เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryZupiset Sasiwimon
บันทึกครึ่งเล่ม จากหยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา
  • ช่วงนี้ผมมีความรู้สึกอยากเขียนหนังสือมากเป็นพิเศษ หลังจากที่ได้อ่าน 'หยดน้ำหวานในหยาดตา' ของอุรุดา โควินท์ แม้จะยังอ่านไม่จบ แต่หลายๆ ฉาก หลายๆ ตอนในหนังสือ ก็มีพลังส่งมาถึงคนที่เป็นนัก (อยาก) เขียน ให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองได้มากมายแล้ว

    หนังสือเล่าถึงบรรยากาศการทำงานของทั้งสองนักเขียน ที่ให้ความสำคัญกับการเล่าเรื่อง การสร้างสรรค์ตัวละคร การตามหาน้ำเสียงของตัวเอง และอีกหลายๆ ประเด็นที่เกี่ยวกับการอ่านและการเขียนที่สอดแทรกอยู่ตลอด ก็ทำให้เกิดแรงบันดาลใจจนอยากลุกขึ้นมาเขียนอะไรสักอย่างแล้ว แม้จะไม่ถึงขั้นเป็นร่างแรกของเรื่องสั้นหนึ่งเรื่อง แต่สำหรับคนที่เริ่มหมดไฟในการเขียนไปแล้วอย่างผม การได้เขียนบันทึกหรือความเรียงสักชิ้นก็ถือว่าเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายแล้วจริงๆ

    คู่รักนักเขียนแห่งพรหมคีรี คับเขี่ยวกับตัวเอง สร้างสรรค์ชิ้นงานออกมาอย่างเต็มศักยภาพ มันเป็นการฉายภาพชีวิตของนักเขียนออกมาได้อย่างแจ่มแจ้งแทงทะลุมากทีเดียว กว่าจะเป็นเรื่องสั้นหนึ่งเรื่องที่เราอ่าน นักเขียนจะต้องคิด หาวิธีนำเสนอ เฟ้นหาถ้อยคำและประโยค ขัดเกลา แก้แล้วแก้อีก บางเรื่องใช้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องเสียดาย ไม่ดีก็คือไม่ดี ต้องกล้าทิ้ง

    หลายๆ คนมักเขียนถึงหนังสือเมื่อตัวเองอ่านจบแล้ว ดึงตัวเองออกมาจากเรื่องแต่ง พิจารณา วิเคราะห์แง่มุม แง่งามต่างๆ จากหนังสือแล้วเขียนออกมาเป็นตัวอักษร เพื่อตรวจสอบความคิดของตัวเอง ผมเองก็อยากจะเขียนหลังจากอ่านจบเหมือนกัน แต่ระหว่างอ่าน มันก็อดไม่ได้ที่จะเขียนบันทึกชิ้นนี้ออกมา

    หน้ากระดาษในหนังสือยังเหลืออีกเกือบครึ่ง ผมยังต้องเดินทางไปกับหนังสือเล่มนี้อีกยาวไกล และไม่รู้ด้วยว่าตัวหนังสือของพี่อุรุดาจะพาผมไปเจอกับอะไรอีกบ้าง แต่อ่านไปแค่ครึ่งเล่มก็อยากเขียนถึงมากขนาดนี้แล้ว อ่านจบคงได้ทบทวนตัวเองแล้วเขียนออกมาอีกรอบอย่างแน่นอน

    "จงทำงาน" เหมือนได้ยินนักเขียนทั้งสองคนพูดกับผมผ่านตัวอักษรของหนึ่งในนั้น ใช่, ทำงาน

    เขียนต่อไป

    ครับ, ผมจะเขียน
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in