สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนที่กลับเข้ามาเจอกันนะคะ มาต่อจากคราวที่แล้วว่าระหว่างที่รอวีซ่า เรามีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ตรงนี้เราจะรวบรวมจากประสบการณ์ของตัวเองและเพื่อน ๆ ที่ไปฝึกที่เดียวกันด้วยนะคะ
โดยเราจะแบ่งเป็นแต่ละ sections ว่าเราได้เตรียมหรือควรเตรียมอะไรไปบ้าง
เตรียมสำหรับการฝึกงาน
1. laptop/ipad สองสิ่งนี้ถือว่าจำเป็นมาก ๆ เพราะว่าทางสถานทูตฯ จะไม่มีให้นิสิตนักศึกษานะคะ ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมไปเองเพื่อจะได้ทำงานที่ได้รับมอบหมาย หรือทำโปรเจ็คที่ต้องทำส่งมหาวิทยาลัยค่ะ
2. อุปกรณ์เครื่องเขียนต่าง ๆ ใช้จดรายละเอียดต่าง ๆ เวลาบรีฟงาน ตรงนี้ไม่จำเป็นมากเท่าไหร่ แล้วแต่คนเลยว่าจะเอาไปหรือไม่เพราะบางคนก็ชอบเขียนในไอแพดมากกว่า หรือบางทีก็บรีฟไม่ยาวค่ะถ้าใครชอบจำมากกว่าก็อาจจะไม่จำเป็น
3. ชุดนิสิต/นักศึกษา การฝึกงานที่สถานทูตฯปกติแล้วก็จะแต่งกายชุดนักศึกษา แต่บางทีก็อาจจะมีอนุโลมให้แต่งเป็นชุดสุภาพได้ เพราะบางทีก็มีนักศึกษาไทยในมาเลเซียมาฝึกบ้างและมหาวิทยาลัยในมาเซียก็ไม่มีเครื่องแบบ เลยต้องแต่งกายให้สุภาพและเรียบร้อยพอค่ะ
4. ถ้าใครไม่มั่นใจเรื่องภาษาก็อยากให้ลองทบทวนนิด ๆ หน่อย ๆ ก่อนไปนะคะ เพราะถึงส่วนใหญ่พี่ ๆ ที่ทำงานในสถานทูตฯ จะเป็นคนไทยก็จริง แต่ผู้ที่เข้ามาติดต่อฝั่งกงสุลก็มีชาวต่างชาติจำนวนมาก และเราต้องใช้ชีวิตประจำวันท่ามกลางคนมาเลเซียทุกวัน ดังนั้นลองฝึกฝนให้เกิดความเคยชินก่อน ก็จะลดความตื่นเต้นลงได้เยอะเลยตอนที่คุยกับชาวต่างชาติจริง ๆ ภาษาที่ใช้ส่วนใหญ่ในมาเลเซียก็จะเป็น ภาษาอังกฤษ มลายู และจีนค่ะ
5. อันนี้เป็น optional นะคะ สำหรับคนที่มีสูทอยู่แล้วอาจจะเอาไปด้วย เพราะบางช่วงที่ไปฝึกงานทางสถานทูตฯ อาจจะมีการจัดงานที่เป็นทางการ เจ้าหน้าที่หรือนักศึกษาฝึกงานทุกคนก็จำเป็นที่จะต้องใส่ชุดที่เป็นทางการค่ะ (แต่ไม่แนะนำให้ซื้อแล้วเอาไปโดยเฉพาะนะคะ เพราะบางทีอาจไม่ได้ใช้เลยค่ะ เอาไว้ไปซื้อที่โน่นตอนที่จะใช้ก็ยังทันน้า)
เตรียมสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน
1. adapter เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนะทุกคน มันจำเป็นจริง ๆ อย่าได้ชะล่าใจว่าค่อยไปซื่้อที่โน่นเอาก็ได้ เพราะมันอาจจะหายากมากมาก ๆ ที่ตรงกับหัวชาร์จหรือปลั๊กไฟแบบไทยค่ะ ตอนนั้นเราลืมเอาไป หาซื้อวันแรกไม่ได้เลย ดีที่เพื่อนเอาไปสองอันก็เลยได้ยืมใช้ก่อน ดังนั้น ถ้าสามารถหาซื้อได้ก่อนก็ซื้อไปก่อนดีกว่าค่ะ
2. power bank อยู่ต่างที่ต่างถิ่นแนะนำว่ามีไว้ก็ดีค่ะเผื่อแบตหมดจริง ๆ จะได้มีไว้สำรอง เผื่อฉุกเฉินนะคะ เพราะไม่เหมือนที่ไทยที่จะชาร์จที่ไหนก็ได้ หรืิถึงจะชาร์จได้ก้ต้องพก adapter อยู่ดี
3. รองเท้า ตรงนี้หลาย ๆ คนอาจจะงงว่าก็ต้องเอารองเท้าไปอยู่แล้วรึเปล่า? ก็จริงค่ะ แต่จะบอกว่ามาเลเซียฝนตกค่อนข้างบ่อย และยิ่งช่วงที่เราไปประมานเดือน พฤศจิกายน-มีนาคม ฝนก็ตกหนักเหมือนกัน ดังนั้นถ้าโดนน้ำแล้ว ก็อาจจะแห้งยากและอับค่ะ ถ้าใครคิดว่าจะเอาไปแค่คู่เดียวเราว่าเอาไปเผื่ออีกสักคู่ก็ดีนะ
4. ยา ไม่ว่าจะเป็นแก้ปวดท้อง แก้ปวดหัว ยาดม ยาหอม ยาหม่อง เอาไปให้หมดค่ะ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงค่อนข้างบ่อย เช้า-กลางวันร้อนมาก แต่ตกเย็นมาฝนตก เป็นแบบนี้เกือบสัปดาห์ บางคนที่แพ้อากาศก็อาจจะมีเจ็บป่วยบ้าง ถ้าใครไม่รู้จะเอายาอะไรไปบ้าง เราแนะนำว่าไปหาเภสัชให้เขาแนะนำค่ะว่าควรเอายาอะไรไปบ้าง
5. ยาประจำตัว (อันนี้จากประสบการณ์ของเพื่อนเรานะคะ) ถ้าใครมีโรคประจำตัวที่ต้องพบแพทย์ทุกเดือนแล้วต้องใช้ยาประจำ เช่น โรคซึมเศร้า แพนิค ก็แนะนำให้คุยกับหมอตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้ตกลงกันเรื่องการจ่ายยา เพราะถ้าไม่อย่างนั้นการส่งยาจากประเทศไทยมาประเทศมาเลเซียก็อาจจะเป็นเรื่องที่ยากเพราะยาบางชนิดอาจมีส่วนผสมของสารต้องห้ามของมาเลเซียค่ะ
6. อื่น ๆ ที่เราใช้เป็นประจำทุกวัน
*****ที่เราต้องบอกว่าเอาไปเผื่อหรือซื้อไปก่อน เพราะหลาย ๆ อย่างเลยที่มาเลเซียก็แพงกว่าไทย ยิ่งของใช้ 20 บาทก็แอบหายากเหมือนกัน เนื่องด้วยค่าเงินที่สูงกว่าไทย อะไรประหยัดได้ก็ประหยัดก่อนเพราะเราต้องไปอยู่ตั้งหลายเดือนเลย แต่ก็จะมีบางอย่างที่ถูกกว่าไทย เช่น skincare หรือแบรนด์เนม ต่างๆ ถ้าใครมีแพลนอยากช็อปก่อนกลับแนะนำให้ซื้อกระเป๋าใบใหญ่ไปเลยนะ ไม่งั้นได้ซื้อเพิ่มแน่
การหาที่พัก
เราจะบอกว่าที่พักที่มาเลเซีย จะค่อนข้างแตกต่างจากประเทศไทย ก็คือส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคอนโด แล้วแบ่งเป็นยูนิต พูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นห้องใหญ่ ๆ แล้วจะมีแบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ ไป มีครัวและพื้นที่ส่วนรวม ซึ่งจะมีหลายแบบหลายขนาดเลย ลองไปศึกษารายละเอียดกันได้เลยนะคะ เราจะเช่า 1 ห้องใน 1 ยูนิตนั้น ค่าห้องจะแพงตามขนาดห้องที่เราเช่าค่ะ โดยหลัก ๆ ก็จะเป็น
1. ห้อง เล็ก กลาง ใหญ่
2. ค่าเช่าจะรวมทั้งค่าน้ำกับค่าไฟแล้ว *แต่ จะคิดค่าแอร์แยกต่างหากนะคะ โดยถ้าเรากดเปิดแอร์ มิเตอร์มันจะทำงานทันทีค่ะ การคิดและค่าแอร์แต่ละที่ก็จะไม่เท่ากันนะคะ
3. ส่วนใหญ่ ถ้าเป็น ห้องเล็กกับกลางจะเป็นห้องน้ำรวมซึ่งใช้ร่วมกับผู้เช่าคนอื่น ๆ แต่ถ้าเป็นห้องใหญ่ก็จะมีห้องน้ำในตัวค่ะ แต่ราคาก็จะแพงกว่า
4. ในการเช่าเราต้องเช็คดี ๆ นะคะว่าคอนโดทีเราเช่านั้น เป็น mix unit หรือ female unit เพราะถ้าเป็น mix จะมีทั้งผู้ชายผู้หญิงเลย ผู้หญิงบางคนที่ไม่ได้เช่าห้องใหญ่อาจจะรู้สึกไม่ค่อยโอเคเพราะต้องใช้ห้องน้ำรวม
5. เราขอเตือนเลยว่า ก่อนที่เราจะจ่ายค่ามัดจำและเซ็นสัญญา จะต้องมีการทวนสัญญาและตกลงกันให้ชัดเจนก่อน ไม่งั้นเราจะโดนเอาเปรียบทีหลังนะคะทุกคน และพยายามหาให้ได้ agency ที่ดี ๆ ด้วยเพราะไม่งั้นชีวิตเราจะลำบากไปหลายเดือนเลยค่ะ เช่น ให้ซ่อมอะไรก็จะเก็บเงินอย่างเดียวเลยซึ่งจริง ๆ ก็ไม่จำเป็น เราโดนบ่อยมากค่ะช่วงเดือนแรก เราอยู่ต่างบ้านต่างเมืองคนพร้อมจะเอาเปรียบเราอยู่แล้ว ดังนั้น เช็คทุกอย่างให้ละเอียดก่อนนะคะ
6. การหาที่พักก็สามารถหาในกูเกิ้ลได้เลย แล้วแอด whatsApp ไปคุยกับ agency ให้เขาถ่ายทั้งรูปและวิดิโอให้เราดูก่อน +ดูสัญญาว่าโอเคมั้ย จึงค่อยตอบตกลงจองแล้วโอนเงินไปนะคะ แนะนำว่าหาที่ไกล้ ๆ ดีที่สุดค่ะ จะมีอยู่สองสามที่ที่เด็กฝึกงานไปอยู่กันเยอะเลย มีพี่ ๆ ที่ทำงานด้วย แต่ถ้าใครอยากรู้ก็เม้นมาถามกันได้นะ อย่าเหมือนเราเลยที่ไม่รู้อะไรแล้วไปเช่าได้ที่ไม่ดี agency ก็ไม่ดี ปวดหัวกับที่พักไปเกือบสี่เดือนเลยค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับวันนี้ หวังว่าเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านมาเจอกัน จะได้ข้อมูลที่ต้องการไปบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ อาจจะมีเขียนวกไปวนมาหรืองง ๆ กันบ้าง ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ เม้นมาบอกกันได้นะ แล้วเราจะมาอัพเดทต่อถึงการฝึกงานในสถานทูตและการใช้ชีวิตในมาเลเซียให้อ่านกัน หวังว่าทุกคนจะติดตามและมาเจอกันอีก แล้วติดตามกันนะคะทุกคน
***************
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in