เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Into the roomDHaeArin
มายไดอารี่: ผีในที่ทำงาน
  • เรื่องนี้เป็นเรื่องตอนที่เราทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี เราเป็นเจ้าหน้าที่งานเอกสารในโรงงาน มีเพื่อนสนิททำงานตำแหน่ง QA (เป็นผู้หญิง) ชื่อนัท เราสองคนทำงานห้องเดียวกัน โรงงานของเราเป็นโรงงานที่มีสองชั้น ชั้นล่างจะเป็นชั้นที่ใช้ในการผลิต (Production line) ส่วนชั้นบนจะเป็นที่อยู่ของพวกเราหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ โดยห้องที่อยู่ชั้นบนจะแบ่งออกเป็น 4 ห้องด้วยกัน คือ ห้อง IT, ห้องประชุม, ห้องฝ่ายประสานงานต่างๆ ประกอบด้วย ฝ่ายบุคคล ธุรการ เจ้าหน้าที่การตลาด และจป. ส่วนห้องที่ 4 เป็นห้องที่เราอยู่ จะเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด เพราะเป็นห้องรวมของเหล่าหัวหน้างานที่เกี่ยวข้องกับ Line การผลิต วิศวกรซ่อมบำรุง และฝ่ายประกันคุณภาพ รวมถึงผู้จัดการโรงงานก็จะอยู่ในห้องนี้ด้วย


    ห้องที่เราอยู่นั้น แตกต่างจากห้องอื่นๆ คือ ผนังที่หันออกมาฝั่งด้านหน้าทั้งผืน ทำจากกระจกติดฟีล์มทึบทั้งผนัง และประตูทางเข้าเป็นประตูแบบผลักทำด้วยกระจกติดฟีล์มแบบเดียวกัน คือ เวลาที่เรามองจากด้านในออกมาจะสามารถเห็นคนที่อยู่ด้านนอกได้ชัด แต่มองจากด้านนอกเข้าไปมันจะมืดๆ มองทะลุเข้าไปไม่ได้ ออกแนวเห็นเป็นเงาสะท้อนมากกว่า ส่วนห้องอื่นๆ นั้นเป็นผนังด้านหน้าทำจากไม้ปิดทึบ และประตูทางเข้าก็เป็นประตูไม้ทึบ


    แผนผังห้องออฟฟิศชั้นบน



    เนื่องจากส่วนประกอบห้องที่เป็นกระจกทึบเอื้ออำนวยต่อการแกล้งเพื่อนๆ เวลาพักกลางวันที่ทุกคนไปกินข้าว ใครที่เข้ามาก่อนจะชอบหลอกทำให้คนที่เข้ามาทีหลังตกใจด้วยการไปแอบตรงซอกต่างๆ แล้วโผล่ออกมาตอนที่เพื่อนเปิดประตูกระจกเข้ามา โดยทำเลที่ทุกคนชอบเข้าไปแอบคือซอกตู้เก็บเอกสารข้างๆ ประตูกระจกที่เปิดเข้ามานั่นแหละ

    แผนผังในห้องทำงาน (จุดตรงตู้เอกสารข้างประตู คือจุดที่ชอบมีคนไปแอบ)




    ไอ้นัท กับเราก็ชอบแกล้งคนอื่นๆ ในห้องแบบนี้เหมือนกัน นัทจะชอบไปแอบตรงตู้ แล้วทำให้คนเข้ามาทีหลังตกใจ ซึี่งส่วนใหญ่คนที่โดนพวกเราแกล้งคือ ผู้จัดการโรงงาน (หุหุ) มีอยู่มาวันหนึ่ง โรงงานเรากำลังจะมี Audit (คือจะมีคนเข้ามาตรวจโรงงาน) พวกเรา (คือนัท กับเรา) จะต้องอยู่ OT ทำงานต่อในช่วงกลางคืน ตอนเย็นวันนั้น เราสองคนก็เลยตัดสินใจว่าจะออกไปหาอะไรกินกันก่อน แล้วค่อยเข้ามาลุยงานต่อกันยาวๆ


    ตอนเย็นวันนั้นนัทก็ซ้อนมอไซค์ของเราออกไปกินข้าวด้วยกันตามปกติ กินอิ่มก็ขี่กลับมาโรงงาน ไอ้นัทก็เดินขึ้นตึกไปก่อน โดยที่เราต้องเอารถไปจอดที่จอดรถของโรงงาน พอจอดรถเสร็จสรรพ เราก็ตามนัทเข้าไปในโรงงาน ตอนนั้นประมาณหกโมงกว่าๆ บนออฟฟิศก็มืดหมดแล้ว เพราะไม่มีแผนกไหนต้องเตรียมตัวรับ Audit เหมือนพวกเรา ทุกห้องเลยถูกปิดไฟมืด รวมถึงไฟห้องโถงตรงกลางก็ไม่เปิด เราเดินขึ้นบันไดไปโดยไม่ได้เปิดไฟตรงโถงกลาง เพราะว่าชินกับโรงงานนี้แล้ว เราก็เดินขึ้นไปทั้งมืดๆ อย่างนั้น กะว่าค่อยไปเปิดไฟในออฟฟิศทีเดียว


    ตอนที่เราขึ้นไปเกือบถึงชั้นบนแล้ว ถึงได้เห็นว่าห้องของเรายังไม่ได้เปิดไฟ ทั้งห้องปกคลุมไปด้วยความมืด ในใจก็นึกสงสัยว่าทำไมไอ้นัทมันขึ้นมาถึงก่อนละทำไมมันไม่เปิดไฟวะ หรือว่ามันแอบงีบก่อนทำงานเหมือนเคย (คือปกติช่วงเที่ยงไอ้นัทจะกินข้าวเสร็จก่อน แล้วจะแอบขึ้นออฟฟิศมางีบก่อนที่จะถึงเวลาทำงาน)


    ระหว่างที่คิดเราก็เดินขึ้นไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงหน้าห้อง สายตาเราก็มองไปที่ประตูเห็นผู้หญิงร่างสูงเพรียวผมยาว ลักษณะคล้ายไอ้นัท ยืนอยู่ตรงหน้าประตู ยืนแบบยืนเฉยๆ เลย เราก็คิดว่าไอ้นัทแน่ๆ เพราะโต๊ะมันติดกับประตูเลย สงสัยมันจะเพิ่งขึ้นมา


    พอเราเดินเข้าไปใกล้ประตูมากขึ้น เงาผู้หญิงผมยาวนั้นก็กระโดดหลบเข้าไปตรงซอกตู้ที่พวกเราชอบเข้าไปแอบเพื่อนๆ กัน เราก็เลยคิดในใจว่าไอ้นัทคงกะจะแกล้งเรา และคิดว่าเราคงจะไม่เห็น 


    เราเลยวางแผนตลบหลังนัท ด้วยการค่อยๆ เดินเปิดประตูเข้าไปแบบเงียบๆ ไม่ให้มีเสียง เพราะพอมันไปแอบอยู่ตรงนั้นมันจะไม่เห็นว่าใครเข้ามา จากนั้นเราก็ย่องเข้าไปตรงซอกตู้แบบไม่ได้เปิดไฟในออฟฟิศ 


    เราค่อยๆ ย่องไปในความมืด พอถึงจุดที่ไอ้นัทมันแอบอยู่ เราก็กระโจนทั้งตัวเข้าไปตรงซอกตู้นั้น พร้อมร้องตะโกนว่า "แฮ่!!!!!!!!!!!!!!" เสียงดังมากแบบกะว่ามันต้องตกใจแน่ๆ



    แต่ปรากรฏว่าไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น ตรงที่ที่ควรจะมีไอ้นัทแอบอยู่เป็นเพียงซอกตู้ที่ว่างเปล่า...



    เราค่อยๆ เดินกลับไปเปิดไฟที่หน้าห้อง แล้วเดินกลับโต๊ะไปทำงานตามปกติ ซักพัก ไอ้นัทเดินเข้าห้องมา เราก็ทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น ทักมันไปตามปกติว่า "มึงไปไหนมาวะ" ไอ้นัทมันก็บอกเราว่ามันไปขี้มา อ่อ มิน่าล่ะนานเชียว เสร็จแล้วเราก็ทำงานไปตามปกติ วันนั้นจำได้ว่าทำงานอยู่กันจนดึกแต่จำไม่ได้ว่ากี่โมง


    พอเราทำงานเสร็จก็ยังเห็นไอ้นัทเสียบหูฟังนั่งทำงานอยู่แบบเพลินๆ ก็เลยเล่าเรื่องนี้ให้มันฟัง 


    ไอ้นัทมันไม่เชื่อ แถมยังบ่นๆ ว่าเราคงตาฝาดไปเอง ผีเผอมีที่ไหน



    "เออ กูก็ว่างั้น..." นี่คือสิ่งที่เราตอบนัท 



    เราหยิบกุญแจมอไซค์ เช็คกระเป๋าตังค์กะของใช้ส่วนตัวต่างๆ 



    "งั้นกูกลับก่อนนะมึง เจอกันพรุ่งนี้"



    กำลังจะเตรียมตัวเดินออกจากห้อง เพื่อที่จะกลับบ้าน ไปนอนให้พอ ทำตัวให้พร้อมสำหรับ Audit ในวันพรุ่งนี้



    "เฮ้ยไอ้แตเดี๋ยว!!..." 



    เราหันหลังกลับมามองไอ้นัทตามเสียงเรียก



    "มึงอยู่เป็นเพื่อนกูอีกแป๊บนึงดิ... เดี๋ยวกูก็เสร็จแล้วเนี่ย"






    ^__________________^





    จบ.
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in