เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เสน่ห์ของความเชื่องช้าpattnya
พัก
  •          ในแต่ละวันเราพาตัวเองออกไปเจอกับความวุ่นวายมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะมาจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง สภาพการจราจร สภาพอากาศที่แปรปรวนยากต่อการคาดเดา น่าแปลกที่ถึงแม้ในปัจจุบันนี้จะเต็มไปด้วยเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่เรากลับเหนื่อยหน่ายและรู้สึกว่าทั้งหมดนี้มันวุ่นวายเสียจริง ทุกอย่างยากต่อการควบคุมอาจเป็นเพราะปัจจัยในด้านความรวดเร็ว หลายครั้งเราจึงไม่มีเวลาให้หยุดพัก สูดลมหายใจและคิดให้ถี่ถ้วนเสียก่อน แน่ล่ะ..ในยุคที่ทุกคนสามารถเล่าเรื่องราวต่างๆผ่านข้อความ สั้นบ้างยาวบ้าง ผ่านรูปภาพ ทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหว แสดงความรู้สึกนึกคิด ณ ชั่วขณะหนึ่งได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอ ด้วยความวุ่นวายของโลกภายนอก หลายครั้งเราจึงเผลอปล่อยให้ปีศาจร้ายในตัวออกมาเดินเล่นได้อย่างสบายอกสบายใจ ไร้ซึ่งการควบคุมใดๆ ร้ายที่สุดคือปล่อยให้ปีศาจเหล่านั้นเพ่นพ่านผ่านโลกออนไลน์ไปกระทบจิตใจของผู้อื่นอีก 
            นี่แหละคือความยากของยุคสมัยที่สิ่งต่างๆ รอบตัวผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงมักหวนกลับไปนึกถึงความเชื่องช้าในอดีตอยู่บ่อยครั้ง น่าแปลกอีกเหมือนกัน ที่ถึงแม้ว่าทุกสิ่งในอดีตจะเต็มไปด้วยความเชื่องช้า แต่ฉันกลับไม่รู้สึกเหนื่อยหน่ายมันเลย ฉันชอบความคลาสสิกของการต้องอดทนรอการตอบกลับหรือแม้กระทั่งตอบรักจากใครบางคนผ่านจดหมาย การรอลุ้นว่าดีเจจะสุ่มเปิดเพลงที่เราชอบรึเปล่า การเดินทางที่อาจไม่สะดวกสบายเท่ากับตอนนี้แต่ระหว่างทางก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับความเรียบง่ายของบ้านเมืองและทิวทัศน์ริมทางได้ในแบบที่ไม่ต้องเสียอารมณ์เพราะการจราจรติดขัดเท่ากับยุคปัจจุบัน เสน่ห์ของความเชื่องช้าคงอยู่ที่ตรงนี้ ย่อมดีกว่าอยู่แล้วหากเราได้มีเวลาหยุดคิดพร้อมทั้งฟังเสียงหัวใจตัวเองได้มากขึ้น เพราะการได้หยุดพักนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์เราสมควรได้รับ จะมีสิ่งใดดีไปกว่าการได้ปล่อยให้สมองและใจได้ทำหน้าที่ของมันอย่างช้าๆแต่ทว่าเปี่ยมไปด้วยคุณภาพอีกล่ะ จริงไหม?

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in