เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
LIFE IS BEAUTIFULchocolimechoux
Life is Beautiful



  • TITLE: LIFE IS BEAUTIFUL (1/2)


    PAIRING: VICTOR X YURI #VICTUURI


    GENRE: ROMANCE


    RATE: PG-15







    Through the window


    I see you waiting


    You are smiling

    Cause I'm coming


    Your eyes are a story


    An ocean of memories


    Pictures of faces and places







    เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, 11 ธันวาคม, เวลา 12:00 A.M.


     

    ร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรของวิคเตอร์ในเสื้อสเวตเตอร์ไหมพรมเข้ารูปตัวหนาสีเอครู (น้ำตาลอ่อน) คลุมทับด้วยเทรนจ์โคทสีเขียวอ่อนและกางเกงผ้าวูลแคชเมียร์สีเข้มจากแบรนด์ดังอย่างอเล็กซานเดอร์ แมคควีนกำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่บนเดย์เบ๊ดตัวยาวสีแอมเบอร์นอกระเบียงเพนท์เฮาส์สุดหรูอย่างครุ่นคิดถึงฤดูกาลแข่งขันปีหน้าว่าตนพร้อมแล้วจริงหรือราวกับว่าสิ่งรอบข้างค่อยๆเร่งเร้าเขาอยู่กรายๆเพื่อตัดสินใจตอบคำถามสื่อสำนักต่างๆที่พากันกรูติดต่อเข้ามาทางยาคอฟหรือโค้ชของเขา หากก็ยังไม่ได้รับสาสน์ที่ชัดเจนเสียทีเดียวเพราะเจ้าตัวต้องการให้ชายมีอายุที่ตนเคารพออกหน้ารับแทนไปก่อนที่ความสับสนภายในใจจะสงบลงแล้วจึงจะจัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง


     

    ท่ามกลางอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งแว่วเสียงเพลงระยะไกลจากร้านรวงบนถนนด้านล่างเกล็ดหิมะขาวโพลนโปรยปรายจากผืนผ้ากำมะหยี่สีเข้มราวห่าฝนกระนั้นแรงลมที่โหมพัดราวพายุกลับเงียบงันกว่านั่งสงบใจในโบสถ์นิกายออร์ทอดอกซ์ที่ใดเสียอีกสร้อยกางเขนเงินในลำคอระหงค่อนข้างชัดเจนทีเดียวว่าวิคเตอร์ยังเปี่ยมศรัทธาในพระเจ้าอยู่ตรงกันข้าม หากถามว่าพระเจ้ารักเขาหรือไม่คงต้องเสียเวลาทบทวนแต่ต้นว่าเขาสมควรได้รับรักอันแสนประเสริฐจริงหรือ



     

    น่าเสียดายคุณค่าความงามของปรากฏการณ์ธรรมชาติไม่สามารถดึงดูดถึงขั้นทำให้ผู้ชายวัย 27 ปีบริบูรณ์เช่นเขาซาบซึ้งได้ ตรงกันข้าม วิคเตอร์แทบไม่ได้ใส่ใจความหนาวเหน็บที่กัดกินผิวเนื้อบริเวณหลังมือจนแดงเถือกแม้แต่น้อย เปลือกตาสีไข่มุกยังคงปิดสนิทราวร่างไร้ลมหายใจอยู่เช่นนั้นประมาณห้านาที โสตประสาทอันอื้ออึงทำงานอย่างหนักเพื่อสัมผัสถึงคลื่นเสียงที่จะตอบสนองความเปล่าเปลี่ยวซึ่งเขาเฝ้าหลีกเลี่ยงและทำลายตลอดระยะกว่ายี่สิบปีหัวใจแห้งเหี่ยวของเขาต้องการเชิญชวนให้ใครสักคนเข้ามารับฟังเรื่องราวนามธรรมที่เจ้าตัวขาดทักษะการสร้างสมดุล



     

    นัยน์ตาหนาหนักค่อยๆเผยอขึ้นอย่างแช่มช้าวิคเตอร์หยัดกายขึ้นเต็มความสูงพลิกฝ่ามือกลับไปกลับมาเพื่อตรวจสอบร่องรอยว่ายังมีตำแหน่งใดบ้างที่ไม่โดนหิมะกัดครั้นไม่พบสีของผิวเนื้อปกติจึงฉวยเอาถุงมือในกระเป๋ากางเกงมาใส่ป้องกันสภาพอากาศเลวร้ายขายาวก้าวอ้อยอิ่งไปยังราวเหล็กริมระเบียงพลางทอดสายตาไปยังแม่น้ำเนวาเบื้องล่างซึ่งกลายเป็นลานน้ำแข็งใหญ่จนไม่สามารถเดินเรือได้อย่างไรก็ตาม ทิวทัศน์น่าสะพรึงนั้นผลักดันให้วิคเตอร์ตระหนักต่อสิ่งที่หล่อหลอมเขาจนกลายเป็นวิคเตอร์ของประชาชนราวเป็นเรื่องตลกร้าย วูบหนึ่งชายหนุ่มภาวนาให้ผิวน้ำแข็งถูกตัดขาดด้วยเรือเจาะน้ำแข็งแล้วจงสูบร่างของเขาลงใต้ลำธารฉงนใจนักว่าความเย็นยะเยือกของแม่น้ำจะโอบอุ้มและทิ่มแทงเรือนกายเนียนละเอียดนี้ขนาดไหนต่อจากนั้น ลำแขนยาวจะป่ายปัดเพื่อยึดสิ่งใดได้บ้างยามตะเกียกตะกายขึ้นจากความดำมืดของสายธารมหึมาหรือจะไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิง ถึงกระนั้นก็ยังสัมผัสได้ถึงการบรรเทาและการปลดเปลื้อง



     

    เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันวิคเตอร์รู้สึกเหนื่อยหน่ายเหลือทน เมื่อคิดย้อนถึงชัยชนะห้าครั้งติดต่อกันของการแข่งขัน Grand Prix Final ช่วงเวลาแสนน่ายินดีเหล่านั้นช่างน่าเบื่ออีกไม่นาน เขาต้องหมดความอดทนกับความสับสนและความเจ็บปวดที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้จิตใจอันบิดเบี้ยวเป็นแน่ 



     

    “สิ่งที่ฉันไม่อยากสูญเสียฉันก็มักจะเสียมันไปตลอด”

    “สิ่งที่มีค่าให้ฉันต้องการทุกๆสิ่งในวินาทีที่ฉันคว้ามาได้ก็มีอันจะต้องสูญสลายอยู่เสมอ”

    “สิ่งที่มีค่าพอให้ต่อเวลาชีวิตที่ทุกข์ทรมานเพื่อไขว่คว้ามาไว้ในครอบครอง...ไม่มีหรอก”




     

    วิคเตอร์ใคร่ครวญถึงความหมายของหลุมดำกลมกลวงที่เจาะอยู่บนก้อนเนื้อในอกด้านซ้าย ดิ่งลงสู่คลื่นน้ำแข็งที่อดีตกลับมามีชีวิตอีกครั้งต่อสู้กับความกลัวเพื่อความเจ็บปวดอันแสนเห็นแก่ตัวและมันก็คุ้มค่าทุกครั้งที่ทำให้ใครต่อใครชื่นชมได้ เพราะรู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไรจึงเลือกความประหลาดใจเป็นกลยุทธ์พุ่งชนผู้ชมรอบด้าน ทว่ามองในแง่คุณค่าแล้วกลับไม่เห็นแม้แต่ประโยชน์ที่จะทำสิ่งนั้นซ้ำในรอบต่อไปเป็นไปได้หรือไม่ว่าตัวเองยังคว้าสิ่งที่มีค่านั้นมาไม่ได้สิ่งที่มีค่าถึงขั้นให้เขาลงแข่งในฤดูกาลหน้าได้อย่างไมตะขิดจะขวงใจ




     

    ชีวิต และ ความรัก










    สถานีฟินลีย์อานด์สกี้ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, เส้นทาง มอสโคว, 24 ธันวาคม, เวลา 23:35 P.M.



    คัตสึกิ ยูริ – นักศึกษาปริญญาตรีปีสุดท้ายชาวญี่ปุ่นแห่งมหาวิทยาลัยเซต์ปีเตอร์สเบิร์ก สาขาประวัติศาสตร์ศิลปะสมัยใหม่– ตัดสินใจเดินทางไปยังกรุงมอสโควเพื่อหาแรงบันดาลใจสร้างสรรค์ธีซิสอันน่าตื่นตะลึงต่อหน้าคณาจารย์ก่อนจบการศึกษา 



    อันที่จริง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นเมืองที่ได้รับฉายานามว่าเป็น "เมืองแห่งเวนิสเหนือ" เพราะรอบล้อมไปด้วยมหาสมุทรและคลองเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันนครใหญ่แห่งนี้เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมที่สำคัญ อีกทั้งเป็นเมืองแห่งวิทยาศาสตร์และการอุตสาหกรรมต่างๆที่สำคัญของรัสเซีย มีพิพิธภัณฑ์และห้องจัดนิทรรศการศิลปะมากมาย เป็นศูนย์รวมของนักศิลปะ นักประพันธ์ นักเขียน ทั้งในและต่างประเทศพาหลั่งไหลกันมาที่นี่ เพื่อให้นครเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรผลงานของเขา ไม่ต่างจากยูริที่เลือกมาเรียนที่นี่เพื่อต่อยอดความฝันการทำงานในพิพิธภัณฑ์ไรจ์คส์ 



    ถึงแม้สิ่งที่เขากำลังไขว่คว้าจะดูเลื่อนลอยสำหรับคนธรรมดาที่ปราศจากพรสวรรค์ หากข้อดีของยูริคือเขาสามารถจับพรแสวงอันโดดเด่นของตนได้อยู่หมัด นั่นคือความอดทนพัฒนาฝีมือ และเรียนรู้จากโปรเฟสเซอร์หรือเมนทอร์รุ่นพี่ จนก้าวกระโดดได้เกินหน้าเกินตานักศึกษาคนอื่น หลายต่อหลายครั้งที่งานศิลปะของเขาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากอาร์ทติสระดับแนวหน้าของโลก บางครั้งถึงกับมีสื่อสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับงานศิลป์มาขอสัมภาษณ์เขาเลยทีเดียว กระนั้น เจ้าตัวก็ยังไม่มั่นใจอยู่บ้างเมืิ่อถูกทาบทามให้ร่วมงานกับอาร์ทแกลอรี่หรือพิพิธภัณฑ์มีชื่อตามเมืองต่างๆเบื้องต้นก่อนจะเป็นใบเบิกทางไปสู่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งอัมสเตอร์ดัม 



    อันที่จริง เป้าหมายระยะสั้นของยูริอาจสรุปได้ดังนี้ หลังจากรับปริญญาบัตรแล้ว เขาจะต้องกลับไปช่วยงานที่คณะเป็นระยะเวลาหนึ่งปีเพื่อชดใช้ทุน จากนั้นจึงจะสามารถรับงานอิสระได้  และด้วยต้องการเคลียร์หัวให้โล่งเพราะความผิดหวังจากการพลาดไปเชียร์ "วิกเตอร์ นิกิฟอรอฟ" ติดขอบสนาม เนื่องจากการสอบมิดเทอมไล่งวดเข้ามาจนต้องขายบัตรทิ้งให้รูมเมทไปดูแทน อย่างน้อย คริสต์มาสปีนี้เขาก็ขอแก้แค้นด้วยการไปเที่ยวต่างเมืองให้หนำใจก่อนกลับมาตั้งมั่นละเลงธีซิสจบการศึกษาภายใต้หัวข้อ "Inspiration!!! On Ice" – ภายในวงเล็บ แรงบันดาลใจจาก "ไอด้อลที่รัก" – พร้อมคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาประดับบารมีเหมือนวิคเตอร์ครอบครองเหรียญทองให้จงได้





    ________________________________________________





    ชายหนุ่มวัยยี่สิบสามวิ่งกระหืดกระหอบมายังชานชาลาในสิบนาทีสุดท้าย ไม่น่าเชื่อว่าตนจะเผลอหลับเพลินจนเกือบตกรถไฟรอบดึกที่เขาอุตส่าห์จองให้ทันไปถึงช่วงเช้าในเวลาไม่เกินเก้าโมง เพื่อจะได้รีบดำเนินการตามแพลนเที่ยวที่สู้อุตส่าห์อดตาหลับขับตานอนเขียนมันขึ้นมาไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางจนทุกอย่างผิดพลาดไปเสียหมด 



    ยูริกำตั๋วรถไฟบริษัท The Red Arrow ราคากว่าสองร้อยเหรียญไว้แน่น บนแผ่นหลังมีกระเป๋าเป้สะพายใบไม่ใหญ่นักสำหรับบรรจุของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นระหว่างเดินทางระยะสั้น ด้านหน้าลำตัวมีกล้อง Canon EOS 760D คล้องคออยู่ เพราะเจ้าตัวรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนถ่ายรูปเก่งนัก ดังนั้น จึงเลือกกล้อง DSLR สำหรับ Entry-Level ตัวกล้องจึงมีโหมดออโต้มาให้ใช้งาน ซึ่งต้องบอกว่าคนที่หัดเล่นกล้องหรือมือใหม่อย่างยูริสามารถใช้งานได้ง่ายโดยไม่ต้องงมวิธีการใช้งานให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ 



    เท้าเรียวลากไปตามทางเดินตามพนักงานต้อนรับสาวที่ออกมาให้ความช่วยเหลือนำตนไปยังหมายเลขที่นั่งที่ตนจองไว้ โดยการไปมอสโควครั้งนี้ใช้เวลากว่าแปดชั่วโมง ยูริจึงตัดใจเลือกซื้อตั๋วชั้นโดยสารดีลักซ์ คลาส ของรถไฟกลางคืนแบบหรู ซึ่งราคาที่จ่ายไปนั้นรวมบริการที่นอนสะดวกสบาย อาหารและเครื่องดื่มไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม การจองเคบินส่วนตัวเช่นนี้เหมาะกับการเดินทางข้ามคืนของคนที่มีเพื่อนร่วมจุดหมายเดียวกันมากกว่า หากทว่ายูริเคยชินกับการอยู่คนเดียว สู้คนเดียว มาตั้งแต่เยาว์วัย ฉะนั้น การทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันโดยไร้กำลังใจจากคนข้างกายจึงไม่เคยเป็นอุปสรรคสำหรับเขาเลยแม้แต่น้อย



    ครั้นถึงบานประตูหนาหนัก พนักงานสาวเคาะห้องสองครั้งเป็นเชิงขออนุญาต ราวแจ้งลูกค้าอีกคนในห้องว่ามีผู้โดยสารที่จองโซฟานอนตรงข้ามเขาไว้เช่นกัน ชายหนุ่มหลังบานประตูลดหนังสือที่อ่านอยู่ในมือเรียวสวยลง ดวงตาสีอะความารีนงดงามจับจ้องมายังเพื่อนร่วมเดินทางอีกคนที่สืบเท้าเข้ามายังโซฟากำมะหยี่ตัวยาวด้วยเรียวขาอันสั่นเทา ไม่นานหลังจากที่เจ้าหน้าที่งับบานประตูลง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มผมสีบรอนซ์เงินวัยใกล้เลชสามจะกลับเข้าสู่ห้วงแห่งนวนิยาย "All I need is Love" ประพันธ์โดย คลอส คินสกี้ เขาได้ยินเสียงขานชื่อเคล้าความประหม่าจากชายสัญชาติเอเชียตรงหน้าอย่างแจ่มชัด





    And all of the things


    That make us feel like we have it all


    All of the times


    That make us realize


    We have it all


    We have it all





    "ว...วิกเตอร์..." 



    แชมป์โลกฟิกเกอร์สเก็ตห้าปีซ้อนแย้มยิ้ม เผยอกลีบปากบางเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อนเอ่ยประโยคเชิญชวนในฐานะนักกีฬาคนดังที่ทำเอาแฟนคลับอย่างยูริแทบล้มทั้งยืน 



    "อ๋า...เซลฟี่คู่เป็นที่ระลึกกันหน่อยไหม" นิ้วเรียวชี้มาที่กล้องดิจิตอลในคอของยูริ ดวงตาอ่อนโยนหวานล้ำกำลังฆ่าคนตัวเล็กทั้งเป็น ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าจะได้เจอไอด้อลตัวเป็นๆ ที่ตัวเองชื่นชอบมานาน กระทั่งตอนนี้เขาก็ยังคิดว่าตนเป็นเจ้าชายนิทราที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน




    Life is beautiful

    Life is beautiful







    TALK: อ่านครึ่งแรกกันไปก่อนนะคะ เด๋วไว้มาต่ออีก 50% ที่เหลือ อาจจะอีกสักระยะ ขอเกลาเนื้อเรื่องช่วงหลังให้ดีก่อน
    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ Enjoy Reading! คอมเมนท์ติชมกันได้เน้อ หรือจะอ่านเฉยๆก็ไม่ว่ากันค่ะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in