เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
พร่องเออเนสซองส์
เที่ยวบินในม่านเทา
  • -1-

    ถ้าเปรียบชีวิตคือการเดินทาง จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องกำหนดเป้าหมายที่พอเหมาะ พอดี และหมั่นตรวจสอบเสมอว่า เรายังอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่


    ผมเป็นคนหนึ่งที่กลัวความสูงขึ้นสมอง ยิ่งขึ้นเครื่องบินแล้ว สมองแทบจะหยุดทำงาน นั่งตัวแข็ง หายใจติดๆขัดๆ และอยากให้ทันทีที่ลืมตา ก็ถึงจุดหมายปลายทาง การต้องติดแหงกอยู่บนท้องฟ้านานๆ มันทรมานเกินทน ผมจึงพยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยเครื่องบิน ถ้าไปรถโดยสารได้ หรือถ้ายิ่งเดินไปได้ ก็จะตัดสินใจโดยไม่ต้องคิด เสียเวลาก็เอา ดีกว่าเสียสติเป็นพอ


    แต่ครั้งนี้จุดหมายปลายทางอยู่อีกทวีปหนึ่ง การเดินเท้าเปล่า จึงเป็นเรื่องเสียสติยิ่งกว่า และไม่มีเหตุผลเท่าที่ควร


    ผมจึงออกจะชื่นชมนักบิน ที่อุทิศชีวิตเกือบร้อยเปอร์เซนต์อยู่บนน่านฟ้า ที่สำคัญควบคุมหัวจิตหัวใจ ที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ให้พาอีกหลายร้อยชีวิต ลัดฟ้าไปสู่ดินแดนอันห่างไกล ได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย

    ผมภาวนาขอให้ครั้งนี้ ก็เป็นเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน


    แต่การขับเคลื่อนของเครื่องบินโบอิ้ง ที่ผมนั่งอ้อยอิ่งอยู่นี้ ผมว่ามีบางอย่างพิกล แม้มองจากหน้าต่างออกไปท่ามกลางความมืดมิด ก้อนเมฆหม่นบนฟ้า ดูคล้ายๆกันหมดก็ตามที หากมีบางอย่างเปลี่ยนไป เป็นไปไม่ได้ที่กัปตันจะไม่รู้ตัว เขาตั้งใจจะทำอะไร ที่คนส่วนใหญ่ หรือจะพูดว่าทั้งหมดก็ได้ ไม่ทันสังเกตเห็น

  • ผมมั่นใจว่าเกิดความผิดปกติขึ้นกับกัปตันแน่ๆ เพราะรู้สึกได้ว่านอกจากเครื่องจะเปลี่ยนทิศทางแล้ว ยังพยายามไต่ระดับเวิ้งฟ้าขึ้นอย่างฉับพลัน เหมือนคนกำลังวิ่งขึ้นภูเขาอย่างเร่งรี่ ผมพอจะรู้ว่าถ้าขึ้นไปเกินระดับสี่หมื่นฟุต อากาศจะไม่พอหายใจ เพราะในระดับความสูงเช่นนี้ อากาศจะเบาบางมาก และแทบจะไม่มีเครื่องบินลำไหน ไต่ระห่ำจนจะหลุดขอบโลกเยี่ยงนี้ เพราะถือว่าอันตรายอย่างยิ่งยวด แม้หน้ากากออกซิเจนจะหล่นลงมาจากเพดานเหนือศรีษะของทุกที่นั่ง แต่อากาศมันมีพอแค่สิบห้านาทีเท่านั้น ถ้าเกินกว่านั้นทุกคนจะสลบไป และเรื่องราวต่อจากนั้น แม้พระเจ้าเองยังไม่อาจรู้ คนเดียวที่กุมชะตาชีวิตคือกัปตัน ผมมีเวลาเหลือไม่มาก ต้องรีบแก้ไขสถานการณ์ การช่วยกัปตัน เท่ากับช่วยทุกคน ผมต้องก้าวเท้าไปให้ถึงห้องนักบินให้เร็วที่สุด ให้เร็วกว่ามือของมัจจุราช ที่กำลังเอื้อมหมายจะปลิดทุกชีวิตให้หลุดลอย


    ระหว่างทางเดิน ผมเหลือบสายตาไปทางซ้ายและขวา ผู้โดยสารดูสะลึมสะลือ เซื่องซึม บางคนถึงขั้นหมดสติไปเลยด้วยซ้ำ ไม่มีเสียงเล็ดลอดใดออกจากปาก เพราะแม้แต่เสียงลมหายใจยังแทบไม่มี และเสียงชีพจรที่เต้นถี่ กลับแผ่วไปเจียนหยุด จวนแล้ว จวนจะถึงประตูห้องนักบินแล้ว อีกไม่เกินห้าก้าวเท่านั้น...


    -2-

    ภายหลังเครื่องบินลำที่กำลังนำผู้โดยสารและลูกเรือร่วมสองร้อยสี่สิบสี่ชีวิต เพื่อเดินทางไปยังฝรั่งเศส ได้สูญหายไปอย่างปริศนาจากจอเรดาห์ และจากโลกแห่งความจริง นี่ก็วันที่เจ็ดแล้ว ยังไม่สามารถยืนยันว่า เครื่องบินลำดังกล่าวไปลงจอดที่ใด หรือตกลงตรงตำแหน่งไหน ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ที่สำคัญการหายไปอย่างลึกลับนี้มาจากสาเหตุใด จะเป็นอุบัติเหตุ การจี้กลางอากาศ หรือก่อการร้าย ผู้บริหารของสายการบินและเจ้าหน้าที่ที่เกียวข้องยังไม่อาจชี้ชัดลงไปได้ สร้างความเศร้าสะเทือนใจ ระคนโกรธเกรี้ยวให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตอย่างรุนแรง เหล่านี้คือเนื้อหาโดยรวมๆของข่าว ที่สื่อทุกประเภทประโคมกันอย่างแพร่หลาย ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น

  • หนึ่งเดือนหลังจากนั้น หลังจากระดมสรรพกำลังค้นหาโดยกลุ่มประเทศพันธมิตร ในบริเวณที่คาดว่าเครื่องบินน่าจะตก ในมหาสมุทรอินเดีย และในประเทศแถบตะวันออกกลาง กินพื้นที่หลายล้านตารางกิโลเมตร ยังคงไร้วี่แววใดๆ และความหวังว่าจะมีผู้รอดชีวิตพลันดับลง ผู้บริหารสายการบินจึงตัดสินใจตั้งโต๊ะแถลงข่าวไปในทิศทางว่า เชื่อว่าเครื่องบินน่าจะโดนยิงตกโดยผู้ก่อการร้าย ด้วยขีปนาวุธจากภาคพื้นดิน ตกลงไปในพื้นที่ของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย และไม่อาจเข้าไปตรวจสอบได้ ที่ตัดเรื่องอุบัติเหตุทิ้งไป เพราะว่าไม่มีสัญญาณบอกเหตุใดๆเกิดขึ้นเลย ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เครื่องบินขึ้นไปจนถึงหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่สัญญาณตรวจจับจากจอเรดาห์จะหายไป ดูเป็นการหายไปแบบกะทันหันไม่ทันตั้งตัว นักบินเลยไม่อาจส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือใดๆไปยังสถานีภาคพื้นดิน จึงขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต และญาติของผู้เสียชีวิตทุกท่าน ทางสายการบินยินดีจ่ายค่าทดแทนให้เต็มอัตราตามกฎหมายที่ระบุในประกัน ถือเป็นการแถลงยุติคดี และปิดฉากการค้นหาอย่างยืดเยื้อยาวนาน


    -3-

    ให้ตายเถอะ ความสูงระดับนี้นอกจากจะทำให้ผู้โดยสารทั้งหมดขาดอากาศหายใจ แล้วเข้าสู่ภาวะเจ้าหญิงนิทรา ที่คงหาเจ้าชายคนใดมาจุมพิตให้ตื่นจากความฝันไม่ได้ มีแต่เพียงมัจจุราชเท่านั้นที่บรรจงมอบความตายให้อย่างช้าๆ ปราศจากความเจ็บปวด หรือหวาดกลัวแม้เพียงน้อยนิด เรียกว่าตายโดยไม่รู้ว่าตาย ที่สำคัญด้วยความสูงระดับนี้ ไม่มีเรดาห์ภาคพื้นดินที่ไหน สามารถตรวจจับการดำรงอยู่ และตำแหน่งของเครื่องได้ นั่นหมายความว่ากัปตันต้องการทำให้เครื่องบินมรณะลำนี้ หายสาบสูญไปจากโลกใบนี้ชั่วนิรันดร์


    นาทีนี้ผมคงไม่ต้องเคาะประตูห้องนักบินด้วยมารยาท หรือผลักเข้าไปทันทีอย่างหุนหัน ผมสามารถเดินทะลุผ่านประตูเข้าไปได้โดยพลัน ผมออกจะช็อกกับความสามารถใหม่นี้มากทีเดียว ปล่อยร่างที่ไร้วิญญาณ ให้นอนรอรับรายงานที่นอกห้องก็แล้วกัน

  • สภาพของกัปตันเหมือนคนนอนหลับ ซึ่งผมยังไม่แน่ใจว่าหลับชั่วคราวหรือถาวร แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นอย่างหลังมากกว่า และนักบินผู้ช่วยก็มีสถานะที่ไม่ต่างกัน แต่ที่น่าสะเทือนใจที่สุดคือ ตรงอกด้านซ้ายของกัปตัน มีมือข้างขวาทาบอยู่อย่างแนบชิด โดยภายในอุ้งมือมีรูปของหญิงวัยสามสิบปลายๆคนหนึ่ง ดูหน้าตาสะสวยทีเดียว ถ่ายรูปคู่กับกัปตัน คงเป็นภรรยาสุดที่รัก แต่ เอ ภรรยาสุดที่รัก ผมทวนคำ พร้อมกับทวนความทรงจำที่ผมเห็นก่อนขึ้นเครื่อง ผมอยากให้ความจำมันผิดพลาด อยากให้สมองทำงานคลาดเคลื่อน แต่ก็ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เพราะภาพที่มันฝังอยู่ในหัวนั้น เป็นภาพชายคนหนึ่ง โอบเอวหญิงคนหนึ่ง ใช่ครับ หญิงคนนั้นคือคนเดียวกับที่กัปตันกุมภาพไว้แนบชิดหัวใจนั่นแหละ แต่ชายคนนั้น ถ้าเป็นกัปตัน เรื่องทั้งหมดคงแลนดิ้งลงสู่พื้นด้วยดี แต่มันไม่ใช่ ชายคนนั้น ดันเป็นนักบินผู้ช่วยน่ะสิ่ เรื่องทั้งหมดมันจึงขมวดลงตรงกลางเวหาเช่นนี้ กลางอากาศเย็นยะเยือก กลางอกร้อนรุ่มด้วยเพลิงแค้น กลางหยดน้ำตาที่ไหลออกมาในระดับที่สูงที่สุดในโลก คงไม่ต้องไปหาความลับดำมืดจากกล่องดำที่ไหน เพราะปริศนาที่มืดมิดและลึกเกินหยั่งถึงที่สุด คือใจคน


    เครื่องบินถูกปิดอุปกรณ์ส่งสัญญาณ และตั้งระบบขับเคลื่อนไว้ที่ออโต้ไพลอท คือบินโดยอัตโนมัติ บินไปเรื่อยๆจนกว่าน้ำมันจะหมด ก่อนที่จะตกไปยังที่ใดที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว โดยแทบไม่มีชิ้นส่วนแตกกระจายเกลื่อน ไม่มีคราบน้ำมันลอยเป็นแพ เพราะน้ำมันถูกใช้ไปจนหมดทุกหยาดหยด จึงไม่มีการระเบิด ทิ้งร่องรอยเหลือเป็นอนุสรณ์ให้คนข้างหลังได้เห็น โดยเครื่องอาจจะตกลงไกลห่างจากจุดหมายปลายทาง คือฝรั่งเศส อย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรกมากมายนัก อย่างน้อยถ้าผมรู้ว่า จะต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ผมจะทิ้งโน๊ตไว้ที่ข้างตู้เย็นว่า รักทุกคนนะ...ลาก่อน ยังดีกว่าการไม่ได้ร่ำลาอะไรเลย


    -4-

    ณ ตำแหน่งลึกที่สุดใต้ก้นมหาสมุทรอินเดีย ลึกราวหกกิโลเมตร ไกลจากสวรรค์ แต่ก็ยังไม่ถึงนรก ผมยังคงติดอยู่ และวนเวียนซ้ำซากกับความทรงจำเดิมๆ ห้วงเวลาเดิมๆ ในซากเครื่องบินลำเดิม จนกว่าจะมีใครมาปลดปล่อย และนำทางกลับบ้านไปหาคนที่ผมรักที่สุด คนที่เกือบทั้งชีวิต ผมไม่เคยเอ่ยถึง

  • ถ้าเป็นไปได้ ผมจะไม่รับโบนัสที่มากเกินจะนับ ไม่ตะเกียกตะกายไปยังตำแหน่งสูงส่ง ไม่คิดครอบครองรางวัลใหญ่ ที่ต้องดั้นด้นไปรับไกลถึงอีกซีกโลก รางวัลเดียวที่ผมอยากได้ในตอนนี้ คือการได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้นานที่สุด ทำให้พวกเขามีความสุขที่สุด ด้วยตัวผมเอง ไม่ใช่ปรนเปรอพวกเขาด้วยสิ่งอื่นนอกกาย และคิดเอาเองว่าทดแทนความรักได้ เพราะสุดท้ายแล้ว ผมตระหนักว่าสิ่งที่มีค่ามหาศาลยิ่งกว่ามหาสมุทร กลับไม่ใช่เงินทองกองโต หากแต่เป็นเวลา เวลาที่ผมไม่อาจย้อนคืนกลับไป ใช้มันกับคนที่ผมรักได้อีก ไม่ได้อีก แม้อีกสักเสี้ยววินาทีเดียว


    ถ้ากัปตันยังมีชีวิตอยู่ ก็คงจะคิดแบบผมเหมือนกัน

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in