เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[JackBam] Angels /GOT7 FanFictionChunari_CJ
Chapter 21 : ชิงตัว
  • ร่างของแจ็คสันพุ่งไปที่ประตูทันทีที่เหตการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงสัญญาณเตือนภัยที่ดังลั่นประตูอัตโนมัติที่มักจะเปิดขึ้นทันทีถ้ามีคนเดินเข้ามาใกล้กลับหยุดนิ่ง

     

    “เปิดสิ!! เปิด!! โธ่โว๊ยย!! ฮยอง!!” มือแกร่งทุบลงที่ประตูอย่างร้อนใจแล้วหันกลับมาหาหัวหน้าทั้งสองเพื่อขอความช่วยเหลือยูคยอมเดินเข้ามาดึงแขนเขาให้เดินกลับไปที่โต๊ะ และแอบกระซิบเบาๆ

     

    “มาตรการความปลอดภัยไงเฮีย ลืมแล้วเหรอ”แจ็คสันมองหน้าม้าที่หนาเตอะของยูคยอม แล้วพยายามดึงสติของตัวเองกลับมาความเป็นห่วงแบมแบมทำให้เขาลืมทุกอย่างแม้กระทั่งกฎพื้นฐานประตูทุกบานจะถูกปิดตายเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน จนกว่าจะได้รับสัญญาณให้อพยพชายหนุ่มก้มหน้าลงแล้วสูดหายใจลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ มือขวายกขึ้นกุมหน้าอกยิ่งเขาตื่นเต้นมากเท่าไหร่ ความร้อนที่กลางอกก็พุ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น  เจบีที่ยืนอยู่ที่หัวโต๊ะ จิ้มลงไปที่ริสแบนด์ของตัวเองครู่เดียวจอโฮโลแกรมก็สว่างขึ้น

     

    “ยองแจ ยองแจปลอดภัยรึเปล่า”  

     

    “ผมโอเค ฮยองมีระเบิดขึ้นที่แถวๆ ประตูหน้าครับเราถูกโจมตีจากกลุ่มบุคคลไม่ทราบจุดประสงค์แน่ชัด ตอนนี้ซิเคียวกำลังไปสกัดไว้”  

     

    “ส่งสถานการณ์ทั้งหมดมาให้ฉัน สั่งอพยพทุกคนออกทางประตูข้างล็อคดาวน์โดมทั้งสองแล้วเปิดเกราะไฟฟ้าของโดมด้วย”

     

    “ครับฮยอง” สิ้นเสียงยองแจจากริสแบนด์ภาพเหตุการณ์ด้านหน้าที่มีการปะทะกันก็ฉายขึ้นบนจอใหญ่ที่ผนังแผนที่โครงสร้างสถาบัน จุดที่เกิดความเสียหาย  รายล้อมด้วยภาพจากกล้องวงจรปิดแทบทุกตัวที่กำลังออนไลน์  ภาพจากด้านหน้าประตูใหญ่ที่ยังมีกลุ่มควันโขมงปรากฎร่างของชายในชุดดำกลุ่มใหญ่ราวเกือบ20 คน กำลังปะทะกับกองกำลังซิเคียวริตี้แต่กลุ่มชายชุดดำเชี่ยวชาญการต่อสู้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดทำให้กองกำลังซิเคียวริตี้ที่เข้าไปสกัดล้มลงไปกองกับพื้นทีละคนสองคนอย่างรวดเร็ว

     

    “ซิเคียวเอาไม่อยู่แน่ ยูคยอม แจ็คสัน ไปกับฉัน”เจบีออกคำสั่ง ยูคยอมไม่รอช้ากดปุ่มเพื่อเปิดคลังอาวุธแล้วเตรียมตัวทันที

     

    “เดี๋ยวครับฮยอง”เจบีชะงักเมื่อได้ยินเสียงของแจ็คสัน

     

    “ว่าไง”

     

    “ผมว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับแบมแบมมันบังเอิญเกินไปที่อยู่ดีๆ เราก็โดนโจมตีตอนนี้ผมอยากให้เราย้ายแบมแบมไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย” 

     

    “แต่ว่า..”

     

    “ฉันเห็นด้วยกับแจ็คสัน”เสียงนุ่มของจินยองเอ่ยขึ้นหลังจากนิ่งวิเคราะห์เหตุการณ์อยู่นาน  “เจบี  คอมพิวเตอร์ในแล็ปที่ฉันใช้วิเคราะห์ตัวอย่างเลือดของแบมแบมเมื่อวานนี้  ไม่ได้เข้ารหัสของฉัน..”หัวหน้าแผนกวิจัยสบตาเพื่อนเพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจความหมายประโยคที่เขาพูด

     

    “ถ้าอย่างนั้น...”ประกายบางอย่างวาบขึ้นในตาของหัวหน้าแผนกลาดตระเวน

     

    “ใช่ มันจะรายงานทุกอย่างขึ้นข้างบนโดยอัตโนมัติ  ข้างบนรู้สภาวะของแบมแบมแล้วและคนที่ต้องการเลือดของแบมแบมก็น่าจะรู้ด้วยเหมือนกัน”

     

    !!!!! บรึ่ม !!!!!!! เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งใกล้กว่าครั้งก่อนเจบีหันกลับไปสำรวจสถานการณ์บนหน้าจอแล้วพบว่ากลุ่มชายชุดดำสามารถทำลายประตูบานใหญ่ข้างหน้าได้และกำลังบุกรุกเข้ามาด้านใน  กองกำลังซิเคียวริตี้กำลังพยายามต้านอย่างสุดความสามารถแม้จำนวนจะบางตาลงมากก็ตามเสียงริสแบนด์ของเจบีดังถี่ ชายหนุ่มจึงรีบกดรับทันที

     

    “ฮยองพวกมันเข้ามาได้แล้ว มีสองสามคนมุ่งมาทางนี้ด้วยฮยอง!! ช่วยผมด้วย!”

     

    “ไม่ต้องห่วงยองแจ ฉันกำลังไปปลดล็อคประตูแผนกนี้ให้ฉัน ล็อคดาวน์ห้องนายซะแล้วก็ชัดดาวน์ระบบข้อมูลภายในทั้งหมดด้วย อย่าให้ใครเอาอะไรไปได้เด็ดขาดใส่เอียร์ปลั๊กไว้ หาที่หลบให้ดี รอสัญญาณจากฉัน” เจบีสะบัดข้อมือเพื่อตัดสายแล้วหันมามองหน้าคนที่เหลืออยู่ในห้องอย่างรีบร้อน

     

    “จินยองสภาพแบมแบมตอนนี้ถ้าย้ายออกจากห้องจะไม่เป็นไรแน่เหรอ”หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนถามย้ำเพื่อความมั่นใจจินยองก้มลงเช็คเวลาที่ข้อมือแล้วใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว  

     

    “ฉันต้องฉีดยาให้เขาอีกเข็ม แบมแบมจะหลับลึกไปอีก24 ชั่วโมง ระหว่างนั้นคงไม่เป็นไร แต่ว่าเราจะพาแบมแบมไปที่ไหนได้ล่ะ”

     

    “พาเข้าไปที่โดมใหญ่ สัญญาณเตือนภัยดังลั่นแบบนี้แองเจิ้ลส์คนอื่นคงหลบอยู่แต่ในรัง ไม่ออกมาแน่ นายกับแจ็คสันพาแบมแบมไปหลบที่นั่นก่อนเรื่องสงบแล้วค่อยคิดกันว่าจะเอายังไงต่อ แจ็คสันนายไปกับจินยอง ถ้าแบมแบมเป็นเมทของนายจริงนายคงรู้ดีว่าจะต้องทำยังไง ยูคยอมไปกับฉัน ข้างหน้าคงต้านได้อีกไม่นาน”ประตูแผนกเลื่อนเปิดออกทันที่ที่เจบีสั่งการจบราวกับรู้จังหวะ  ทั้งสี่คนต่างไม่รอช้า แยกย้ายกันไปยังเป้าหมายของตัวเองทันที

    .

    .

    .

    .

    .

     ควันซิการ์ชั้นดีลอยอ้อยอิ่งอยู่ในห้องพักสุดหรูที่ปิดไฟมืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากย่านแสงสีและตึกระฟ้ามากมายเท่านั้นที่ส่องเข้ามาทางกำแพงตึกสูงที่เป็นกระจกใส กลางห้องมีชุดรับแขกเรียบง่าย ชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำล่ำสันในชุดพรางตาสีดำสนิทจนแทบจะกลืนเป็นหนึ่งเดียวไปกับโซฟาหนังชั้นดีสีเดียวกันกับที่เขานั่งอยู่ กู่จิ้นอันพ่นควันซิการ์ที่เพิ่งสูดเข้าไปเมื่อสักครูอย่างใจเย็นพร้อมกับขยับแก้วเหล้าสก็อตในมือ

     

    “ได้เวลาแล้วครับนาย”

     

    ลูกน้องในชุดแบบเดียวกันเดินเข้ามาเพื่อแจ้งข่าวจิ้นอันจึงสูดควันซิการ์เป็นครั้งสุดท้าย ละเลียดกลิ่นซิการ์ในปากแล้วพ่นควันสีขาวละมุนก่อนจะวางทั้งแก้วเหล้าและซิการ์ในมือลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นร่างกายที่ดูกำยำมากอยู่แล้วขณะที่นั่งเมื่อบวกกับความสูงใหญ่ยามที่ยืนขึ้นยิ่งทำให้ดูใหญ่ยักษ์น่าเกรงขาม

     

    “ร็อบเข้าไปได้แล้วสินะ”ร่างของชายวัยกลางคนออกเดินไปยังทิศทางที่ได้รับการนัดแนะไว้ก่อนหน้าโดยมีลูกน้องคนสนิทเดินตามมาเพื่อรายงานสถานการณ์

     

    “ครับ ค่อนข้างโกลาหลทีเดียวคงไม่มีใครคิดว่าจะมีการโจมตีเกิดขึ้น”

     

    “ก็แน่ละ ในเมื่อเรายังได้เวลาเตรียมตัวแค่วันเดียวพวกมันจะรู้ได้ยังไง พวกแกเองก็เหมือนกัน  ไอ้พวกเลี้ยงเสียข้าวสุกเอ๊ยยยไปหมกตัวอยู่ในป่าเป็นเดือนๆ แต่ไม่ได้อะไรติดมือกลับมาสักอย่างแถมคาซายังถูกพวกมันจับไปได้ ท่านหลี่ไม่จับพวกแกไปเลี้ยงจระเข้ก็ดีแค่ไหนแล้วเฮอะสุดท้ายฉันก็ต้องลงมือเอง”

     

    “ขอประทานโทษครับนาย”ลูกน้องคนสนิททำได้เพียงก้มหัวลงต่ำโดยไร้ข้อแก้ตัวเมื่อทั้งสองเดินเข้าไปในลิฟท์เรียบร้อยแต่เมื่อไร้การตอบรับหรือคาดโทษจากผู้เป็นนายลูกน้องคนสนิทจึงได้ยืดตัวขึ้นตรงเช่นเดิม

     

    ไม่มีใครพูดอะไรกันอีกจนกระทั่งลิฟท์ส่งเสียงสัญญาณเมื่อถึงชั้นที่ต้องการประตูลิฟท์เปิดออก เผยให้เห็นลานจอดยานพาหนะบนชั้นดาดฟ้าของตึกสูงลมกรรโชกมาอย่างรุนแรงแต่กู่จิ้นอันเดินออกมาจากลิฟท์อย่างไม่สะทกสะท้านตรงไปยังโดรนโดยสารสีดำสนิทสามลำที่จอดอยู่ในลานจอด ลูกน้องที่ยืนรออยู่รอบๆก้มหัวทำความเคารพกู่จิ้นอันให้สัญญาณให้เอาโดรนขึ้นแล้วจึงกระโดดขึ้นไปยังโดรนลำแรกสุดคนสนิทของเขาส่งหน้ากากให้แล้วจึงอ้อมไปขึ้นอีกฝั่งของลำเดียวกันคนที่เหลือจึงสวมหน้ากากแล้วขึ้นโดรนอีกสองลำที่รออยู่เพียงไม่นานนักโดรนทั้งสามลำก็เทคออฟและมุ่งตรงไปยังจุดหมายอย่างเงียบเชียบ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    เสียงนิ้วรัวแป้นพิมพ์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และสายไฟระโยงระยางเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นตามไรผมสีทองแดงใบหน้าที่มักจะมีแต่รอยยิ้มอยู่เสมอกลับตึงเครียด โน๊ตบุคที่ดูเก่าคร่ำครึตอนนี้มีสายเคเบิ้ลเสียบอยู่แทบทุกจุดหน้าจอมีแท็บแสดงสถานะการดาวน์โหลดหลายๆ แท็บบางแถบที่ถึงร้อยเปอร์เซ็นก็ปิดตัวเองไปโดยมีแถบใหม่เด้งขึ้นมาแทนที่  มือเรียวไล่ไปตามแป้นอย่างคล่องแคล่วสลับกับการเอื้อมไปจับอาวุธที่วางอยู่ข้างๆ และหันไปรอบๆ อย่างหวาดระแวงเมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ

     

    “เร็วเข้าสิเฟ้ย ลูกพ่อ!!” นิ้วชี้เคาะลงบนโต๊ะอย่างร้อนใจ เมื่อค่าตัวเลขต่างๆวิ่งไปได้ไม่เร็วเท่าที่ใจคิด สายตาคอยเหลือบมองหน้าจอมอนิเตอร์ใกล้ๆที่แสดงแผนที่และจุดสีแดงสามสี่จุดที่เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ห้องของเขาทุกขณะ

     

    “ฮยองงงง เร็วหน่อยซี่ ขอร้องละ พวกมันมาแล้วเนี่ย”  ยองแจผละออกจากหน้าจอและคว้าปืนเลเซอร์ขึ้นมาถือด้วยมือที่สั่นเทาแตกต่างจากตอนรัวแป้นพิมพ์อย่างเห็นได้ชัดเสียงติ้งดังขึ้นจากโน๊ตบุ๊ครัวๆแท็บดาวน์โหลดทั้งหมดรันเสร็จสิ้นแล้วปิดตัวเองลงเหลือเพียงหน้าจอที่มีสกรีนเป็นรูปสุนัขสีขาวตัวเล็กๆ

     

    “ต้องอย่างนี้สิลูกพ่ออออ”ชายหนุ่มส่งจูบให้หน้าจอแล้วพับโน๊ตบุ๊คปิดก่อนจะรีบจัดการถอดสายเคเบิ้ลทั้งหมดออกแล้วเอาโน๊ตบุคไปซ่อนไว้ใต้ชั้นเหล็กขนาดใหญ่ส่วนตัวเองกระชับปืนในมือแล้วอ้อมไปแอบในห้องชงกาแฟ รอเสียงสัญญาณจากเอียร์ปลั๊กซึ่งยังเงียบสนิทด้วยใจเต้นรัวเพียงไม่นานนักเขาก็ได้ยินเสียงปึงปังที่หน้าประตูแผนก ยองแจหลับตาภาวนามือที่กำอาวุธมีเหงื่อซึมจนเปียกชุ่มประตูของสถาบันถ้าล็อคดาวน์แล้วจะแข็งแรงมากก็จริงแต่ถ้ามันแจมระบบได้ก่อนที่เจบีจะมาถึงเขาก็จบเห่

     

     

    เจบีกับยูคยอมเก็บบอร์ดแรงดันเมื่อใกล้ถึงแผนกไอทีทั้งสองคนได้ยินเสียงอาวุธที่กำลังพยายามทำลายประตูจึงลอบเข้าไปใกล้อย่างเงียบเชียบ สองคนพยักหน้าให้กันยูคยอมล้วงเอาก้อนตาข่ายกลมแบนออกมาจากเข็มขัดอาวุธแล้วเดินอ้อมหัวมุมเข้าไปยังแผนกไอที

     

    “เฮ้ย!!” เสียงตะโกนทำให้ชายชุดทำทั้งสี่ที่กำลังพยายามทำลายประตูชะงักและหันมายูคยอมเขวี้ยง ก้อนสีดำออกไปจากทั้งสองมือตาข่ายสีดำแผ่ออกรัดตัวชายชุดดำสองคนล้มลงไปได้อีกสองคนที่เหลือจึงเล็งปืนมาที่หนุ่มน้อย แต่ไม่ทันที่จะได้ทำอะไรเลเซอร์จากปืนของเจบีที่คอยระวังหลังให้ก็จัดการสองคนที่เหลือล้มลงไปพร้อมกันยูคยอมดึงเข็มลูกดอกออกมาจากเข็มขัดและเป่าลูกดอกยาสลบเข้าที่คอของทั้งสี่คนฤทธิ์ยาสลบรุนแรงที่ใช้กับแองเจิ้ลส์ทำให้ทั้งสี่แน่นิ่งไปทันที  

     

    “ยองแจ ปลอดภัยแล้วเปิดประตูเถอะ”เจบีให้สัญญาณผ่านเอียร์ปลั๊ก ไม่นานนักประตูแผนกไอทีก็เลื่อนเปิดออก ยองแจเดินออกมาพร้อมกับปาดเหงื่อที่เปียกชุ่มตามไรผมสีทองแดง

     

    “โฮ่ยยย คิดว่าฮยองจะมาไม่ทันซะแล้ว”

     

    “ทุกอย่างข้างในเรียบร้อยดีรึเปล่า”

     

    “เรียบร้อยดีครับผมตัดการเชื่อมต่อระบบและข้อมูลทั้งหมดแล้ว แล้วก็ใส่รหัสแฝงกับไวรัสเอาไว้ด้วยขืนลองมาเปิดละก็บ้านบึ้มแน่ ฮ่าๆๆ”เสียงหัวเราะสะใจยังคงสดใสแม้อยู่ท่ามกลางความตึงเครียด

     

    “งั้นก็ดี ยูคยอม นายพายองแจไปสมทบกับพวกจินยองแล้วให้รออยู่ที่โดมใหญ่”

     

    “แล้วฮยองล่ะฮะ”

     

    “ฉันจะไปจัดการข้างหน้าให้หมด ขืนช้าซิเคียวจะแย่”สิ้นเสียงเด็ดขาดหัวหน้าแผนกลาดตระเวนก็เก็บปืนเลเซอร์ลงปลอกที่ข้างเอวแล้วล้วงเอาถุงมือสีดำสนิทที่มีลักษณะเหมือนมีเกราะหุ้มขึ้นมาสวมจากนั้นเจบีก็กำแบมือทั้งสองข้างเร็วๆ แล้วสะบัดข้อมือลง เสียงเปรี๊ยะดังลั่นออกมาจากถุงมือเกิดเป็นสายฟ้าสีขาวฟ้าหมุนวนอยู่รอบข้อมือทั้งสองข้างและแลบแปล๊บขึ้นลงที่ปลายนิ้วทั้งสิบที่กำลังเรืองแสงเป็นสีฟ้าสว่าง  เจบีกระแทกส้นเท้าเรียกบอร์ดแรงดันแล้วออกตัวไปยังทิศทางที่มีเสียงเอะอะเอ็ดตะโรอยู่ไม่ไกลนักทันที

     

    “ฮยองเอาจริงเลยแฮะนานแล้วนะที่ไม่เห็นใช้โซ่ไฟฟ้านั่น  ยองแจฮยองเรารีบไปกันเถอะ ถ้าพวกฮยองปลอดภัยแล้วผมจะได้กลับมาช่วยเจบีฮยองจัดการทางนี้ด้วย”ยูคยอมเรียกบอร์ดแรงดันของตัวเองออกมาแล้วย่อตัวลงเพื่อให้ยองแจขึ้นขี่หลังยองแจทำท่าจะกระโดดขึ้นหลังแต่กลับนึกอะไรขึ้นมาได้

     

    “เฮ้ย!! โคโค่ลูกพ่อ!!  ยูคยอมรอเดี๋ยวนะ!!” ยองแจผลุบหายกลับเข้าไปในห้องแต่เพียงชั่วอึดใจก็กลับออกมาพร้อมสะพายกระเป๋าโน๊ตบุ๊คออกมาด้วยแล้วจึงกระโดดขึ้นหลังยูคยอมชายหนุ่มจึงเร่งบอร์ดแรงดันกลับไปทางด้านที่จินยองรออยู่

    .

    .

    .

    .

    .

    แผนกวิจัยที่เคยสว่างจ้าตลอดเวลามืดลงไปถนัดใจเมื่อมีเพียงแสงไฟฉุกเฉินและแสงสัญญาณเตือนภัยสีแดงที่สาดวนไปมาเป็นระยะแจ็คสันและจินยองวิ่งตรงไปยังห้องกระจกของแบมแบมที่อยู่ด้านในสุดของแผนกวิจัยสวนกับนักวิจัยและหน่วยซิเคียวอีกหลายคนที่กำลังดูแลการอพยพหน่วยซิเคียวหลายคนหยุดพวกเขาระหว่างทางเพื่อให้ร่วมในขบวนอพยพแต่พวกเขาปฏิเสธเพียงอึดใจเดียวทั้งคู่ก็วิ่งมาถึงห้องที่ต้องการร่างสีขาวของแองเจิ้ลส์น้อยยังคงหลับอย่างสงบอยู่บนเตียงไม่ต่างจากตอนที่จินยองจัดท่าให้ครั้งล่าสุดอุปกรณ์ช่วยชีวิตยังคงทำงานด้วยไฟสำรองของตัวเอง  จินยองแตะบัตรสีเงินของเขาและกดรหัสฉุกเฉินเพื่อเปิดประตูที่ล็อคดาวน์เข้าไปข้างใน

     

    แจ็คสันถลันเข้าไปที่ข้างเตียงทันทีที่ประตูเปิดออกมือหนาคว้ามือเล็กบอบบางของแองเจิ้ลส์น้อยมากุมไว้แล้วจุมพิตแผ่วเบามืออีกข้างลูบไล้ใบหน้าที่ยังคงมีสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด แพขนตาหนาปิดสนิทไม่รับรู้สัมผัสใดๆแต่ความร้อนที่กลางอกของเขาลงลงเหลือเพียงความอุ่นวาบจินยองมองภาพตรงหน้าโดยไม่พูดอะไรหัวหน้าแผนกวิจัยรีบเดินไปที่เคาท์เตอร์แลปเพื่อหาสิ่งที่ต้องการไม่นานนักเขาก็หยิบไซริงค์และเข็มฉีดยาขึ้นมาและเจาะลงไปในขวดเซรุ่มสีทองมือเรียวยกเข็มฉีดยาขึ้นส่องปริมาตรและดีดเข็มเพื่อไล่อากาศแล้วจึงเดินกลับไปที่เตียง

     

    ทันใดนั้นเองกำแพงห้องฝั่งที่ติดกันสวนด้านนอกก็เกิดเสียงดังเปรี๊ยะและสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงแจ็คสันกับจินยองมองหน้ากันหัวหน้าแผนกวิจัยรีบก้าวเข้าไปที่เตียงเพื่อฉีดยาให้เด็กน้อย ส่วนแจ็คสันคว้าอาวุธที่ข้างเอวขึ้นกระชับเตรียมรับการปะทะที่กำลังจะมาถึงเพียงไม่นานผนังที่สั่นสะเทือนก็ร่วงกราวกลายเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ชายชุดดำกรูกันเข้ามาแต่โดนเลเซอร์ของแจ็คสันสกัดเอาไว้

     

    “ฮยอง รีบพาแบมออกไปจากที่นี่เร็ว!!!!”  แจ็คสันตะโกนให้จินยองพาแองเจิ้ลส์น้อยหนีเพราะสิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้เป็นความจริง เป้าหมายที่แท้จริงของพวกมันคือแบมแบมการโจมตีข้างหน้าเป็นแค่การล่อเสือออกจากถ้ำ จินยองรีบฉีดยาด้วยความมั่นคงถึงสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้เขาจะพลาดไม่ได้เด็ดขาดเพราะมันหมายถึงชีวิตแองเจิ้ลส์น้อยด้วยเช่นกัน

     

    พวกชายชุดดำที่ล้มลงไปเพราะเลเซอร์กลับลุกขึ้นมาได้อีกครั้งชายสองคนหลบหลีกเลเซอร์และเข้าประชิดตัวแจ็คสันได้ชายหนุ่มกระแทกศอกใส่ชายคนแรกและปล่อยหมัดสวนเข้าที่ลำตัวของอีกคนแต่เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าชุดที่ชายพวกนี้สวมอยู่ช่วยลดแรงกระแทกได้เขารีบเหลือบมองจินยองด้วยหางตาและเห็นว่าหัวหน้าเขาฉีดยาให้แบมแบมเสร็จแล้วและกำลังอุ้มร่างสีขาวนั้นออกไปเขาจึงใช้กำลังทั้งหมดสกัดชายชุดดำสามสี่คนที่กำลังกรูกันเข้ามา

     

    จินยองจิ้มริสแบนด์และส่งสัญญาณฉุกเฉินเข้าเอียร์ปลั๊กระหว่างที่พยายามอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาฝ่ายแจ็คสันก็กำลังต่อสู้กับชายชุดดำสามคนอย่างอุดตลุดเพื่อเปิดทางให้จินยองพาแองเจิ้ลส์น้อยหนีไป

     

    “ยูคยอมมาที่นี่เร็วเข้า!! พวกมันเจาะกำแพงเข้ามาทางห้องแบมแบมแจ็คสันกำลังต้านเอาไว้”ทันใดนั้นเองชายชุดดำหนึ่งคนก็หลุดจากการตะลุมบอนกับแจ็คสันมาได้และคว้าตัวแบมแบมไปจากหัวหน้าแผนกวิจัย

     

    “แบมแบมแจ็คสัน!!!!” จินยองตะโกนเรียกชายหนุ่มแล้วหันไปคว้าเชือกไฟฟ้าที่ตกอยู่ใกล้ๆแต่กลับไม่กล้าฟาดใส่ชายชุดดำเพราะเกรงว่าจะโดนแองเจิ้ลส์น้อยแจ็คสันมองเห็นเหตุการณ์อยู่ตลอดแต่ยังไม่สามารถหลุดจากการต่อสู้ที่เต็มไม้เต็มมือของตนเองได้จินยองจึงตัดสินใจเข้าประชิดเพื่อชิงร่างสีขาวอ่อนปวกเปียกที่พาดอยู่บนบ่าของชายชุดดำแต่กลับถูกชายชุดดำเตะจนกระเด็นร่างในชุดกาวน์ของหัวหน้าแผนกวิจัยกระเด็นไปกระแทกเข้ากับขอบเตียงสิ้นสติไปในทันที

     

    “ฮยอง!!!!” ชายหนุ่มร้องเสียงหลงเมื่อเห็นร่างของหัวหน้าแผนกวิจัยกลิ้งลงไปกับพื้นเขารับการโจมตีจากชายชุดดำคนที่อยู่ใกล้แล้วใช้ไหล่กระแทกสุดแรงจนชายชุดดำคนนั้นกระเด็นไปชนอีกสองคนที่กำลังพุ่งเข้ามาแล้วจึงวิ่งไปดักหน้าคนที่ได้ตัวแองเจิ้ลส์น้อยไปเขาพยายามก้าวเข้าไปใกล้เพื่อคว้าตัวแบมแบมแต่ก็สัมผัสได้เพียงปลายนิ้วมีใครบางคนคว้าหลังคอเสื้อของเขาและยกตัวเขาจนลอยขึ้นและเหวี่ยงชายหนุ่มลอยหวือออกไป

     

    แจ็คสันกระเด็นไปกระแทกกำแพงจนจุกไปหมดร่างของเขาทรุดลงกับพื้นแต่ก็ยังพยายามเงยหน้าขึ้นมองคนที่เหวี่ยงเขาลอยออกมาเป็นชายชุดดำอีกคนที่มาใหม่แต่กลับมีร่างกายใหญ่โตล่ำสันผิดกับคนอื่นทั่วไปชายคนนั้นรับตัวแบมแบมขึ้นพาดบ่า แล้วเดินย้อนกลับออกไปทางรู่โหว่เดิมบนกำแพง

     

    “หนอยยย!! แบม!! ฉันไม่ยอมให้พวกแกเอาแบมแบมไปได้เด็ดขาด” แจ็คสันกัดฟันกรอดและฝืนลุกขึ้นมาจนได้แต่ชายชุดดำที่เหลือกำลังรุมล้อมเข้ามาหาเขาทันใดนั้นเองร่างสีดำของยูคยอมก็วิ่งเข้ามาในห้องเมื่อหน้าม้าหนาเตอะมองเห็นจินยองที่หมดสติอยู่กับพื้นก็พุ่งตัวเข้ามาตะลุมบอนกับพวกที่ยืนอยู่ในทันที  ชายชุดดำที่กำลังจะรุมแจ็คสันจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ยูคยอมแทนชายหนุ่มได้โอกาสจึงรีบวิ่งตามคนที่เอาตัวแบมแบมไปออกไปข้างนอก

     

    “แก!! เอาแบมคืนมาเดี๋ยวนี้!!! อย่าหนีนะ!!” แจ็คสันวิ่งตามร่างสีขาวที่พาดอยู่บนไหล่ของชายชุดดำตัวใหญ่ยักษ์เขามองเห็นโดรนโดยสารจอดอยู่อีกไม่ไกลนัก แจ็คสันเร่งฝีเท้าเพื่อรีบตามให้ทันชายร่างยักษ์หันมาเล็กน้อยราวกับจะเหลือบมาที่เขาแล้วหันกลับไปส่งสัญญาณให้คนที่รออยู่บนโดรนโดยสารหน้ากากกันแก๊สพิษสองอันถูกโยนลงแทบเท้าชายร่างยักษ์ เขาก้มลงหยิบมันขึ้นมาสวมให้ตัวเองและแองเจิ้ลส์น้อย

     

    แจ็คสันกำลังใกล้เข้าไปทุกทีแต่ทันใดนั้นเองชายร่างยักษ์นั่นก็ใช้ปืนพ่นควันสีเขียวคล้ำกั้นเอาไว้เป็นกำแพงควันหนา  แต่ชายหนุ่มยังคงมุ่งหน้าเข้าไปแม้จะสัมผัสได้ถึงความปวดแสบปวดร้อนจากควันที่กำลังลามเลียอยู่บนผิว

     “แค่กๆๆๆๆ”  ไอควันที่เขาสูดเข้าไปราวกับแผดเผาอยู่ในโพรงจมูกและลำคอแต่แจ็คสันยังไม่ยอมหยุด ในเมื่อชายร่างยักษ์ไปถึงโดรนโดยสารที่รออยู่แล้ว

     

    “เฮีย!! อย่าเข้าไป!!! ควันนั่นมีพิษ!!” ยูคยอมคว้าตัวแจ็คสันแล้วลากออกมาให้ห่างจากควัน

     

    “ไม่!!!! ยูคยอม!!! ปล่อยฉันนะ!!!!! ปล่อยเซ่!!!!  ปล่อยยยย!!! แบม!!!!!!!!!!!!” ชายหนุ่มดิ้นรนกระเสือกกระสนเพื่อให้พ้นจากแรงเหนี่ยวรั้งของเด็กยักษ์แต่สายเกินไปแล้ว โดรนโดยสารกำลังเทคออฟขึ้นไป โดยมีร่างสีขาวของแบมแบมอยู่บนนั้นแรงลมจากใบพัดของโดนทำให้ควันลอยเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้นอีก ยูคยอมดึงแจ็คสันให้ถอยมาจนสุดแรง

     

    “ไม่นะ!!  ปล่อยฉัน!!!!!!!! แบมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!  

     

    “ขอโทษนะเฮีย” ยูคยอมพึมพำแล้วสับมือลงที่หลังคอของชายหนุ่มร่างที่กำลังดิ้นสุดแรงของแจ็คสันร่วงผลอยลงกับพื้นทั้งที่น้ำตายังไหลอาบแก้มเด็กยักษ์ไม่รอช้าเล็งปืนขึ้นไปที่โดรนโดยสารเสียงฟุ่บพุ่งจากปลายกระบอกและหายไปอย่างเงียบเชียบพร้อมกับโดรนโดยสารสีดำที่ค่อยๆกลืนหายไปกับท้องฟ้ายามราตรีโดยมีสายตาของยูคยอมมองตามจุดสีแดงกระพริบไปจนลับสายตา

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in