เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อินเทิร์น เพลินเกินร้อย!Krittamate Mate
ทริป : หนองบัวลำภูมาดูเร็ว!
  • วันนี้ผมพาคุณผู้อ่านทุกคนไปเที่ยวหนองบัวลำภูกับผม แต่ขออนุญาตแปะลิ้งก์ไว้ให้สำหรับใครที่ต้องการติดตามผลงานของผมอย่างละเอียด เชิญเข้าชมเพจ Travel Around The World Magazine ซึ่งมีเนื้อหาและภาษาแตกต่างจากในบล็อกนี้ครับ 

    เรียน ผู้อ่านทุกท่าน

    บล็อกนี้ผู้เขียนขอนำเสนอเรื่องราว เนื้อหา และประสบการณ์เฉพาะกิจกรรม ทริป และเรื่องน่าสนใจเท่านั้น วันทำงานธรรมดา ๆ หรือไม่มีอะไรพิเศษขออนุญาตไม่เขียนลงบล็อกครับ 

    ด้วยรักจากเมธ!

    วันนี้ขอพาทุกคนไปเที่ยวที่หนองบัวลำภู แต่จะข้ามช่วงวินาทีก่อนที่ผมจะได้ไปทริปนี้ร่วมกับททท.ไม่ได้เลยครับ เพราะมันตลกมาก (สำหรับผมน่ะนะ5555) ย้อนเวลากลับไป ณ วันที่ข้อมูลของทริปนี้มาถึงมือผมเป็นคนแรก เพราะผมสนิทกับพี่กะติ๊บและพี่พลอย เจ้าหน้าที่ของททท.ครับ เมื่อข้อมูลมาถึงมือก็พบว่ามีทริปจากภูเก็ตเชิญมาเหมือนกัน เราจึงจำเป็นต้องเลือก... ไม่ต้องสืบว่าผมต้องอยากไปภูเก็ต แต่แน่นอนว่าเส้นทางการไปภูเก็ตไม่ง่ายครับ เพราะมีพี่เต็ก ตากล้องของบริษัทที่จ้องทริปภูเก็ตตาเป็นมันอยู่เหมือนกัน เราใช้เวลาเกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมานานพอสมควร... "เมธไปหนองบัวฯ เถอะพี่น่ะแก่แล้ว ให้ไปสบายเถอะ" "โห่ พี่ผมยังไม่เคยไปใต้เลยผมอยากไปสักครั้งนะพี่" "ภูเก็ตเอง เดี๋ยวเมธก็ได้ไป" และอีกสารพัดประโยคที่ผมจำไม่ได้5555 จนสุดท้ายเกิดอะไรขึ้นรู้ไหมครับ พี่จัมพ์ได้ไปภูเก็ต ส่วนผมและพี่เต็กถูกส่งไปหนองบัวลำภูแบบแพ็คคู่ ในชื่อ "เต็กเมธคู่หูคู่ใหม่" ตามคำบอกของพี่กล้วย (ฮา)

    เอาเถอะ...อย่างน้อยก็ได้ออกทริปล่ะวะ! ดีกว่านั่งทำงานที่ออฟฟิศ ทริปนี้ 3 วันเช่นเดิมไม่ต่างจากทริปก่อน ระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2562



  • DAY 1 (05-07-62)

    เริ่มต้นวันแรกก็ฮาร์ดคอร์แล้ว ด้วยการนั่งแท็กซี่ไปท่าอากาศยานดอนเมืองตอนตีสี่ครึ่ง! คิดดูแล้วกันนะครับว่าผมต้องตื่นเช้าขนาดไหน (ฮือ) ผมไปถึงสนามบินประมาณตีห้าก่อนเวลานัดหมายครึ่งชั่วโมง ที่เคาท์เตอร์เช็คอินผมพบกับพี่ ๆ ที่เคยเจอกันที่ชัยภูมิอยู่หลายคน ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น... ผมกินอะไรเรื่อยเปื่อยไม่นานพี่เต็กก็ตามมาสมทบ และก็ได้เวลาประทับก้นบนเบาะนิ่ม ๆ ของเจ้านกเหล็กสายการบิน Air Asia แล้ว!
    .
    ใช้เวลาไม่นานผมก็ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี และนั่งรถตู้ต่อไปยัง"ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ศาลแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นศุนย์รวมจิตใจของชาวหนองบัวลำภูครับ บางคนอาจสงสัยว่าพระนเรศวรเกี่ยวข้องอะไรกับหนองบัวลำภู เรามีคำตอบครับ! ในอดีตพระนเรศวรเคยยกทัพไปตีเวียงจันทร์ และแวะพักที่หนองบัวลำภูครับ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทราบนี้ก็มีพระราชดำริให้สร้างศาลสมเด็จพระนเรศวรขึ้น เวลาที่ผมไปถึงค่อนข้างวุ่นวาย (มาก) เพราะสื่อมวลชนเต็มไปหมด คนเยอะ ทำให้ไม่สามารถถ่ายรูปได้มุมตามที่ต้องการ แถมอากาศยังร้อนอบอ้าวจนอยากร้องไห้ ผมใช้เวลาที่นี่ไม่นานก็เดินทางต่อไปที่อื่น 

    สำหรับสายกินรับรองว่าต้องชอบ"บ้านท่าลาด"แน่นอน! เพราะที่นี่มีแม่ ๆ นักทำปลาส้มมือฉมังคอยต้อนรับพวกเราอยู่แล้ว แม่ ๆ นำเสนอปลาส้มสายเดี่ยวซึ่งเป็นของดีประจำจังหวัดและแสดงฝีมือการทำปลาส้มอย่างเต็มที่ การทำงานที่นี่ยังยุ่งยากเช่นเคย เพราะจำนวนสื่อมวลชน และสถานที่ที่ไม่เพียงพอกับจำนวนพวกเรา ทำให้กว่าจะได้ภาพแต่ละภาพก็เล่นเอาปางตาย แต่ทริปนี้ผมสามารถโฟกัสกับการเก็บข้อมูลได้เต็มที่ เพราะมีพี่เต็กคอยถ่ายรูปสวย ๆ ให้ตลอด 3 วันครับ แต่ปัญหาในการทำงานกลับมาเร็วกว่าที่คิด เพราะผู้ใหญ่บ้านผู้ให้ข้อมูลและเจ้าหน้าที่ดูแลการผลิตปลาส้มให้ข้อมูลที่ค่อนข้างย้อนแย้งกันจนผมตัดสินใจลำบากว่าจะใช้ข้อมูลของใครในการเขียนงานนี้ดี (ฮา)
    Cr. FB : Travel Around The World Magazine

    กินปลาส้มจนพุงกางแล้วก็เดินทางต่อไปที่"บ้านตาดไฮ" บ้านนี้พูดตรง ๆ ว่ามีสิ่งน่าสนใจหลายอย่าง แต่ขอเลือกมาเขียนในบล็อกนี้แค่ 2 อย่างแล้วกัน (ขอโทษครับ แต่ไม่อย่างนั้นบล็อกนี้จะกลายเป็นบทความยาวเหยียดทันที) สิ่งแรกเราขอนำเสนอ... "อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำบอง" อ่างเก็บน้ำไซส์บิ๊กเบิ้มที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวย ๆ มากมาย บรรยากาศที่นี่ผมให้เต็ม 5 ดาวเลยครับ เพราะอากาศเย็นสดชื่นมาก ๆ 
  • พวกเราได้นั่งเรือไล่ไปตั้งแต่ผืนน้ำกว้างใหญ่ยันลัดเลาะเส้นทางแคบ ๆ ธรรมชาติรอบตัวทำให้ผมยิ้มไม่หุบเลยบริเวณนี้มีถ้ำย่าเลิศครับ ขอเขียนถึงประวัติที่นี่แบบสรุปสั้น ๆ เพื่อให้เข้าใจถ้ำนี้มากขึ้น ก็คือ "£$%"£$$^" จบแล้ว! อ่ะ หยอก ๆ 5555 "ย่า" ในทีนี้มาจาก "หญ้า" หญ้าที่ปลูก ๆ กันเนี่ยแหละครับ เพราะบริเวณนี้ ในอดีตนิยมปลูกหญ้าและพืชอื่น ๆ ส่วน "เลิศ" มาจากเวลาที่มีผู้คนมากราบไหว้ขอพรมักจะสมคำปรารถนาครับ โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ คนจึงว่าที่นี่เลิศจริง ๆ รวมกันกลายเป็นชื่อ "ถ้ำย่าเลิศ" ครับ ที่นี่ก็ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ คือมีอุปสรรคอีกแล้ว! คือไกด์ท้องถิ่นพูดอีสานที่แม้แต่คนอีสานยังฟังไม่ออก ต้องช่วยกันแปลให้แน่ใจ และเขาก็เดินไม่สนใจผู้ร่วมทริปคนอื่น ทำให้ผมต้องวิ่งตามแกเป็นเงาตลอดเวลา 
    นอกเรื่อง : อย่างที่บอกไปว่าภาษาอีสานที่ไกด์พูด เป็นภาษาที่แม้แต่คนอีสานยังงง แต่สุดท้ายผมได้พี่เต็กช่วยแปลจนได้เป็นเนื้อหาดี ๆ แบบนี้ครับ (ชมงานตัวเองอีก) โดยประกอบด้วยความร่วมมือของคน 3 ภาค คือ ปาปี้(ภาคอีสาน)-เด็กฝึกงานนั่งโต๊ะตรงข้ามผม ผม(ภาคกลาง)-ที่ฟังภาษาอีสานออกแต่ต้องไม่ใช่สำเนียงนี้! และพี่เต็ก(ภาคใต้)-ผู้ฟังออกได้ในแว้บเดียวจนสงสัยว่ามันใช่ใช่มั้ยพี่
    Cr. FB : Travel Around The World Magazine

    ที่นี่มีทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวด้วย ซึ่งต้องบอกว่ามันก็สวยนะ แต่ก็ไม่ได้สวยแบบว้าวอ่ะ5555 ขากลับจากบ้านตาดไฮเราก็แวะ"วัดป่าพรหมวิหาร"เพื่อกราบไหว้ขอพรครับ

    จากนั้นมาถึงไฮไลท์ที่เราประทับใจที่สุดในการเดินทางครั้งนี้! อยากนำเสนอให้แก่ทุกคนมาก ๆ เรากลับไปบ้านตาดไฮอีกครั้ง เพื่อชมพระอาทิตย์ตกดินกลางสายน้ำเงียบสงบและศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตชาวประมง ผมยอมรับเลยว่าผมไม่ได้สนใจเรียนรู้การจับปลาของพวกเขาที่เรียกว่า "การยก (สะดุ้ง) ยอยักษ์" มากนัก เพราะตื่นตาตื่นใจกับวิวรอบตัวมากเกินไป (ฮา) วิวอลังการงานสร้างมากจริง ๆ ครับ สวยงามมาก! หลังจากถ่ายรูปจนพอใจก็เสร็จภารกิจของวันแรกสักที
    Cr. FB : Travel Around The World Magazine
    Cr. FB : Travel Around The World Magazine

    DAY 3 (07-07-62)

    ไม่ต้องตกใจนะครับว่าทำไมเราทำถึงข้ามมาวันที่ 3 เลย เพราะเมื่อวานผมเข้าประชุมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและการท่องเที่ยวประจำจังหวัดหนองบัวลำภูและอุดรธานีเกี่ยวกับการสนับสนุนและแนวโน้มการท่องเที่ยวของจังหวัดหนองบัวลำภูในอนาคตครับ ใช้เวลาทั้งวันจนไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเลย... เอาเถอะ ช่างมัน! เข้าเรื่องวันที่ 3 ของเราดีกว่า วันนี้ไม่ถูกใจวัยรุ่นอย่างแรง! เพราะมันคือวันแห่งผ้าไทย วัยรุ่นอย่างผมแทบจะขาดใจ! อยากไปเจอธรรมชาติ เจอผู้คนเยอะ ๆ มากกว่า แต่เราเลือกงานได้ที่ไหนล่ะ
  • วันนี้ตะลอนทั่วเลยครับ ไปชุมชนทอผ้าถึง 4 แห่ง! แต่ที่ผมสนใจจริง ๆ มีอยู่ 2 แห่งที่ดูทันสมัยเข้ากับคนหนุ่มแบบเรา 1.กลุ่มแม่เอื้อมคำผ้าขิดไหม ผ้าของที่นี่เข้ากับยุคสมัยมาก เพราะมีสีสันฉูดฉาดแนวพาสเทล ทั้งชมพู แดง ส้ม และมีความโมเดิร์น เห็นเป็นการทอผ้าแบบผสมผสานแบบนี้ แต่ก็สืบทอดมากว่า 30 ปีแล้วครับ 2.ศูนย์เรียนรู้และออกแบบขวัญตา มีผ้าดีไซน์ทันสมัยจนถูกนำไปใส่เดินแบบที่ฮังการี ไต้หวัน และญี่ปุ่นครับ และอีกสิ่งที่น่าสนใจคือ มีการย้อมครามสูตรพิเศษ ที่เรียกว่าสูตรต้มยำ! ครบเครื่องทั้งขมิ้นชัน ขิง และตะไคร้ ไม่รู้ว่าน้ำข้นหรือน้ำใสแหละ แต่ตอนนี้หิวมาก (ฮา) โดยความพิเศษของสูตรนี้คือ สามารถย่นระยะเวลาการย้อมครามได้ดี

    Cr. FB : Travel Around The World Magazine

    แน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้ คือการสอบถามเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อมูลที่สดใหม่และไม่ซ้ำใครซึ่งได้เรียนรู้จากพี่เต็กมากทีเดียว โดยบทสนทนาสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ "เอ๊ะ นั่นอะไรครับ" หลังจากนั้นข้อมูลก็หลั่งไหลเข้าหัวเราอย่างเร็วไวยิ่งกว่า Fast 9 ที่เพิ่งเข้าโรงฯ

    หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางไป"วัดศรีคูณเมือง" วัดเก่าแก่ประจำจังหวัดหนองบัวลำภู (หรือที่สมัยก่อนเรียกว่าวัดคนชุมน้ำออกบ่อศรีคูณเมือง) เพื่อกราบไหว้สักการะขอพรอีกครั้งก่อนเดินทางกลับ จุดเด่นของวัดนี้คือ เป็นวัดเดียวที่หันหน้าไปทางทิศใต้ วัดนี้มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่ารักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ และยังเชื่อมไปถึง"ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช"ที่ไปมาวันแรก ที่นี่เองความชิบลอสต์ก็บังเกิดขึ้น เมื่อผมพิมพ์ข้อมูลผิดจนมีผู้อ่านมาแย้งในเพจ! ซึ่งมันอัปลงเฟซบุ๊กไปแล้วให้ตายเถอะ หน้าเสียเลย เครียดมาก ๆ เพราะกูเกิ้ลแมปเจ้ากรรมดันตั้งหมุดไม่ตรง ทำกี่รอบก็ไม่ตรง แต่เป็นสถานที่ชื่อเดียวกัน (งงไหมทุกคน) เลยกลายเป็นระยะทางเชื่อมจากบ่อน้ำไปศาลล่อไปถึง 30 กิโลฯ ทั้งที่จริง ๆ มันแค่กิโลกว่า ๆ เท่านั้นเอง! เราก็ขอเตือนทุกคนให้ทำงานอย่างละเอียดรอบคอบไม่เหมือนเรานะครับ... ขอบคุณพี่ ๆ ในออฟฟิศมาก ๆ ที่ให้กำลังใจและไม่ต่อว่าเราครับ สัญญาว่างานหน้าจะไม่ผิดพลาดแน่นอน!

    Cr. FB : Travel Around The World Magazine

    หลังจากนั้นก็แวะซื้อของกินนิดหน่อยก่อนบินลัดฟ้ากลับกรุงเทพฯอีกครั้ง พร้อมความทรงจำดี ๆ อัดแน่นเต็มกระเป๋าจนถ้าให้มายืนเล่าหน้าห้องครึ่งชั่วโมงก็ยังเลาสไม่หมด 55555

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in