เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
วันละเรื่องChaitawat Marc Seephongsai
ยำแบบใส่น้ำปลาร้า มาจากไหน (?) มายังไง (?) ใครเอามันเข้ามา (?)
  • ยำแบบใส่น้ำปลาร้า มาจากไหน (?) มายังไง (?) ใครเอามันเข้ามา (?) 
    หลายวันก่อนเห็นรุ่นพี่ท่านหนึ่งโพสเรื่องของ "ความซับซ้อนของยำในปัจจุบัน" ที่เวลาเข้าร้านอาหารเราจะพบว่าหน้าตาของยำเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากยำสมัยก่อน (ยำแบบยำวุ้นเส้น ยำหมูยอ) แต่ในปัจจุบันยำที่นิยมกันคือยำแบบ "ใส่น้ำปลาร้า" เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า "ยำแบบนี้มีมานานรึยัง" และถ้ามีมานานแล้วทำไมถึงเพิ่งเป็นที่นิยมในช่วงนี้

    เราลองเข้า google หาข้อมูลและพบว่าเจอแต่ "สูตรการทำยำ" แต่ไม่เจอประวัติและความเป็นมาของยำใส่ "น้ำปลาร้า" ด้วยความสงสัยก็เลยลองทักไปถามเพื่อน ๆ ที่เกิดและเติบโตมาใน "ภาคอีสาน" และวัฒนธรรมอีสาน ถึงเรื่องของสูตรยำใส่ "น้ำปลาร้า" จากการสอบถามเพื่อน ๆ กว่า 10 คน ทุกคนให้คำตอบไปในทิศทางเดียวกันว่า "เพิ่งเคยเห็นยำใส่น้ำปลาร้าก็ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เอง" โดยเฉพาะยำที่มีน้ำปลาร้าเป็นน้ำยำแบบพวก "ยำวุ้นเส้น" (ยำหน้าโรงเรียน) ที่พวกเรารู้จัก

    ทุกคนให้ข้อสังเกตที่ตรงกันว่าบำที่มีน้ำปลาร้าน่าจะมาพร้อม ๆ กับกระแสของการกินยำแบบ "After Yum" ที่มีลักษณะของการทำยำแบบ "ส้มตำปลาร้า" แต่เปลี่ยนเอาเครื่องส้มตำออกและใส่เป็น "เครื่องยำ" เข้าไปแทน และจากการคุยกันต่อในเรื่องของยำใส่ปลาร้าทุกคนตั้งข้อสังเกตตรงกันว่ามันน่าจะเริ่มมาจากกระแสของ "ยำขนมจีน" แบบที่เร่เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้ เพราะเพื่อนที่เป็นคนอีสานหลายคน ก็พูดถึงอาหารที่ใช้น้ำปลาร้าเป็นองค์ประกอบของอาหารในวัฒนธรรมอีสานว่า "น้ำปลาร้าอยู่ในแทบทุกจังหวะของรสชาติอาหาร" แต่น้ำปลาร้าที่โดดออกมาเป็นลักษณะของน้ำยำ ถ้าใกล้เคียงก็น่าจะปรากฎอยู่ใน "น้ำส้มตำ" อาจจะมีการเรียกว่า "เกาเหล่า" (ตำเหลา) ที่เรียกลักษณะของส้มตำที่หน้าตาคล้ายกับยำน้ำปลาร้าในปัจจุบัน

    พอได้คำตอบจากเพื่อนหลายคนไปในทิศทางนี่เราเลยคิดและสรุปเอาเองว่า "ยำใส่น้ำปลาร้า" แบบที่ปรากฎอยู่ในทุกวันนี้น่าจะมีจุดตั้งต้นขึ้นมาจากการแสของการกินยำในลักษณะของการทำยำแบบร้าน "After Yum" และแพร่กระจายไปสู่ร้านยำอีกหลาย ๆ ร้าน โดยการจะหาข้อสรุปว่าร้านไหนทำยำในลักษณะนี้เป็นร้านแรก ๆ นั้นน่าจะยากพอควร และถ้าจะให้หาหลักฐานและที่มาของยำลักษณะนี้จาก "หลักฐานทางประวัติศาสตร์" ก็อาจจะต้องรอให้นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ที่ทำประเด็นด้านอาหารมาเป็นคนไขความกระจ่างข้อนี้

    จากการค้นข้อมูลลงไปในอาหารกลุ่มของ "ยำ" ที่ใส่ "น้ำปลาร้า" ในยำ ปรากฎว่าเราพบหลักฐานของการทำยำในลักษณะนี้ ในเมนูยำของทาง "ภาคเหนือ" ที่ปรากฎอยู่ในสูตรอาหารหลานสูตร อาทิ ยำหน่อไม้ ที่จะนำเอาน้ำปลาร้าผสมเข้าไปในยำพร้อมกับน้ำปู๋เพื่อเพิ่มรสชาติคสามอร่อย นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่าวัฒนธรรมอาหารที่ใช้ปลาร้าในการทำอาหารไม่ได้มีแค่ภาคอีสานหรือวัฒธรรมอีสานเท่านั้น

    ด้วยเหตุนี้เราเลยลองถามเพื่อน ๆ ที่เป็นคนเหนืออีกครั้งว่าในกลุ่มอสหารของอาหารเหนือนั้น มียำที่ใส่น้ำปลาร้าในลักษณะเดียวกันกับ "After Yum" หรือไม่ (?) คำตอบที่ได้ก็ออกมาในลักษณะเดียวกันกับคำตอบของเพื่อน ๆ ที่เป็นคนภาคอีสาน และหลายคนก็ตั้งขอสังเกตเดียวกันว่า "ยำน้ำปลาร้า" น่าจะมีที่มาจากร้านอย่าง "After Yum"

    แต่ข้อมูลทั้งหมดนี้คือการหาข้อมูลแบบไม่ได้ลงลึกเข้าไปในเอกสารทางประวัติศาสตร์แต่อย่างใด รวมถึงเป็นการสรุปและตั้งข้อสังเกตจากการสัมภาษณ์เพื่อน ๆ เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ทำให้ความน่าเชื่อถือของงานชิ้นนี้อาจจะจัดอยู่ในกลุ้มเดียวกันกับ "เรื่องเล่าในวงเหล้า" ที่คนเมาคุยกันเรื่องกับแกล้ม

    หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติม หรือหลักฐานเกี่ยวกับยำน้ำปลาร้า ก็ต้องรบกวนขอความรู้เพิ่มเติมด้วยนะครับ

    ข้อมูลเพิ่มเติมจาก อ.เคท ครั้งพิบูลย์ ว่า เรื่องของที่มาก่อน After yum  "..... ตำนาน คือ "ยำปูเลสเบี้ยนพัทยา" มีใส่แบบปลาร้า คือตำนานของบรรดาคุณแม่ นางโชว์ นางงาม และร้านส้มตำที่เจ้าของอาฟเตอร์ยำชอบไปกิน ซึ่งเธอได้อิทธิพลในการคิดสูตรยำ ....."

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in