เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อ่านแล้วเล่าFayathi Sorap
อ่านแล้วเล่า : มีดีบ้างไหม
  • ผู้เขียน : นพ.เทอดศักดิ์ เดชคง
    สำนักพิมพ์ : มติชน
    จำนวนหน้า : 127 หน้า
    ราคา : 100 บาท


         ย้อนกลับไปสมัยมัธยม มีเพื่อนคนหนึ่งชอบเหน็บเราว่า "เธออ่ะ อ่านหนังสือเหมือนคนแก่ อายุสิบห้าสิบหกมีใครเขาอ่านพระไตรปิฎกบ้าง..."
         ..ก็นั่งหัวโด่ให้เธอจิกกัดอยู่นี่ไง ทำไมจะไม่มี


         และหนึ่งในหนังสือเล่มที่ถูก qualify ว่าเป็นหนังสือคนแก่ก็คือ "มีดีบ้างไหม" หนังสือแนวจิตวิทยาที่เขียนโดยคุณหมอเทอดศักดิ์ เดชคง คนนี้นี่เอง
      
         วันดีคืนดี เก็บบ้าน เจอหนังสือเก่าเล่มนี้ เลยเอามาอ่านใหม่ อ่านแล้วจึงนำมาสู่กระบวนการแปรความคิดของตัวเองให้กลายเป็นบทความต่อไป
      

         "มีดีบ้างไหม" เป็นหนังสือแนวจิตวิทยาที่กระตุ้นความคิดของผู้อ่านให้มองโลกในแง่ดี โดยคุณหมอ เทอดศักดิ์ได้ชี้ให้เห็นประโยชน์ของการมองโลกในแง่ดีว่ามีอย่างไร ที่เห็นเด่นชัดที่สุด คือมันใช้ร่วมกับการรักษาอาการและ/หรือโรคซึมเศร้าได้

      
         เรื่องของเรื่องคือคุณหมอเธอเป็นจิตแพทย์ และในบรรดาคนไข้ที่มาเข้ารับการรักษา ก็มีที่เป็นโรคซึมเศร้า ผู้ป่วยโรคซึมเศร้านี้จะมีลักษณะอาการอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ มองโลกในด้านลบ และมองตัวเองไร้ค่า(แม้ก่อนป่วยจะเคยเก่งกาจเพียงใดก็ตาม) เพราะฉะนั้น เพื่อปรับทัศนคติให้ได้ จึงต้องใส่ความคิดในแง่ดีเข้าไปแทนที่ พยายามให้ผู้ป่วยมองตนเองในด้านดี พยายามให้เห็นความดีของความสำเร็จเล็กๆน้อยๆที่ตั้งเป้าไว้ในแต่ละวัน เพื่อฟื้นความมั่นใจในตัวเองกลับคืนมา

         นอกจากการรักษาซึ่งเป็นหน้าที่หลัก อีกภารกิจหนึ่งของจิตแพทย์ท่านนี้คือ การไปบรรยายตามสถานที่หรือที่ทำงานต่างๆ ซึ่งในยุคที่ไปบรรยายนั้น(ปี 2547 หรือก่อนหน้านั้น) กิจการต่างๆใกล้เจ๊งกันมาก จึงเจอปัญหาที่ต้องหาข้อดี(?)ของการกำลังจะตกงานไปพูดให้พนักงานฟังและเข้าใจให้ได้ พูดอีกนัยหนึ่งคือพูดให้กำลังใจพนักงานที่กำลังจะถูกปลดออกน่ะแหละ

         และเรื่องทั้งหมดทั้งมวลนั้นเอง ก็กลายมาเป็นหนังสือเล่มนี้ ตามชื่อเรื่องที่ว่า "มีดีบ้างไหม" (วะ) ที่พยายามส่งเสริมให้ผู้อ่านค้นหาข้อดีของสิ่งที่กำลังประสบอยู่ให้ได้ เพื่อจะได้มีกำลังใจในการสู้ชีวิตต่อไป


         จะว่าไป ในอายุสิบห้าสิบหก เราก็อ่านหนังสือแก่จริงๆน่ะแหละ (ฮา)


         แต่ หลักการในหนังสือเนี่ย มันก็ยังสามารถประยุกต์ใช้กับยุคนี้ กับสิ่งที่เจอในทุกวันนี้ ได้อยู่นะ อย่างเช่น เวลาเจอปัญหา เวลาที่ต้องประสบความยุ่งยากใจในการทำงาน หากเราฝึกทักษะในการมองเชิงสร้างสรรค์ มองเห็นข้อดีของอุปสรรคที่เผชิญอยู่ได้ เราน่าจะมีกำลังใจในการต่อสู้กับมันมากกว่าการมีจิตใจห่อเหี่ยวและโฟกัสแต่เฉพาะเรื่องเชิงลบเพียงอย่างเดียว

         มีบทหนึ่งที่เราชอบมาก เนื้อหาประมาณว่า ในบางที เราก็ต้องมองโลกในแง่ร้ายเพื่อให้ตัวเองก้าวต่อไป เช่นกรณีที่เลิกกับแฟน ถ้าเราเอาแต่คิดว่าอีกฝ่ายยังรักเราอยู่ เราจะไม่สามารถ move on จะคนๆเดิมได้ เพราะฉะนั้นในกรณีแบบนี้ การสะกดจิตตัวเองไปเลยว่า เขาไม่รักเราแล้ว เขามีคนใหม่แล้ว อาจจะทำให้เราตัดใจได้ง่ายขึ้น
    ...แม้การไม่มีหวังแล้ว จะไม่สามารถลบความรู้สึกได้หมดสิ้นก็ตาม...


         เราว่า "มีดีบ้างไหม" เป็นหนังสือที่ให้กำลังใจและให้มุมมองในการมองโลกได้ดีเล่มหนึ่ง แม้อ่านไปอ่านมาจะรู้สึกก้ำกึ่งระหว่างการมองโลกในแง่ดี กับการเดินในทุ่งลาเวนเดอร์ ไปสักหน่อย คือเราว่า มันต้องฝึกแหละ เพราะโดยทั่วไปแล้วคนเรามักจะมองโลกในแง่ร้ายเสียมาก การจะกลับลำความคิดตัวเองให้ได้จึงเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน
      
         ต้องฝึกแบบทางสายกลางด้วย มองดีเกินไปก็ไม่ได้ มองร้ายเกินไปก็ไม่ดี อีก เอาเป็นว่า มองด้วยความเป็นจริง น่าจะดีที่สุดนะ


         และถ้าใครอยากหาคู่มือฝึกการมองโลกแล้วล่ะก็ หนังสือเล่มนี้อาจจะเป็นคำตอบก็ได้


         ปล. เนื่องจากว่าหนังสือเล่มนี้นั้นใกล้จะบรรลุนิติภาวะเต็มแก่แล้ว (พิมพ์ตั้งแต่ปี 2547 ค่ะ ถึงวันนี้ก็เกือบยี่สิบปีแล้ว) เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่า มันยังมีขายอยู่ที่ไหนบ้าง ยังไงลองเอาชื่อไปหาในกูเกิ้ลดูละกันนะคะ


         ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่

         https://alwaysfay.blogspot.com/2023/02/blog-post.html

         ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
         จนกว่าจะพบกันใหม่
         สวัสดีค่ะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in