เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ฉันชอบไปคนเดียวA 24-HOUR TALE
ลุยเดี่ยวไคโร 3 วัน พี๊คทุกวัน (วันที่ 1)
  • หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่า อีภัคค์ทินันเกือบถูก ตม. ที่ไคโร ส่งกลับดูไบทันทีเป็นตอนไปถึงสนามบินที่อียิปต์ ..จริง ๆ ไอทริปสั้น ๆ 3 วัน 3 คืนเนี่ย มันพี๊คอยู่หลายอย่างเหมือนกันนะ 

    *****ภาษาที่ใช้ในการเขียนเรื่องนี้ไม่ได้สุภาพมากขนาดนั้น ทั้งหมดเพื่ออรรถรสในการอ่านจ้า*****

    เคยเล่าไปแล้ว 1 เรื่องพี๊คในทริปนี้ อันนี้เป็นเรื่องใหม่ 

    อียิปต์ไปอีกได้นะ แต่ต้องเตรียมตัวมากกว่ารอบนี้ จะได้ลดความหงุดหงิดได้บ้าง 

    พี๊คแรก ก่อนออกจากดูไบ พาสปอร์ตหายในสนามบิน นั่นแหละ วิ่งรอบเลยกว่าจะเจอ 

    พี๊คสอง ตั๋วสแตนบายด์ฟาดด้วย ID50 ค่ะ ไม่งั้นไม่ได้ไป ไฟลท์ไคโรนี้ไม่เคยโล่ง 

    พี๊คสาม พอไปถึงไคโรกว่าจะออกจากสนามบินได้ใช้เวลา 3-4 ชม. มีปัญหาเรื่องวีซ่าที่ไม่นิดหน่อย ใหญ่โตอ่ะ ถ้าจัดการไม่ได้โดนไล่ออกแน่นอน คือเราไม่ได้แพลน 55555555 เราคิดแปปเดียวเองว่าเราจะไปแล้วเราก็ไปเลย อย่าลอกเลียนแบบนะจ้ะอันนี้ ถือว่าพลาด 1 กรุบ กรุบใหญ่ ๆ เลย 

    แพลนที่คิดไว้ตอนอยู่บนเครื่องก็คือ ไปถึงโอสเทลแล้วเราจะไปนอนพักก่อนแล้วค่อยออกมาชมพิระมิดตรงข้ามโฮสเทล เพราะ ก่อนจะบินไปทำไฟลท์มายังไม่ได้นอนเลย สรุปเสียเวลาไปเยอะ ตาโบ๋ไม่ได้นอน 

    พอได้ออกมาจากสนามบิน คนจากโรงแรมมารอรับ เค้าก็งงว่าทำไมนานขนาดนี้ สนามบินไคโรมี wifi แต่ต้องละทะเบียนด้วยเบอร์โลคอล มึงจะมีให้ทำไม !?  จะว่าไปที่นี่อย่าเรียกแท๊กซี่สุ่มสี่สุ่มห้านะ อาจจะไม่ได้โดนลักพาตัวแต่โดนโกงแทน 

    ขับออกมาจากสนามบิน …. เห้ย มันเวิ้ง มันหวิวๆ เพราะมันเวิ้ง ป้ายสนามบินอย่างที่เห็น แล้วก็ขับขึ้นไปเหมือนโทลเวย์บ้านเรา แต่มันเหมือนเพิ่งผ่านสงครามมาหมาด ๆ ถนนไม่สะอาดว่างั้นเหอะ สะพานยาว ๆ มีรถติดบ้างตามทางลง แต่อย่าเรียกว่ารถติดธรรมดา เรียกว่ารถแย่งกันลง กดแตร ตะโกนออกมานอกรถ เอ้อออ มาให้หมด คิดในใจดีนะ ไม่เช่ารถขับเอง ไม่น่าเหลืออะไรกลับบ้าน สภาพบ้านเมืองก็ไม่ปรักหักพังแบบคาซาบลังก้า แต่ทุกตึกคุมโทนนะ ไกด์บอกว่ารัฐบาลคุมสิ่งก่อสร้างและเรื่องสีตึก เกาหลีหวะเห้ย แต่พอเราลองมองชัด ๆ แต่ละตึก มันเหมือนอิฐต่อกันไม่ได้ฉาบปูน แล้วเหมือนสร้างไม่เสร็จ แต่นั่นอาจจะเป็นดีไซน์ บนตึกจะมีเสาเหมือนเสาอากาศแง่งเยอะๆ เลยถามไกด์ว่าเอาไว้ทำอะไร เค้าบอกเอาไว้ให้นกเกาะ ถ้าจำไม่ผิด เหมือนเค้าได้รายได้จากเสานี่แหละ ที่แน่ ๆ ไม่น่าจะใช่รังนก 

    แห้งแล้งอะไรได้ขนาดนี้

    ผ่านไปเกือบ 45 นาที อีนี่พยายามถ่างตา ไม่อยากไว้ใจไกด์และอยากเห็นบ้านเมืองเค้า ในที่สุดเราก็เห็น Giza น้ำตาจะไหลโว้ยยยยย ความรู้สึกเหมือนตอนเห็นหอไอเฟลครั้งแรก ขนลุก ตื้นตัน สาแก่ใจสาวก Nat geo แฟนคลับสารคดีมัมมี่อย่างดิฉันมาก เราเลบขอให้ไกด์จอดเพื่อถ่ายสตอรี่ ไกด์บอกว่าได้แปปเดียวนะ ไม่ควรจอดเลย กลัวโจรปล้น นั่นขนาดใกล้สถานที่สำคัญนะ พอถ่ายเสร็จภายใน 30 วินาที ฝุ่นเยอะม๊ากๆๆๆๆ แบบตลบ เราก็ขับไปต่ออีกนิด มีด่านกั้น คนที่กั้นไม่ใช่ตำรวจนะจ้ะ มาเฟียค่ะ ไกด์ต้องอธิบายว่าเราเป็น นทท. เอองงดีเนอะ ขับต่อไปหน่อย เลี้ยวซ้ายเหมือนเข้าไปในโซนอะไรสักอย่างไกด์บอกตรงนี้ปลอดภัยแล้ว ถ้าจะออกมาเดินห้ามเดินออกจากเขตนี้นะ (อ่ะนึกว่าอยู่โจฮันเนสเบิร์ค นั่นก็ห้ามออกนอกบริเวณ) เราก็โอเคๆรับทราบๆ 

    ล๊อบบี้โฮสเทล สต๊าฟน่ารักมาก ช่วยเหลือดีมาก รีวิวใน TripAdvisor เค้าดีมากแหล

    เนื่องจากว่าเราเสียเวลาไปเยอะที่สนามบิน เวลาเหลือน้อย เหมือนมันปิด บ่าย 4 หรือ 5 โมงเย็นนี่แหละ เราก็เลยต้องเข้าไปรีบเก็บของกรี๊ดๆวิว จำได้ว่าวิดิโอคอลหาที่บ้าน ทุกคนอยู่พร้อมหน้า โชว์พิระมิดให้ดูพร้อมกัน 3 คน ป๊ากับน้องตื่นเต้น แต่ม๊าดันตะโกนเข้ามา “ไปทำม๊ายยย!? ไปกับใคร!? ที่พักเป็นยังไง? อียิปต์ไม่น่ากลัวหรอ?” เหงื่อตก ๆ 5555 งงทำไมม๊าไม่ตื่นเต้นเลยว่ะ เราใช้เวลาอยู่ห้องอยู่ 20 นาที settle down แล้วออกมาเลย เด๋วมันปิด.จากโฮสเทลถึง Giza ใช้เวลา 30 วินาทีในการเดิน มันห่างไปไม่ถึง 20 เมตร ที่พักอยู่ตรงข้ามติดรั้วเขตพิระมิด เห็น Sphinx ตรงหน้าเลยจ้า ก่อนออกจากโฮสเทล สต๊าฟย้ำหนักมาก “Do not talk to anyone. Just walk straight. Don’t bother the guys at the front. Just enter the gate.” เราก็แบบบ เอออน่ากลัวเนอะ แต่ก็ไม่คิดอะไร 

    พอเดินออกไปจริงๆเท่านั้นแหละ กูนึกว่า walking dead หยุดยุ่งกับกู !!!!!! 

    เราก็เดินหน้าตาย จ้ำเข้าไปให้ถึง พอผ่าน x-Ray ก็บอกตัวเองว่า เย้ รอดแล้ว สรุปเดินไปไม่ถึงสามก้าว อีแน็ต มึงกำลังจะโดนหลอกเงินแหละ แต่ตอนนั้นไม่รู้ตัว คือสต๊าฟบอกว่าเข้าไปข้างในให้ได้แล้วค่อยหาไกด์ในนั้นหรือเดินเที่ยวได้เลย สรุปก็มีชายผู้หนึ่งเดินเข้ามาคุย บอกว่าต้องมีไกด์ไม่งั้นเดินเที่ยวไม่ได้ ก็เลยอ่ะ ยอม คิดไม่ทันล่ะตอนนั้นง่วง เค้าก็พาไปบังคับให้ถ่ายรูปโพสต์โง่ ๆ อ่ะ ห่วยทุกรูป พอบอกจะไม่เอาแม่งก็คะยั้นคะยอตามสไตล์คนบ้านนาง อ่ะอยากทำไรทำ เร็ว ๆ 
    ไกด์บังคับถ่าย นางบอกชอตนี้ป๊อปมาก 
    หน้ากูตอนเห็นรูป:  -_-

    ต่อไปมาถึงการเลือกยานพาหานะในการเที่ยวชม เป็น 2 ข้อยาก ที่เลือกไม่ได้เพราะกลัวทั้งคู่ 
    1.อูฐ 
    2. ม้า 

    สุดท้ายเลือกม้า เพราะขี่อูฐน่ากลัวมาก หนึ่งฉันกลัวอูฐมาก สองอูฐมันสูงเกิน ถ้ามันวิ่งคือ ชิบห๊ายยย 

    เราก็ขี่ม้าวนไป ขี่ไปกลัวไป เคยตกม้ารอบนึงที่นิวซีแลนด์ ม้าก็ตัวใหญ่มาก นึกว่าหลุดออกมาจาก LOTR ไหล่อักเสบไปสองอาทิตย์ 

    เราเป็นคนเที่ยวแล้วถาม ถามประวัติศาสตร์ถามเยอะอ่ะ ยิ่งเป็นที่ที่ชอบเรายิ่งถาม สรุปไกด์ตอบคำถามกูไม่ได้เลย มึงมั่วมาก็ได้ กูจำชื่อคิงทุกคนไม่ได้หรอก แต่แม่งตอบว่าไม่รู้ ก็งงทำไมว่ะ เริ่มเอะใจ ไกด์ปลอมชัวร์ อีแน็ตมึงงงนะมึงงง ว่าจะรอดก็ไม่รอด ก็ไม่เป็นไรเอาเหอะเด๋ว พรุ่งนี้มาใหม่หรือไปถามคนที่โฮสเทลเอาก็ได้ 



    พอวนไปเรื่อย ๆ มาถึงหน้า Sphinx ตอนนั้นลงจากม๊าล่ะ เดินชมเฉยๆ มีคนมาขอให้เราถ่ายรูปให้หน่อย นางมาคนเดียวแต่พร็อพเต็ม เราก็ตั้งใจถ่ายอ่ะ แล้วก็จบไป มาคิดได้ อีก 5 วิ ให้เค้าถ่ายให้ดีกว่า ก็เลยถามไกด์ว่าเค้าไปไหนแล้ว ไกด์ทำเป็นไม่สนใจแล้วบอกว่าเด๋วถ่ายให้ เชรี่ยยยย หงุดหงิด แต่เรามองหาคนนั้นไม่เจอแล้วจริงๆ เชิญชมรูปได้แล้วจะเข้าว่าทำไมภัคค์ทินันถึงหงุดหงิด

    เนี่ยแหละค่ะ ความทรงจำของดิฉันและ Sphix 

    อดทนไปสักพัก ถ่ายรูปเสร็จ ทุกอย่างกำลังจะจบดี บอกลา แม่งบอกเราไม่ได้ให้ตัง นี่ก็อ่าว จ่ายแล้วหนิตั้งแต่ตอนแรกก่อนขี่ม้าอีก เค้าบอกไม่ได้มันมีค่าน้ำใจ (แปลออกมาได้ประมาณนี้) เราเลยคิดว่า อ่อออ ทิปส์ เราก็เลยหยิบให้จำนวนหนึ่ง น่าจะ 70 Egyptian pound ไม่ได้คำนวนด้วย คือ เราจำเรทไม่ได้ แต่มันมีแบ๊งค์เล็ก ๆ อยู่ เราก็ไม่รู้ว่ามาตรฐานที่นี่ต้องให้เท่าไหร่ด้วย อันนี้จริง ๆ เราควรศึกษาก่อน (ต้องบอกว่าเราไม่ได้แลกเงินอียิปต์ไปเยอะ เรามีแต่ดอลล่าร์แหละตอนนั้น ไปอียิปต์พกเงินสดนะค้าาาาาาา อีนี่หวังพึ่งการ์ด ไม่รอดจ้า) 
    นางก็หยิบแต่บอกว่า โนโน ไม่พอ พูดต่ออีก พูดไรไม่รู้จำไม่ได้แต่พูดประมาณว่าน้อยจัง คนอื่นเค้ายังให้เยอะกว่านี้ ทำไมไม่มีมารยาท กูก็ขึ้นสิคับ นี่เรียนภาษาอังกฤษมาไฟท์กะคนพวกนี้สินะ คือเราไม่เหนียวนะแต่เราไม่ชอบเพราะเค้าคือไกด์ปลอมอ่ะ ค่าพาวนชมก็เท่าไหร่แล้ว มันก็บ่นวน เดินตาม โว้ยยยย โมโห ง่วงก็ง่วง ควักไป 200 ยื่นไปเลย แล้วเราก็ถามว่า happy ? มันยังบ่นต่อ อีนี่ก็เลยบอกว่างั้นเอาคืนมา ไอจะไปเรียกตำรวจล่ะ แอนนอยอิ้ง นางเลยเดินไป ไม่ขอบคุณกรูด้วย 

    พอกลับมาถึงโฮสเทลเค้าก็ถามว่าเป็นไง เลยเล่าให้ฟัง เค้าบอกว่า โอ้โนววว แดดส์ทูมัช อ้าว เอาเถอะ 200 ปอนด์คือประมาณ 400 บาทไทย เพิ่งรู้วันนี้แหละ เอาเถอะ ให้มันจบ ๆ ไป .พอตกกลางคืนเค้าบอกว่ามันจะมี Sound and Light Show at Giza ไม่ต้องเสียค่าเข้า เดินขึ้นดูชิวๆ บนดาดฟ้าได้เลย ได้จริงๆ เวรี่พาโนรามา แต่พอเริ่มปั๊ป เราไม่ได้ยินเสียงอ่ะ มันเหมือนเสียงคนบ่นพึมพำ ๆ พี๊คกว่าคืออยู่ดีๆมีเสียงสวดจาก mosque ด้วย เค้าบอกว่าห้าม mosque หยุดสวดตามเวลาไม่ได้ อ่ะอันนี้พอเข้าใจ แต่สรุปถามว่ากูได้ยินมั้ยว่าโชว์พูดอะไร ไม่ได้ยินค่ะ ใช้ตามองอย่างเดียวเห็นสีเขียวแว๊บไปแว๊บมา อยากเรียกโพรดักชั่นรัชดาลัยเธียเตอร์มาลง ดีนะไม่ได้เสียตังดู ค่าตั๋ว 100 ปอนด์ = 210 บาท ถ้าเข้าไปเสียตังดูต้องแหงนหน้าเยอะเลยเลย ปิรามิดมันสูงและใหญ่มาก และส่วนใหญ่ มันไม่เห็นอะไรถ้าไม่ได้มองจากด้านบน เราขึ้นไปถึงชั้น 4 มองแบบระนาบสายตา โชว์ไม่มีคน ไม่มีกายกรรมใด ๆ เหมือนเล่าเรื่องที่ได้ยินมั่งไม่ได้ยินมั่ง แต่ถือว่าประทับใจนะ นั่งยิ้มอยู่คนเดียว ในที่สุดก็ได้มาเห็นของจริง 

    อย่าลืม SUBSCRIBE ไว้ติดตามตอนต่อ ๆ ไปนะจ๊ะ เรื่องเล่าเยอะมากแหละ 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in