เมื่อครั้งสมัยพุทธกาลนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ผู้บูชาไฟ
กำลังบำเรอการบูชาไฟอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำสุนทริกา ครั้งนั้นแลสุนทริกภารทวาชพราหมณ์ บูชาไฟบำเรอไฟ แล้วลุกขึ้นจากอาสนะ เหลียวดูทิศทั้งสี่โดยรอบ
ด้วยคิดว่า ใครหนอแล ควรบริโภคข้าวปายาส ที่เหลือนี้ สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ได้เห็น
พระผู้มีพระภาคประทับนั่งทรงคลุมพระกายตลอดพระเศียรอยู่ที่โคนไม้แห่งหนึ่ง
จึงถือเอาข้าวปายาสที่เหลือด้วยมือซ้าย ถือเต้าน้ำด้วยมือข้างขวา เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคได้ทรงเปิดพระเศียรออก เพราะเสียงฝีเท้าของสุนทริกภารทวาชพราหมณ์
ครั้งนั้น สุนทริกภารทวาชพราหมณ์คิดว่า ท่านผู้นี้เป็นพวกคนโล้นๆ ดังนี้แล้ว ปรารถนาจะกลับ
ลำดับต่อม สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ดำริว่าแม้พราหมณ์บางพวกในโลกนี้ก็เป็นคนโล้น ผิฉะนั้นเราพึงเข้าไปถามถึงชาติ ทีนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ท่านมีชาติอย่างไร ฯพระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๕
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
ภารทวาชพราหมณ์ก่อไฟแล้วตกแต่งของที่ควรบูชา อยู่ในนิเวศน์ ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาค
เสด็จเที่ยวบิณฑบาตตามลำดับตรอก ในพระนครสาวัตถี เสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของอัคคิก
ภารทวาชพราหมณ์ อัคคิกภารทวาชพราหมณ์ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จมาแต่ไกลทีเดียวครั้น
แล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า หยุดอยู่ที่นั่นแหละคนโล้น หยุดอยู่ที่นั่นแหละสมณะ หยุด
อยู่ที่นั่นแหละคนถ่อย ฯ
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๕
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in