เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ฝึกงาน ● บ้าน ● ออฟฟิศNet Rintira
โฮมออฟฟิศ
  • 12 มิถุนายน 2562

             วันนี้ตื่นเต้นมากที่จะได้ไปที่ทำงานเป็นครั้งแรก หลังจากติดต่อพูดคุยกับพี่หมิวผู้ซึ่งเป็นคนรับและดูแลเราในการฝึกงานครั้งนี้ ตื่นเวลา 05:00 น. เช่นเคย เนื่องจากบ้านอยู่เขตลาดพร้าว ขึ้นชื่อว่ารถติดอันดับต้น ๆ ของเมืองหลวงแห่งนี้ ในช่วงเช้าพี่หมิวมีประชุมงานที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี จึงนัดไปเจอกันที่นั่นก่อน แล้วค่อยไปออฟฟิศ เริ่มประชุมช่วงเช้าเวลา 09:00 น. ซึ่งเราได้รับอนุญาตในการเข้าร่วงฟังการประชุมด้วย การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมขององค์กรขนาดใหญ่กับบริษัทออแกไนซ์ของพี่หมิว ภาพในหัวตอนนั้นคิดไว้ว่าต้องเป็นการประชุมที่ค่อนข้างตึงเครียด แต่เปล่าเลย ผู้เข้าร่วมประชุมยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดีกันถ้วนหน้า ทุกคนดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ทำให้บรรยากาศการประชุมช่วงเช้าวันนั้นผ่านไปได้ด้วยดี มีการตกลงรายละเอียดหลาย ๆ อย่าง เช่น ของที่ระลึกใหกับแขกในงาน รวมไปถึงการจัดคิวการดำเนินงานต่าง ๆ การเข้าร่วมประชุมครั้งแรกสำหรับเด็กฝึกงานคนนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีเหตุการณ์ตึงเครียดหรือน่ากลัวตามที่เคยจินตนาการเอาไว้แต่อย่างใด เมื่อจบการประชุม พี่หมิวจึงพาออกเดินทางไปยังออฟฟิศของเรา ซึ่งไม่ไกลจากกระทรวงสาธารณสุขมากนัก เพียงแต่พี่หมิวต้องไปทำธุระที่เกษตรนวมินทร์ก่อน เด็กฝึกงานอย่างเราเลยได้ติดสอยห้อยตามไปด้วย เมื่อถึงที่ทำธุระ พี่หมิวให้รอในรถเฉย ๆ ไม่ต้องตามลงไป เวลาผ่านไป 10 กว่านาที พี่หมิวถือกระดาษกองใหญ่กลับเข้ามาในรถพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "นี่งานหนูวันนี้นะลูก" นาทีนั้นพยายามเก็บสีหน้าความตื่นเต้นเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เนื่องจากกังวลเหลือเกินกลัวจะทำอะไรผิดพลาด เมื่อได้ยินดังนั้นจึงรับเอางานกองนั้นมาวางบนตักพร้อมกับเปิดดูหน้าแรก เมื่อเปิดหน้าแรกก็เจอคำพิมพ์ผิดเสียแล้ว เปิดพลิกไปพลิกมาตรวจดูผ่าน ๆ ขณะนั่งรถไปยังออฟฟิศ เนื่องจากปริมาณรถยนต์ที่ไม่หนาแน่นและวิธีการขับรถที่ค่อนข้างเร็วของพี่หมิวทำให้ไม่นานนักเราก็ถึงออฟฟิศ ออฟฟิศที่ว่านี้มีลักษณะเป็นบ้านในโครงการของหมู่บ้านทั่วไป พี่หมิวบอกว่าที่นี่เป็นโฮมออฟฟิศของเรา เมื่อเข้าไปถึง พี่หมิวจัดแจงเอาของที่ไม่ใช่งานออกจากโต๊ะให้เรียบร้อย สังเกตเห็นเอกสารหลายแผ่นวางเรียงอยู่บนโต๊ะ พี่หมิวให้เริ่มงานบนโต๊ะตัวนี้นี่เอง พี่หมิวอธิบายงานว่าให้เราตรวจความถูกต้องของการสะกดคำ การใช้คำ เมื่อพี่หมิวพูดเสร็จก็ยื่นปากกาแดงมาให้หนึ่งด้ามพร้อมกับบอกว่า "ตามสบายเลยนะคะ" งานในวันนั้นเป็นแผ่นพับและคู่มือของสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รวม ๆ แล้วประมาณ 50 กว่าหน้า เมื่อเริ่มทำงานไปได้สักพักพี่หมิวและพี่หนึ่งซึ่งเป็นผู้ช่วยของพี่หมิวมีธุระต้องออกไปข้างนอก โฮมออฟฟิศแห่งนี้จึงต้องถูกฝากไว้กับเด็กฝึกงานที่เพิ่งมาฝึกงานเป็นวันแรก พี่หมิวเปิดทีวีจอยักษ์ไว้ให้ บนหน้าจอฉายภาพนักร้องนักดนตรีกำลังเล่นเพลงเพราะ ๆ ที่เรารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี
     พี่หมิวบอกว่าสั่งอาหารไว้ให้เรียบร้อย อีกไม่นานคงมาถึง ให้เราจัดการเองได้เลย ทำตัวให้เหมือนบ้านตัวเอง เวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที มีรถมาส่งอาหารหน้าบ้าน และหลังจากนั้นมีรถเข้ามาส่งของ แน่นอนว่าเด็กฝึกงานที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลบ้านนั้นย่อมทำตัวให้เหมือนบ้านตัวเองโดยการเซ็นรับของพร้อมกับแสตมป์บัตรให้กับพนักงานส่งของราวกับเป็นบ้านตัวเองจริง ๆ เพราะพี่หมิวไม่ได้บอกเลยว่าจะมีของมาส่ง หรือแม้กระทั่งที่แสตมป์บัตรอยู่ส่วนไหนของบ้าน จนถึงตอนนี้ยังแปลกใจตนเองอยู่ที่ทำตัวได้เหมือนเจ้าของบ้านมากขนาดนั้น แน่นอนว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง อาหารที่พี่หมิวสั่งมาให้คือผัดไทย
     ไม่รีรอที่จะจัดการรีบกินและรีบทำงานต่อ เวลาดำเนินไปเรื่อย ๆ เมื่องานเสร็จแล้วยังคงตรวจงานซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่างรอพี่หมิวกลับมา นักร้องในทีวียังคงร้องเพลงต่อไปเรื่อย ๆ ราวกับวันนี้จะไม่หยุดร้อง เวลาประมาณ 16:30 น. พี่หมิวกลับมาตรวจงานและบอกให้เราเอางานกลับบ้านไปด้วย 1 ชุด เผื่อมีอะไรต้องตรวจเพิ่ม พี่หมิวใจดีมากเพราะพี่หมิวขับไปส่งถึงสถานีรถไฟฟ้า แต่งานยังไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อถึงบ้านจึงตรวจงานเพิ่มและสแกนจุดที่ต้องแก้ให้พี่หมิวเพิ่ม สรุปได้ว่าวันแรกงานทั้งหมดจบลงที่เวลาประมาณ 21:00 น.  

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in