่จะเปิดใจและมอบความรักให้คนอื่นได้เสมอ


    https://www.warwickartscentre.co.uk/news/2018/05/student-ambassador-review-isle-of-dogs/
                   ถ้าใครไปดู Isle of Dogs แล้วชื่นชอบอยากหาเรื่องที่คล้ายๆกันเราขอแนะนำ Fantastic Mr. Fox หนังแนว Stop-Motion คล้ายๆกันกับเรื่องนี้เลย ส่วนคนที่ถามว่า ตกลงเวสเป็นคนรักหมาหรอ นึกว่าเป็นทาสแมวมาตั้งนาน (อาจจะด้วยความนิสัยคล้ายกับแมวมีโลกส่วนตัวสูงลิ่วๆ และชอบผ้าสักหลาดและสีฉูดฉาดนั้น) ไม่ว่าเวส แอนเดอร์สันจะเป็นทาสแมวหรือทาสหมา ก็สุดจะเลี่ยงความจริงที่ว่า เวสเป็นผู้กำกับฝีมือเยี่ยมยอดอีกคนในวงการที่ไม่มีใครสามารถจะเลียนแบบได้จริงๆ


    Thanks for reading!


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in