เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
นักเรียนนอกครั้งแรกMarut Soontrong
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน การสังสรรค์ งานเลี้ยง และบันเทิงเริงรมย์ชมราตรี
  • ใครว่าการไปเรียนเมืองนอกจะเป็นการตั้งใจเรียนแบบเด็กเนิร์ด มันไม่จริงสักเท่าไหร่ครับ  หลังจากที่ร้างลามานานกับการลงบล็อก ผมก็พบว่าเป้าหมายของผมในการถ่ายทอดประสบการณ์ในการเรียนต่างประเทศของผมยังไม่จบ คราวนี้เลยขอเอาประสบการณ์ที่จะไม่ค่อยมีใครเล่ามาเล่าให้ฟังมาเล่าสู่กันฟัง วัตถุประสงค์ของการเล่าประสบการณ์เที่ยวยามราตรีและสังสรรค์ในต่างประเทศมี 3 ประการ

    1. การเที่ยวกลางคืนและสังสรรค์เป็นวัฒนธรรมของชาวอังกฤษ หรืออาจจะเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมของคนทวีปนี้และที่เกี่ยวเนื่อง ไม่ว่าจะอย่างไรนักเรียนไทยมีโอกาสสูงที่จะร่วมกิจกรรมในลักษณะนี้อยู่แล้วไม่มากก็น้อย การทำความเข้าใจเกี่ยวกับมารยาท การปฏิบัติ และการเตรียมความพร้อมในทักษะการดื่มเป็นเรื่องสำคัญ
    2. นโยบายกำกับสถานบันเทิงในต่างประเทศมีความเคร่งครัดอย่างน่าสนใจ ถ้าคุณไม่เมาปลิ้นดิ้นกลางฟลอร์คุณก็จะสามารถเที่ยวได้อย่างปลอดภัยตลอดค่ำคืน แต่ถ้าไม่ก็อาจจะไปถึงตำรวจได้เลย
    3. การรู้จักแบ่งเวลา และการรู้จักผ่อนคลายหรือสังสรรค์เป็นเรื่องสำคัญพอ ๆ กับการประคองตัวให้รอดในการเรียนแต่ละครั้งการแบ่งเวลาก็เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ และแน่นอนว่าการสังสรรค์ที่เหมาะสมก็มีหลายแบบเช่นกัน

    วัฏจักรชีวิตของเมืองในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่นั้นจะเริ่มต้นที่การออกจากบ้านมาทำงาน แวะซื้ออาหารเช้าเล็กน้อยที่ร้าน Greggs ทำงาน ออกมาทานอาหารกลางวัน ตกเย็นเลิกงานกลับบ้าน แต่ในวันศุกร์จะมีความแตกต่างที่จะมีหลายบริษัทเลิกงานในเวลาบ่ายสองโมง จากปกติห้าโมงเย็น ซึ่งหากจะมีการสังสรรค์ระหว่างเพื่อนฝูงหรือสาว ๆ ก็จะเป็นคืนวันศุกร์และวันเสาร์เป็นส่วนใหญ่ โดยที่ปาร์ตี้ในหมู่ชาวอังกฤษในประสบการณ์ของผมมีประมาณ 4 แบบ ดังนี้

    แบบที่ 0 ร้านในสถานศึกษา

    ในทุกมหาวิทยาลัยในอังกฤษส่วนใหญ่จะมีร้านอาหารที่เป็น Pub & Restaurant ไว้ให้บริการนักศึกษาทุกระดับ บรรยากาศก็จะมีความเหมือนผับในเมืองไทยทุกประการ มีโต๊ะพูล มีเกมส์ให้บริการ และส่วนใหย่ก็จะปิดเวลาประมาณเที่ยงคืน ที่ University of Nottingham เรียกว่า Mooch ก็จะมีการเลี้ยงสังสรรค์ระหว่างเพื่อนฝูง มีการจิบเบียร์พูดคุยเรื่องสารทุกข์สุกดิบต่าง ๆ ซึ่งบาร์ประเภทนี้มีไว้เพื่อให้นักศึกษาได้สนุกอยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัย เดินทางไม่ไกลนัก ระหว่างที่ผมเรียนอยู่จะมีอาจารย์ท่านหนึ่งจะชวนนักเรียนมาจิบเบียร์ในวันเปิดคอร์ส 1 ครั้ง และวันปิดการสอนอีก 1 ครั้ง ก็จะเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับวิชาเรียน มุมมองความคิด สิ่งที่สอนไปแล้วงง ๆ ก็มาหลอกถามในวันนี้ นอกจากนี้ ในมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็จะมีเมนูยอดฮิตประจำบาร์นั้น ๆ ด้วย ส่วนตัวผมเคยไปดื่มที่บาร์ของ Imperial College, University of London ซึ่งการตกแต่งก็จะเนิร์ด ๆ หน่อยตามลักษณะของเด็กที่เรียนนั่นเอง

    ภาพจาก Facebook Page Mooch Bar

    แบบที่ 1 งานปาร์ตี้ที่จัดกันเองภายในบ้านหรือห้องส่วนกลาง

    งานปาร์ตี้ประเภทนี้จะเน้นการดื่มที่ค่อนข้างจะหนักมาก (แต่ถ้าดื่มหนักมาจากไทยก็สบาย ๆ ครับ) เน้นการซื้อแอลกอฮอล์จากห้างสรรพสินค้าในราคาถูกและจำนวนมากมานั่งดื่มกัน เล่นเกมส์ต่าง ๆ เปิดเพลงเต้นกันแบบบ้า ๆ บอ ๆ รวมไปถึงการท้าดวลแบบต่าง ๆ ซึ่งจำนวนแอลกอฮอล์นั้นก็ขึ้นอยู่กับรถนิยมของคนที่จัดว่าจะดื่มมากดื่มน้อย จะดื่มเบียร์ไวน์ หรือแบบผสม ในช่วงที่ผมเรียนอยู่นั้นจะมีงานแบบนี้ค่อนข้างมากระหว่างนักเรียนไทยด้วยกัน โดยเป็นการทำกับข้าวทานร่วมกัน มีเบียร์ไวน์เล็กน้อย แล้วก็สนทนาอัพเดทเรื่องราวประสาคนไทยบ้าง นินทาชาวบ้านบ้าง เป็นต้น แต่ในขณะเดียวกันถ้าเป็นงานของเพื่อนชาวบริติช คุณจะพบว่าการเมาหัวราน้ำเป็นอย่างไร เพราะเขาจะเล่นจนกว่าคุณจะถึงจุด และจะมีเกมส์ต่าง ๆ มากมายมาเล่นเพื่อสร้างความสนุก เช่น การเล่นไพ่ Uno เป็นต้น

    ถ้าถามว่าควรไปหรือไม่ โดยส่วนตัวผมคิดว่าควรไปบ้างไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนไทยหรือต่างชาติ เนื่องจากเมื่อนำราคาของทั้งหมดมา go Dutch แล้ว...มันไม่แพงอย่างที่คิด ในส่วนของงานเพื่อนต่างชาติผมยิ่งแนะนำให้ร่วมเพราะเขาจะจดจำคุณนับจากวันนั้น และคุณจะเป็นเพื่อนเขาไปจนจบการศึกษาเลยทีเดียว ผมมีเพื่อนชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง เธอเรียนคณะเดียวกับผมนี่แหละ แต่เน้นด้าน Globalization and Citizenship ซึ่งเรารู้จักกันในงานปาร์ตี้วันเกิดของน้องคนไทยคนหนึ่งที่มีฝรั่งมาเยอะมาก หลังจากนั้นก็แทบจะไม่เจอกันเลย ในโอกาสที่กลับไปรับปริญญาเมื่อปลายปี 2015 เขาก็ยังจำเราได้และเข้ามาทักทายด้วยความเป็นมิตร เราไปเพื่อแสวงหามิตรภาพใหม่ ๆ ครับ อย่าไปคิดมาก

    ถ้าไปแล้วจะเตรียมตัวอย่างไร อย่างแรก ทานข้าวให้ได้มากที่สุดครับ อาจจะรองท้องก่อนไปนิดหน่อยแล้วไปอัดที่เราหารกันกับเพื่อนอีกหน่อย เมื่อรู้สึกพออิ่มก็เริ่มจิบแอลกอฮอล์ได้ ต่อมาก็ต้องดื่มให้เหมาะกับที่ตัวเองรับได้ครับ ถ้าใครไม่อยากเมามากแนะนำให้บริการตัวเอง และต้องสังเกตปริมาณแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มนะครับว่ามีปริมาณเท่าใด โดยมากเบียร์จะมีแอลกอฮอล์ค่อนข้างน้อย (4 – 6%) ตามมาด้วยไวน์กับแชมเปญ (10% ขึ้นไป) และ Mixer ที่ความเมาสูงสุดที่มากกว่า 30 – 80% เลยนะครับ งานนี้จะกินจะผสมอะไรก็ต้องมีสตินิดนึงนะครับ เพื่อสัมปชัญญะที่ดีเวลากลับบ้าน ถ้าไม่มีรถเมล์หรือเมาจนไม่สามารถเกาะราวได้ ก็เรียก Taxi เถอะครับ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อ่อ...การที่จะซื้อจาก Supermarket มาได้ผู้ซื้อต้องมีอายุเกิน 20 ปีนะครับ

    แบบที่ 2 ออกไปทานร้านอาหารนอกบ้าน

    การออกไปทานอาหารนอกบ้านอาจเรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมทางสังคมหลักของชาวบริติชเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับนักเรียนไทยจะไม่ค่อยไปนักเนื่องจากราคาที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านอาหารที่ส่วนมากมีมาตรฐานการบริการที่เรียกได้ว่าก็ภัตตาคารน้อย ๆ เลยทีเดียว การมาในลักษณะนี้จะไม่ค่อยเมาหรอก เน้นสังสรรค์พูดคุยมากกว่า การจะไปหรือไม่ไปอันนี้แล้วแต่เราเลยครับ เน้นสะดวกเดินทาง สะดวกใจ และสบายกระเป๋าครับ ก่อนไปก็ดูก่อนนะครับว่าร้านไหนอย่างไร ไปให้ถูกก็พอมีร้านอาหารบางประเภทที่เรียกว่า Pub ผับเป็นคำเรียกร้านอาหารที่มีฟลอร์เต้นอยู่ในบริเวณเดียวกัน อันนี้ก็จะมีการตรวจบัตรหน้าประตูบ้าง ซึ่งก็จะใช้เกณฑ์เดียวกับการเข้าสถานบันเทิงคือ 18 ปี และมีมาตรการที่เข้มงวดพอ ๆ กับสถานบันเทิงอื่น ๆ แต่ความต่างคือกลุ่มผู้ใช้บริการจะเป็นกลุ่มที่มีอายุแล้ว ได้แก่ วัยทำงาน และวัยกลางคน ซึ่งก็มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้บริการเหมือนกัน ร้านที่ผมแนะนำในพาร์ทนี้มี 2 ร้านครับ

    • Ye Olde Trip to Jerusalem เป็นร้านที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1189 ซึ่งเคลมว่าเป็นผับแห่งแรกของอังกฤษ (และอาจจะของโลกด้วย) ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณที่เป็นถ้ำใต้ปราสาทน็อตติ้งแฮม โดยส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารที่มีสุราจำหน่ายครับ สามารถไปได้ทุกวัย
    • Pitcher and Piano ร้านนี้พิเศษตรงที่เดิมเป็นโบสถ์ครับ! ฟังไม่ผิด แต่เดิมพ่อของเจ้าของร้านเป็นบาทหลวง ต่อมาเสียชีวิตลูกไม่อยากทำโบสถ์เลยเอามาเปิดร้านเหล้าเสียเลย ร้านนี้ส่วนใหญ่ขายเบียร์ครับ เบียร์บางส่วนจะเป็นการหมักตามสูตรท้องถิ่นของน็อตติ้งแฮมซึ่งจะเป็นตระกูล Ale ที่รสชาติออกหวานนิด ๆ มีอาหารและดนตรีให้ฟังตลอดคืนครับ ผมชอบไปร้านนี้เพราะยามค่ำคืนแล้วภายในโบสถ์ตกแต่งสวยงามมากครับ
    ภาพจาก Godine.co.uk

    ถ้าจะไปเตรียมตัวอย่างไร ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลยครับ อยากไปก็สวมชุดหล่อออกไปได้เลย ไม่ได้ยากเย็นนัก ในบางครั้งชาวอังกฤษจะชอบจิบชา การไปจิบ Afternoon Tea กับเพื่อนฝูงก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยนะครับ ถ้ามีการดื่มแอลกอฮอล์ก็สั่งเองครับ ตามสะดวก สำหรับเบียร์ที่มีขายทั่วไปในร้านอาหารก็จะเป็นเบียร์สดครับ ซึ่งเตรียมบัตรประชาชนที่มีภาษาอังกฤษไปให้ตรวจก็ดีครับ เพราะตามกฎหมายนั้นต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปสำหรับการซื้อดื่มในร้านนะครับ นอกจากนี้แล้ว ขอให้ทุกท่านสมัครสมาชิกบัตร NUS Card (National Union of Students) ซึ่งจะมีส่วนลดร้านอาหารสำหรับนักเรียนอยู่ด้วยนะครับ มีหลายร้านให้เลือกสรรตามฤดูกาลตลอดทั้งปีครับ

    แบบที่ 3 Dancing Club

    สถานบันเทิงของฝรั่งจะเรียกว่า Club ครับ คลับจะเป็นสถานบันเทิงที่มีแต่เหล้าเบียร์จริง ๆ และเน้นความมันส์และเมาเป็นหลัก คลับที่นี่มีหลากหลายประเภทตามความชอบของแต่ละคน ซึ่งแนวเพลงที่เปิดส่วนใหญ่จะเป็นแนว EDM และเพลงแดนซ์ ตามกฎหมายอังกฤษกำหนดไว้ว่าผู้ที่จะเข้าคลับได้ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และคลับจะมีการกำหนดเวลาปิดบริการที่ตีสาม (03.00 น.) ซึ่งมีบางที่เท่านั้นที่จะสามารถต่อเวลาได้ถึง 04.00 น. และแน่นอนว่านี่คืออีกกิจกรรมทางสังคมหนึ่งที่ชาวอังกฤษทำกันมา ซึ่งก็คือ การออกมาเต้น ออกมาเต้น และ Get in touch กันนะแจร๊ะ... คลับของอังกฤษค่อนข้างมีมาตรการรักษาความปลอดภัยดีมาก มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ตัวใหญ่ขนาดอุ้มคนที่มีปัญหาโยนออกนอกร้านได้! ดังนั้นการไปทดลองประสบการณ์นี้ก็น่าสนใจและมีความปลอดภัยพอตัว

    ควรไปหรือไม่...อันนี้ถามใจตัวเองดูนะครับ สำหรับสาวไทยแล้ว การไปสอดส่องหนุ่มตาน้ำข้าวนั้นอาจจะเป็นสวรรค์ยามค่ำคืน ซึ่งก็ควรระมัดระวังตัวนิดนึงเพราะการมาในลักษณะนี้นำไปสู่การ Hook up นะครับ ถ้าเจอคนที่ถูกใจก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้ารู้สึกไม่โอเคก็ให้ปฏิเสธเสียงแข็งไปเลยนะครับ สำหรับชายไทยที่คาดหวังนะครับ...เลิกหวังและดื่มต่อจะดีกว่าเพราะผู้หญิงชาวอังกฤษที่สวย ๆ ก็จะไม่มองหนุ่มเอเชียมากนัก จากประสบการณ์ผมคนที่ชอบหนุ่มเอเชียนี่จะมี Mindset แปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูกครับ แต่ผมไม่แน่ใจในประเทศที่มีการเปิดกว้างทางความคิด เช่น สหรัฐอเมริกาหรืออสเตรเลียนะครับ ไปลองหาข้อมูลกันเอาเองเนอะ

    คลับที่เมืองน็อตติ้งแฮมถือว่ามีเยอะมากเมื่อเทียบสัดส่วนต่อตารางเมตร เพราะใจกลางเมืองมีคลับทั้งสิ้นเกือบ 14 คลับ และแต่ละร้านมีลักษณะและกลุ่มลูกค้าแตกต่างกันไป ผมขอแนะนำเป็นบางร้านที่เคยไปมาด้วยตัวเองแล้วรู้สึกว่าดีและปลอดภัยสำหรับทุกคนประมาณ 3 ร้านครับ

    • Coco Tang เป็นร้านที่อยู่ชั้นใต้ดินของร้านค้าต่าง ๆ มีที่ตั้งอยู่บริเวณ Bridlesmith Gate ใกล้ ๆ กับห้าง Intu Broadmarsh (ท่ารถ Couch) ในบริเวณใกล้เคียงมีช้อปดัง เช่น Paul Smith ร้านนี้กลุ่มลูกค้ามีหลายเชื้อชาติและชมรมมหาวิทยาลัยนิยมไปจัดงานในลักษณะเก็บค่าเข้าร้าน สำหรับแนวทางของร้านก็เน้นเต้นครับ เพราะมีฟลอร์เล็ก ๆ ให้เต้น ใครชอบนั่งก็นั่งได้แต่มักจะเต็ม 5555+ เมนูส่วนใหญ่ของร้านนี้เน้นค็อกเทลหลากเมนูซึ่งมากกว่า 20 เมนูครับ ร้านนี้ค่อนข้างปลอดภัยและไม่ค่อยมีคนหยาบเพราะราคาต่อแก้วค่อนข้างแพงครับ

    ภาพจาก Designmynight.com
    • Ink Nottingham คลับนี้แนะนำว่าให้ไปเป็นหมู่คณะเพราะร้านมาเป็นธีมคอนเสิร์ต EDM เพราะร้านมีห้องหลักเป็นห้องเธียเตอร์ขนาดใหญ่มีดีเจเปิดเพลงบนเวทีใหญ่มาก มีหลายโซนมั้งโซน
      วีไอพี โซนเล็ก โซนโต๊ะนั่ง ร้านนี้ถือว่าคนพลุกพล่านมาก ความปลอดภัยปานกลาง ราคาต่อแก้วถูกมาก มีช็อตบริการ ร้านนี้เก็บค่าเข้าเป็นปกติที่ 10 ปอนด์ และร้านนี้จะเปิดให้บริการถึง
      04.00 am ซึ่งน่าจะเป็นร้านเดียวที่ผมเคยเจอ ข้อควรระวังคืออย่าเมาจนไร้สติเพราะคนเบียดกันมาก ระวังสิ่งของมีค่า และระวังการกระทบกระทั่งเพราะลักษณะร้านต่างจากร้านแรกที่แนะนำครับ

    ภาพจาก Twitter Club Ink Nottingham

    ร้าน Baa Bar ร้านนี้พิเศษที่เมนูเครื่องดื่มที่จะมาแนววิทยาศาสตร์ แล็ป ๆ ที่มีเครื่องดื่มสีสันควันพวยพุ่งออกมาแล้วเหมาะแก่การลง Instagram อย่างมาก ร้านนี้ออกแบบเป็นแนวบาร์ และเต้นตามทางเลยจ่ะ การมาร้านนี้ข้อแนะนำคือมาหาที่นั่งก่อนแล้วค่อยออกไปแดนซ์ สิ่งสำคัญคือร้านนี้เครื่องดื่มราคาย่อมเยานักศึกษาสามารถเข้าถึงได้ แต่อย่างไรก็ตามคนก็แน่นมากเช่นกัน ต้องระวังตัวให้มาก

    ภาพจาก Lastnightoffreedom.co.uk

    การปฏิบัติตนและข้อควรระวัง

    ไปแล้วปฏิบัติตัวอย่างไร ประการแรกคือพกบัตรแสดงตัวตนครับ เนื่องจากทุกที่จะมีการตรวจบัตรโดยเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด สำหรับบางคนที่อายุเกิดแต่หน้าเด็กก็มักจะถูกถามหาหนังสือเดินทางอยู่เสมอครับ พกไปทุกครั้งครับ หรือในบางกรณีมีบัตร Resident Permit สำหรับคนที่ไปต่อวีซ่าภายหลังที่เข้าอังกฤษไปแล้วก๋เอาบัตรนั้นไปแทนได้ครับ ร้านบางแห่งมีการจำหน่ายบัตรเข้างานไม่ว่าจะล่วงหน้าหรือซื้อหน้างาน เตรียมเงินและคำนวณค่าใช้จ่ายให้พร้อมครับ จากนั้นคุณก็เข้าไปสนุกได้เลย นอกจากนี้แล้วบางชมรม (Thai Society ก็ไม่เบาครับ) นิยมจัดปาร์ตี้แล้วจำหน่ายบัตรเพื่อหารายได้เข้าชมรม อันนี้ก็จะเป็นงานของคนชาตินั้น ๆ ส่วนใหญ่ ก็สามารถเลือกซื้อบัตรตามใจปรารถนา มัยผมเรียนเจอน้อง ๆ เรียกให้อุดหนุนบ่อยครับ ส่วนใหญ่จะประมาณ 10 ปอนด์ครับ

    ข้อควรระวังมีไม่มากครับ สำคัญที่สุดคือสติ ต้องครองสติให้ได้จนถึงบ้านนะครับ โดยเฉพาะนักศึกษาอย่างเรา ๆ ต้องดูแลตัวเองครับ มีลิมิต สำหรับการแต่งตัวขอให้ตรวจสอบให้ดีเนื่องจากบางที่ไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้าผ้าใบ ต้องใส่สูท ส่วนใหญ่จะเป็นคลับผู้ใหญ่ และแน่นอนว่าขอให้เตรียมอุปกรณ์เสริมให้พร้อมเลยนะครับ

    ทั้งหมดนี้...เป็นการบอกเล่าประสบการณ์ในอีกด้านหนึ่งครับ ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่กำลังเตรียมตัวไปศึกษาต่อต่างประเทศให้ได้รู้ว่าอนาคตที่เราจะไปพบปะกับผู้คนต่างวัฒนธรรมและเชื้อชาตินั้น จะมีวิธีการอย่างไรที่จะเข้าถึงและสร้างมิตรภาพที่ดีร่วมกับพวกเขา ซึ่งการสังสรรค์เป็นกิจกรรมหลักที่เราจะได้พบปะผู้คนมากมาย และแน่นอนว่ามิตรภาพของเราก็มีความหมายสำหรับพวกเขาเช่นเดียวกัน

    หมายเหตุ ภาพปกจาก Rescueroom.com

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in