เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storymmaysp93
"ไลฟ์สไตล์ในโมโตจีพี ล้วนเต็มไปด้วยความน่าหลงใหล"
  •     ฟรีเน่ เวลิลล่า ผู้จัดการสื่อของดอร์น่า สปอร์ต เธอคือตัวแปรสำคัญด้านการสื่อสารของเหล่าพนักงานและสื่อมวลชนทั้งหลาย

       ในแต่ละสนามจะมีจุดศูนย์กลางสำหรับสื่อต่างๆ ซึ่งเป็นสถานที่ให้นักข่าว ช่างภาพ และทีมงานต่างๆใช้เวลาอยู่ที่นั่นตลอดช่วงที่มีการแข่งขัน
      ฟรีเน่ เวลิลล่า ผู้จัดการสื่อของดอร์น่า สปอร์ต เธอคือผู้เปิดประตูให้เหล่าบรรณาธิการผู้รักการท่องเที่ยวทั้งหลายเข้าสู่โลกของโมโตจีพี....

      ด้วยสายตาอันยาวไกลที่มองไปสู่อนาคต แต่ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจกับปัจจุบันเสมอ ฟรีเน่เล่าให้เราฟังถึง
    อาชีพของเธอ ที่เริ่มต้นจากการเป็นนักแปลและล่ามในการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ต จนกระทั่งเธอได้ร่วมงานกับดอร์น่า สปอร์ตในปี 2004 ในฐานะนักแปลภาษา
       เพียงแค่ในบริษัทนี้เท่านั้น เธอทำได้อย่างไร?
         เธอเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆและดูแลในหลากหลายหน้าที่ที่แตกต่างกัน จนกระทั่งเธอกลายเป็นหนึ่งในผู้น่านับถือและรู้จักกันดีใน #สุภาพสตรีโมโตจีพี 

       ด้วยใบประกาศด้านการแปลและการล่ามของเธอนั้น ความตั้งใจที่จะออกไปเจอโลกกว้างและเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆที่แตกต่าง ฟรีเน่จึงทำงานเป็นนักแปลภาษาในกีฬาแห่งความเร็วของการแข่งขัน Costa Brava Rally และรู้ได้ทันทีเลยว่า
        'นี่แหละคือที่ของเธอ!'

       "พวกเขาติดต่อฉันและถามว่า สนใจไปแปลที่งานที่อื่นด้วยได้ไหม? ฉันจึงส่งใบสมัครไปที่ดอร์น่าในปี 2004 และได้เริ่มต้นทำงานกับบริษัทนี้มาตั้งแต่นั้น"

       ฉันเริ่มต้นด้วยการแปลจากภาษาอังกฤษไปภาษาสเปน จากนั้นฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของทีม 'ดูแลลูกค้า' แล้วก็เปลี่ยนเป็นทีม 'ขายสื่อ' 
      ในตอนนั้นโอกาสเดียวที่จะทำให้ฉันได้เข้าไปในสนามคือ การดูแลเรื่องขายลิขสิทธิ์ให้ช่องโทรทัศน์   
    จานดาวเทียม และการเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆ ฉันได้ร่วมเดินทางด้วยอยู่ครึ่งฤดูกาล และได้รับการเสนอให้ทำงานในทีมสื่อ"

      การเปิดตัวครั้งแรกในหน้าที่ใหม่เริ่มต้นเมื่อปี 2010 ที่สนามการ์ตาจีพี 
      เหมือนกับการเริ่มต้นที่มักจะยากเสมอ แน่นอนว่าฟรีเน่ต้องพบเจอกับความยากลำบาก

       "มันร้อนมาก มากเกินกว่าที่คิดไว้อีก การแข่งขันจัดขึ้นในตอนกลางคืน และกว่าจะเสร็จก็ดึกแล้ว ตอนนั้นฉันต้องจัดการกับความเครียดและความเหนื่อยล้า รายการที่ต้องทำยาวมากและเกินเวลาด้วย ฉันเลยปรับเปลี่ยนรายการเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเหล่าสื่อมวลชนก่อน และในวันนี้มันแตกต่างกันมาก แม้ว่าจะมีการพัฒนาทั้งสนามแข่งและเทคโนโลยีต่างๆเปลี่ยนแปลงไป แต่เป้าหมายของฟรีเน่ยังคงเหมือนเดิมเสมอ คือ 'การทำให้งานของนักข่าวและช่างภาพง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้' 

      ฟรีเน่เริ่มต้นด้วยการจัดการเรื่องรับรองระบบงานสื่อในสัปดาห์แห่งการแข่งขัน ดูแลเรื่องการสัมภาษณ์นักแข่งในวันพฤหัสบดี ร่างบทสัมภาษณ์และเอกสารที่สำคัญสำหรับนักข่าว เพื่อให้รายละเอียดเกี่ยวกับนักแข่งครบ และกำหนดการต่างๆ 
       จากนั้นฟรีเน่ก็ไปประสานงานกับการสัมภาษณ์ของช่องโทรทัศน์ เธอจัดการทุกความต้องการของห้องสัมภาษณ์ทั้งหมด

       "ระหว่างการให้สัมภาษณ์ ฉันจะประสานงานเรื่องคำถามและจัดการเรื่องนักแข่งให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ ฉันพยายามทำให้การสื่อสารมันสะดวกขึ้นระหว่างสื่อกับทีมให้สัมภาษณ์ เพื่อที่พวกเขาสามารถรายงานข่าวและสัมภาษณ์ได้เสร็จเร็วๆ"

       กิจกรรมเหล่านี้ดำเนินการที่ห้องสื่อข่าว สถานที่ที่ฟรีเน่ให้นิยามว่าเป็น
       
     "การประชุมเล็กๆของสหประชาชาติ ฉันชอบเวลาที่ได้เจอผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก และทุกครั้งที่เราไปจัดแข่งที่ประเทศอื่นๆ มันช่างเป็นมุมที่ตราตรึงใจฉันมากที่สุดในงานนี้ การมีโอกาสได้ร่วมงานกับผู้คนที่หลากหลายทางวัฒนธรรม หลากหลายทางภาษา วิธีการทำงาน และสิ่งที่ทำล้วนแยกความต่างของแต่ละประเทศได้"

       และลักษณะของผู้คนเหล่านี้ทำให้งานแข่งรถแต่ละครั้งมีมนต์เสน่ห์มาก
       
       "ฉันชอบฟังเรื่องราวของนักแข่งและครอบครัวของพวกเขา" ฟรีเน่อธิบายต่ออีกว่า 
       "การได้รู้ถึงความเสียสละของพวกเขา กว่าจะเข้ามาในสนามแข่ง เพื่อสร้างโชว์ที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้กับชาวโลกได้ดูนั้น เวลาที่เราดูการแข่งขัน เราก็แค่ดูเพื่อความสนุกสนาน แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่า กว่าที่พวกนักแข่งจะมาถึงจุดนี้ มันยากลำบากมากมายขนาดไหน"

      การทำงานในโมโตจีพีเป็นอะไรที่น่าหลงใหลม แต่ก็ต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจอันยิ่งใหญ่มาก เหมือนที่ฟรีเน่เล่ารายละเอียดให้ฟัง 
      "ทุกๆวันอาทิตย์ เราจะพลาดงานวันเกิด ครอบครัว และงานแต่งของเพื่อน เราต้องยอมทิ้งช่วงเวลาที่จะได้อยู่กับคนที่เรารัก แต่เราต้องอยู่ที่สนามแข่งรถ เพื่อให้มั่นใจว่า งานที่น่าเหลือเชื่อนี้ได้ปรากฏสู่สายตาแฟนๆทั่วโลก"
       
         และถ้าคุณมองหาคำอธิบายที่มีเหตุผลนั้น คำตอบมันดังและชัดเจนมากคือ
         
      "เราอยู่ในโลกคู่ขนานที่สร้างสิ่งที่เต็มไปด้วยความน่าหลงใหล และนั่นทำให้มันเป็นเอกลักษณ์และลอกเลียนแบบไม่ได้!!!"

        ข้อเท็จจริงที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จลุล่วงคือ 'เวลาและพลังงาน' ไม่ใช่แค่ความเข้าใจเท่านั้น แต่เป็นความกระตือรือร้นและอะดรีนาลีนที่ขับเคลื่อนสภาพแวดล้อมตรงนี้ ตามที่ฟรีเน่เล่าและเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้เลย
    ในช่วงแรกที่คุณรับรู้ได้ว่า คุณไม่ได้อยู่ที่ใดๆกับใครก็ตาม หลายๆบริษัทพูดถึงเรื่องสถานะการเงินและคาดคะเนถึงเรื่องการขาย แต่พวกเรารอคอยอย่างตื่นเต้นกับการปล่อยปฏิทินใหม่ เพื่อให้รู้ว่าเมื่อไหร่และที่ไหนที่เราจะไป และเวลาที่เรามี เพื่อทำความรู้จักประเทศที่เราจะไปให้ดีขึ้น"

       เพื่อตอบแทนทุกความพยายาม มีโบนัสสำหรับมืออาชีพด้านการสื่อสารและผู้อำนวยความสะดวกให้กับเหล่าสื่อมวลชนด้วย
       
       "เวลาที่นักข่าวหรือช่างภาพผู้ติดตามจากหลากหลายกีฬาบอกฉันว่า 'คุณทำงานได้ดีมากในโมโตจีพี' 
    ฉันมีความสุขมาก พวกเราพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเขาได้สัมภาษณ์คนที่เหมาะสมในแต่ละสัปดาห์และถ่ายภาพได้ในทุกๆมุมนานเท่าที่ต้องการ เวลาที่ฉันได้รับคำชมเหล่านี้ มันเป็นที่น่าพอใจมาก"

       แต่การเป็นผู้จัดการด้านสื่อต้องมีข้อกำหนดด้วย เพื่อทำตามกฎที่สร้างขึ้น 
       "กับพวกนักข่าวที่รู้จักกันมานาน บางทีเราก็เล่นมุกใส่กันว่า 'ฉันเป็นคุณครู ส่วนเธอเป็นนักเรียนนะ' 
    เพราะบางทีฉันต้องเล็งหรือจำบางคนไว้ เพราะมันมีกฏที่ต้องเคารพ 
      แต่ในมุมล้อเล่นกัน มันก็เป็นสภาพแวดล้อมที่ดีและสามัคคีกันมากเวลาอยู่ในห้องสัมภาษณ์
       คนเราต้องการสิทธิพิเศษมากกว่าความมืออาชีพในบางที แต่ก็น่าชื่นชมตรงที่ไม่มีใครแสดงมันออกมา"

       สถานการณ์ถูกสร้างขึ้นเพราะการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเปลี่ยนพฤติกรรมของทุกๆคน 
       เมื่อดอร์น่าประกาศว่าการแข่งขันจะกลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง ฟรีเน่รู้ว่าเธอต้องกลับไปทำงาน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ในสนามร้างผู้ชม ห้องข่าวอันเเสนเงียบเหงา และความรับผิดชอบที่ต้องอำนวยความสะดวกให้กับเหล่านักข่าวที่ทำงานอยู่ที่บ้าน เป้าหมายของฟรีเน่ คือ การใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนการปรากฏตัวของเหล่ามืออาชีพทั้งหลายในสนาม ไปสู่การลดสื่อลงตามที่การแข่งขันประกาศไว้

      "พวกเราพยายามทำให้การเข้าถึงของคนที่ทำงานในแพดด็อกเป็นเรื่องที่สะดวกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เสมอ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ได้เห็นความต้องการที่มากขึ้นจากทั่วโลก จึงมีการประชุมออนไลน์เพื่อให้นักข่าวได้ถามคำถามต่างๆกับนักแข่งโดยตรงในช่วงที่จัดการแข่งขัน"

       อย่างในปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่มีความท้าทายมากมายเกิดขึ้น ฟรีเน่สามารถทำให้ห้องสื่อข่าวกลายเป็นสถานที่สร้างสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนได้ 
       "ฉันพยายามที่จะลดการใช้กระดาษ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้เลย แต่มันก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำต่อไปและต้องเคารพสิ่งแวดล้อม พวกเราปริ้นท์กระดาษมากมายในแต่ละฤดูกาล แต่ทุกๆคนก็ทำงานในเครื่องมือสื่อสารมากมาย สามารถดูผลการแข่งในแท็บเล็ตได้และเขียนข่าวในแลปท็อป 
       อย่างไรก็ตาม ฉันประกาศไว้ว่าจะไม่ปริ้นท์ใส่กระดาษออกมาถ้าไม่จำเป็นจริงๆ และไม่มีใครออกมาบ่นในเรื่องนี้เลย"

      ฟรีเน่ยังเป็นที่ปรึกษานอกสนามอีกด้วย ในความเป็นจริง มีนักศึกษาหลายคนในมหาวิทยาลัยที่อยากจะเป็นนักข่าว จึงติดต่อเธอเพื่อขอสัมภาษณ์
      
       "ในปีที่แล้วมีนักศึกษาหลายคนเลยที่มาสัมภาษณ์ฉัน รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รู้ว่าพวกเขาสนใจในงานที่ฉันทำว่าเป็นอย่างไร และพวกเขามองฉันเป็นเหมือนบุคคลอ้างอิง ฉันกำลังสนับสนุนนักข่าวรุ่นใหม่ๆที่อยากจะมาเล่าเรื่องราวในโมโตจีพี"

      เพื่ออธิบายงานของเธอเพิ่มเติม เธอมักจะถูกถามให้อธิบายเกี่ยวกับการทำงานของเหล่าผู้หญิงในสภาพแวดล้อมนี้ ที่ถึงแม้ว่าวิวัฒนาการต่างๆจะถูกพัฒนาไปไกลแล้ว แต่เรื่องผู้ชายยังคงเป็นใหญ่ยังอยู่เหมือนเดิม

       "ฉันไม่เคยได้ยินปัญหาเรื่องเพศในสนามนะ แต่สิ่งที่ฉันเห็นคือ ความมืออาชีพคือสิ่งที่สร้างความแตกต่าง
      มีผู้หญิงหลายคนที่ทำงานอย่างมืออาชีพในแพดด็อก" ฟรีเน่เสริม

       "ตอนที่ฉันเริ่มทำงานใหม่ๆ ได้เจอเพื่อนผู้หญิงนานๆครั้ง แต่ตอนนี้เวลาที่เจอกันในพิท ถือเป็นเรื่องปกติไปแล้ว และฉันคิดว่ามันเป็นอะไรที่เลิศเลอมากกับการได้เห็นเหล่าวิศวะกรสองสามคนนั่งล้อมนักแข่ง และหนึ่งในนั้นมีผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวอยู่ตรงนั้นด้วย ในหลายๆปีที่ผ่านมา ฉันเห็นว่าการปรากฏของเหล่าสุภาพสตรีทั้งหลาย กลายเป็นเรื่องปกติ"

       ความกระตือรือร้นที่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของโลกในสนามแข่งรถ และการได้รับประสบการณ์ที่เธอไม่เคยแม้แต่จะจินตนาการ ความภูมิใจที่ได้เริ่มต้นทำโครงการใหม่ๆ ซึ่งฟรีเน่ยังไม่พอใจและมองไปยังอนาคตข้างหน้าว่า:
       
       "ฉันอยากลดสิ่งที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลงในแต่ละสนามมากขึ้น แต่มันก็ต้องการความร่วมมือจากทุกคนในสนาม กับสิ่งที่เราได้เริ่มขึ้นมาหลายปีแล้ว แต่ฉันก็อยากเห็นมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก"

       จากตัวเองในอนาคต เปิดกลับไปสู่ตัวเองในอดีต ไปยังหน้าแรกของอัลบั้มแห่งความทรงจำนี้ เพื่อสำรวจว่าอะไรคือสิ่งที่เธอเรียนรู้ที่สุด?

    "Carpe Diem ( = "seize the day", enjoy life now, live for the moment )
      ในความเป็นจริง หลักปรัชญาสอดคล้องกับชีวิตฉันเสมอ เมื่อไหร่ก็ตามที่มองเห็นความเป็นไปได้ของการทำอะไรใหม่ๆ ฉันจะทำเลยทันที! และฉันเห็นได้ภาพตัวเองอยู่ในสถานที่ที่ไม่เคยคาดฝันว่าจะได้ไป อย่างนาซ่า (NASA) หรือจะเป็นการสำรวจมุมต่างๆของเมืองในพื้นที่ห่างไกล"

       ความสามารถในการรู้ว่า ควรจะคว้าช่วงเวลาไว้อย่างไร และการรู้วิธีแสดงออกว่าอะไรที่ทำได้บ้าง บุคลิกเหล่านี้ทำให้ฟรีเน่แตกต่างจากคนอื่น 
       
       "การรู้หลายๆภาษาและทำงานได้หลายอย่าง เป็นสิ่งที่พิสูจน์ความน่าเชื่อถือของคนได้ตลอดเวลา"

       ในช่วงวันหยุดไม่กี่สัปดาห์เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ ฟรีเน่จะกลับมาเปิดประตูห้องสื่อของเรดบูลริงอีกครั้งด้วยความกระตือรือร้นและแรงจูงใจที่ทำให้เธอโดดเด่นมาตลอดหลายปี
     
    "MotoGP and its lifestyle is full of passion"

    https://www.motogp.com/en/news/2021/07/08/motogp-and-its-lifestyle-is-full-of-passion/382507

    เป็นบทสัมภาษณ์ที่อ่านแล้วรู้สึกว่าเต็มไปด้วยความหลงใหลมากมายจริงๆค่ะ สุดยอด!!!!!???

    ป.ล. ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยค่า?

    1st: 9.7.2021
    Done ✅: 17.7.2021

    สนับสนุนการแปลได้ที่

    #สครับพิมพ์พริ้ง ช่วยขัดผิว ลดคราบเหงื่อไคล ก้อนละ 89 บาท
    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Twitter: @mmaysp93

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in