เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Dear My Previous MeNuttyyttuN
ธรรมชาติหมายเลข I
  • Välkommen till Kronskrogen-Strenby äng!

    ถ้าใครเดินป่าหรือพวก Natural Trails ที่ประเทศไทยมาก่อนจะรู้เลยว่า การเดินเข้าไปในซักที่หนึ่งแม่งโคตรจะลำบาก ทั้งในแง่ของการที่จะไปให้ถึงในแต่ละที่ ป้ายบอกทางก็ไม่ค่อยจะมี ยิ่งไปกว่านั้นทางเดินก็ไม่ชัดเจน ส่วนมากเวลาไปที่ก็ต้องเสียเงินเยอะแยะกว่าจะได้เดินซักที ความปลอดภัยก็ดูจะน้อยตามไปด้วยเช่นเดียวกัน มันเลยทำให้เวลาไปเดินป่าในต่างประเทศส่วนมาก เรามักจะกล้าๆ กลัวๆ ในการเดิน แต่ในขณะที่การเดินมาที่ป่าแห่งแรกในสวีเดน (ขอเรียกว่าป่าละกัน แต่มันเหมือนสวนขนาดใหญ่กลางเมือง) กลับแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง เพราะว่าทุกคนสามารถเดินเข้าไปได้เลยแบบไม่ต้องขออนุญาต เส้นทางต่างๆ ก็ถูกทำไว้ให้เดินอย่างง่ายดาย มีทางเดินพร้อมกับป้ายบอกเส้นทางอย่างชัดเจน อยากเดินสั้น อยากเดินไกล ก็แค่เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ เท่านั้นเอง เราอยากให้ประเทศไทยมันง่ายๆ แบบนี้บ้าง แต่ถึงจะสะดวกสบายขนาดนี้ สามารถเดินจากบ้านคุณป้ามาแค่ประมาณ 10 นาที และติดกับถนนใหญ่ พอเดินเข้าไปก็พบกับความเงียบสงบ เหมือนป่าแห่งนี้อยู่ไกลจากเมืองเสียเหลือเกิน เพียงแค่ลมพัด ทำให้ใบไม้เสียดสีกันจนเกิดเสียงดัง เราก็ขนลุกซู่เลยทีเดียว เรายังพกความกลัวมาจากประเทศไทยเหมือนเดิม ทำไมเราจึงรู้สึกไม่ปลอดภัยเวลาเดินในป่า เมื่อเราอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ มันคือจุดตั้งต้นดั้งเดิมของชีวิต เราควรจะต้องรู้สึกปลอดภัยมากกว่าด้วยซ้ำ มนุษย์ต่างหากที่น่ากลัว เราต่างหากที่ไม่เคยชินกับมัน เราทุกวันนี้ทุกทำให้อยู่ห่างจากธรรมชาติออกไปเรื่อยๆ ทุกคนสนใจเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากขึ้น โลกทุนนิยมมันก็เป็นแบบนี้เสมอ ป่าคือหนทางแห่งความสุขง่ายๆ และนอกจากนั้นแล้วยังฟรีอีกต่างหาก (บางที่แหละที่ทำเพื่อการค้า) เรารู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ได้กลับมาเดินท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ บนพื้นดินที่เป็นดินจริงๆ กลิ่นของต้นไม้และดอกไม้อบอวลอยู่รอบตัว อากาศที่บริสุทธิ์ เราเดินไปเรื่อยๆ หลับตาเดินบ้าง จนหลงออกจากเส้นทางหลักบ้าง  สูดอากาศเมืองหนาวเข้าปอดแบบเต็มๆ เราก็คงยังเดินไปเรื่อยๆ เส้นทางหลักระยะสั้น 5 กิโลเมตร จะพาเราไปเจอกับทุ่งหญ้าที่เหมือนเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ ที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ขนาบทั้งสองฝั่ง เมื่อไปถึงตรงนั้น มันเป็นบริเวณที่ลมพัดเย็นมากที่สุด เราเลยไปหยุดยืนที่ตรงทางเดินตรงกลางระหว่างทุ่งทั้งสองฝั่ง แล้วหลับตาลง สูดลมเข้าปอด ปล่อยให้สายลมพัดความรู้สึกที่หนักอึ้งทั้งหลายออกไป กางแขนรับความเย็นให้ร่างกายให้ได้รับความสดชื่นยามเช้า เรายืนนานขนาดไหนก็ไม่รู้จนกระทั่งได้ยินเสียงคนเดินมาใกล้ เราลืมตาขึ้นในขณะเดียวกับที่เขาเดินผ่านเราไปพร้อมพ่นภาษาสวิดิชใส่ เราได้แค่พูดว่า สวัสดีในภาษาสวิดิชเท่านั้นเอง  แล้วเราก็รีบเดินกลับไปที่บ้านเพราะว่านัดคุณป้ารอบอาหารมื้อเที่ยงไว้แล้ว เดินต่อไปๆ






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in