เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Sanook Review 2020sanookjungrai
The Closet : บางครั้งความเจ็บปวดจากอดีตนั้นน่ากลัวกว่าผีร้าย

  • เรื่องราวของ “ซังวอน” (ฮาจองอู) ชายผู้สูญเสียภรรยาจากอุบัติเหตุอันน่าสลดใจ เขาตัดสินใจพา “อีนา” (ฮอยูล) ลูกสาวย้ายเข้าบ้านหลังใหม่ ด้วยความหวังที่จะซ่อมแซมความสัมพันธ์ที่แตกสลายให้กลับมาดีดั่งเดิม
    แต่นานวันเข้า กลับดูเหมือนว่าเรื่องเลวร้ายกำลังจะผ่านไป อีนากลับมามีรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะได้ ราวกับว่าเธอได้พบเจอกับเพื่อนใหม่ และการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
    .
    แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อซังวอนเริ่มฝันร้าย เขาได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นจากตู้ปริศนา
    พร้อมทั้งอีนาเอง ก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ในระหว่างการตามหา “คยองฮุน” (คิมนัมกิล) ชายลึกลับก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับบอกว่า ต้นเหตุที่ลูกสาวของเขาหายไปมาจากตู้ปริศนานี้
    ซังวอนจึงต้องเลือกว่า จะเสี่ยงเปิดตู้ปริศนาสุดสยองนี้หรือไม่ ?
    และเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าภายในนั้นจะใช่ลูกสาวหรือเปล่า ?
    .
    นี่คือเรื่องย่ออย่างเป็นทางการของหนังสยองขวัญ ที่มีการนำไปเปรียบเทียบว่าเหมือนกับ The Conjuring ของ James Wan เลยทีเดียว
    อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดนัก แต่ส่วนที่มีความคล้ายกัน มันก็ไม่ใช่แค่ความเป็นหนังสยองขวัญหรือการไล่ผี แต่กลับเป็นเรื่องราวของครอบครัวที่มีปัญหาภายใน หรือความเจ็บปวดจากอดีตร่วมกัน
    .
    ใน The Conjuring ทั้ง 2 ภาค นอกเหนือจากภาพจำที่ ผีร้าย แอนนาเบล หรือการไล่ผี อีกอย่างนึงที่น่าสนใจคือเรื่องราวของครอบครัวนี้
    ทั้ง ครอบครัว Perron ในภาคแรก ที่ถูกผีร้ายเจ้าของที่เดิมสาปบ้านที่เข้าไปอาศัยจนวงแตกต้องไปขอความช่วยเหลือจาก Ed และ Lorraine Warren หรือ ภาค 2 ที่ครั้งนี้ ต้องมาตบกับบรรดาผีในบ้านผีสิงของครอบครัว Hodgson ซึ่งสุดท้ายด้วยพลังแห่งความรักพวกเขาก็เอาชนะได้ในที่สุด
    .
    จะเห็นได้ว่า แก่นจริงๆของ The Conjuring คือเรื่องราวปัญหาครอบครัว ทั้งเล็ก ๆ น้อย ไปจนถึงปัญหาใหญ่ ๆ โดยมีผี เป็นเครื่องปรุงรส
    .
    เกริ่นมาเสียยืดยาวก็เพราะว่า The Closet สามารถนำแก่นจริง ๆ ของ The Conjuring มาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม นั่นคือเรื่องของปัญหาครอบครัว โดยมีบรรดาผี ๆ เป็นเครื่องปรุงรสให้หนังไม่จืดชืด เป็นตัวขยายภาพของปัญหาที่ตัวละครต้องเจอ เพราะตัวละครหลักของหนัง ซังวอน ผู้เป็นพ่อ และ อีนา ลูกสาว ต่างมีความสัมพันธ์ที่แตกสลาย
    ซึ่งถือว่าในส่วนนี้หนังเล่าออกมาได้ดี เมื่อเทียบกับเวลาที่จำกัด
    เราจะเห็นความห่างเหินของตัวพ่อลูก ผ่านตุ๊กตาที่พ่อซื้อให้ และความอ่อนไหวของตัวลูกที่มองว่าตุ๊กตาคือสัญญะของ ”ความห่างเหิน” ที่คนพ่อมอบให้
    .
    ว่ากันตามตรง นี่เป็นหนังผีที่แทบทั้งเรื่อง ถูกเคลือบไปด้วยการโหยหาความรักของตัวละคร และการพยายามแก้ไขในสิ่งที่เคยทำพลาดไป
    ซึ่งตัวหนังได้แสดงให้เห็นจากการที่คนพ่อ พยายามทำทุกอย่างเพื่อตามหาลูกสาวที่หายไป จนเจอทั้งคนดีและคนไม่ดี
    ส่วนผลลัพธ์ จะเป็นเช่นไร ... ต้องไปดูเอาเอง
    .
    เห็นได้ชัดว่าในยุคหลัง ๆ ที่ผ่านมา หนังเกาหลีหลาย ๆ เรื่อง เลือกประเด็นครอบครัวพ่วงด้วยชนชั้นมานำเสนออยู่เสมอ
    ตั้งแต่ Parasite หรือ Train to Busan และถือว่านำเสนอได้ดี แถมยังพ่วงกับปมของตัวละครที่มีอดีตอันเจ็บปวดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนดูรู้สึกอินไปกับหนังได้ไม่ยาก เพราะทุกคนล้วนมีอดีตทั้งสิ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า เราเลือกที่จะจมอยู่กับมัน หรือ จะเลือกที่จะก้าวต่อไป
    แน่นอนว่าการก้าวต่อไปมันจะยากลำบาก แต่ก็อาจจะดีกว่าจมอยู่กับอดีต
    เพราะท้ายที่สุด ความเจ็บปวดทั้งหมดมันก็จะค่อย ๆ เจ็บน้อยลง เหมือนเส้นทางในหนังที่มี Happy Ending รออยู่ทุกเรื่องนั่นแหล่ะ
    .
    .
    .
    .
    .
    Ad : แมวดำที่ทางแยก

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in