ไนจีเรียในอดีต สมัยที่ยังถูกปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการทหารนั้น นับได้ว่าเป็นสถานที่แห่งฝันร้ายของใครหลายคน ที่ซึ่งประชาชนถูกกดขี่ข่มเหง ถูกทำร้าย หลายครอบครัวต้องสูญเสียผู้เป็นที่รักไป และเหยื่อผู้บริสุทธิ์อีกมากมายถูกสังเวยไปในช่วงเวลาอันยากลำบากนั้น เรื่องสั้นเรื่องนี้ The American Embassy หนึ่งในสิบสองคอลเล็คชั่นเรื่องสั้น The Thing Around Your Neck โดยนักเขียน Chimamanda Ngozi Adichie ชาวไนจีเรีย เธอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศของเธอเองผ่านมุมมองของครอบครัวหนึ่ง สามีผู้เปิดโปงความชั่วร้ายของรัฐบาลเผด็จการทหาร กลับกัน ภรรยาและลูกชายตัวน้อยของเธอต้องรับกรรมในสิ่งที่เขาได้กระทำ

           เรื่องสั้นเรื่องนี้ ผู้เขียนแสดงให้เห็นถึงประเด็นอ่อนไหวหลายอย่างตัวละครสามีผู้เป็นนักข่าวน้ำดีกล้าที่จะเผชิญหน้ากับรัฐบาลและเผยแผ่ความจริงสู่สาธารณะชนในสายตาประชาชนด้วยกันเองเขาอาจเป็นฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมแล้วในมุมมองของฝ่ายตรงข้ามล่ะ แน่นอนเขาเป็นศัตรูที่ต้องถูกกำจัด นี่นับเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเขาสามารถเลือกที่จะปิดปากเงียบและใช้ชีวิตอย่างไร้อิสระกับครอบครัวต่อไปหรือเสียสละตนเองและครอบครัวเพื่อผลประโยชน์ของคนหมู่มากผู้เขียนรีวิวเองก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นผิดหรือควร แต่แน่นอนว่าเขาถูกมองเป็นชายที่ไม่อาจให้อภัยได้โดยครอบครัวของเขาเองภรรยาและลูกชายของเขาถูกคุกคามโดยคนของรัฐบาล ในขณะที่ตัวสามีเองหลบหนีออกนอกประเทศไปได้อย่างปลอดภัยและสุดท้ายผู้เป็นลูกชายต้องถูกสังเวยชีวิตเป็นเหยื่ออารมณ์ของรัฐบาลป่าเถื่อน ผู้เป็นแม่ที่ต้องเผชิญกับความโศกเศร้าและไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเป็นธรรมในการหลบหนีออกนอกประเทศเหล่านี้คือผลลัพธ์จากผู้เป็นพ่อได้กระทำ เขาอาจเป็นนักข่าวที่ดี แต่ในฐานะสามีและพ่อล่ะเขาอาจล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

            เหตุการณ์ในเรื่องราวนี้อาจฟังเป็นเรื่องใกล้ตัวของคุณผู้อ่านหลายๆท่านรวมถึงผมด้วยเช่นกัน(ถ้าเราอยู่ในประเทศเดียวกันน่ะนะ//ฮา) อยากให้ผู้อ่านทุกคนลองจินตนาการว่าหากได้เป็นตัวละครสามีในเรื่องนี้ ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เราจะตัดสินใจอย่างไรสิ่งนี้จะช่วยให้เราเข้าถึงและเข้าใจความรู้สึกในเรื่องราวได้มากขึ้น ถ้าคุณมีพลังพอที่จะทำให้เผด็จการสั่นคลอนคุณจะเลือกทางไหนระหว่างนิ่งเฉยรอวันที่จะตกเป็นเหยื่อเสียเอง หรือรวบรวมความกล้าออกมาสู้เพื่อความถูกต้องออกมาเรียกร้องสิทธิ์ที่พึงควรได้รับ แน่นอนมันคงเป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่ายเพราะท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีใครล่วงรู้อนาคตและผลลัพธ์ที่แท้จริงได้เลย สุดท้ายนี้ผมมองว่าเรื่องสั้นเรื่องนี้นับเป็นผลงานทรงคุณค่าควรค่าแก่การศึกษา ทั้งในแง่ของการเขียน เนื้อเรื่อง และการถ่ายทอดอารมณ์ ได้เปิดโลกในอีกมุมหนึ่ง และเป็นเรื่องสั้นที่ผมอยากให้ผู้อ่านรีวิวนี้ทุกท่านไปลองหาอ่านเข้าถึงและดำดิ่งสู่โลกแห่งความโหดร้ายของเผด็จการ และลองวิเคราะห์กันครับ "The American Embassy"