เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
In my opinionBeaunt
บันเทิง.....บันทึก
  • เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูหนัง และก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบอ่านการ์ตูนเหมือนกันตั้งแต่เด็ก ดู ๆ ไปแล้วอาจจะดูเหมือนเป็นเด็กไร้สาระ เพราะว่ามันเป็นเรื่องบันเทิงทั้งสิ้น ทำไมไม่อ่านหนังสือเรียน มามัวดูหนัง อ่านการ์ตูนทำไมกัน! นี่คือสิ่งที่ผู้ใหญ่บางคนไม่เข้าใจ โดยเฉพาะพ่อของเราเอง

    ตอนเราเป็นเด็ก "เฮีย" ลูกพี่ลูกน้องของเรา คือคนแรกที่ทำให้เราชอบดูหนัง เฮียจะชอบเช่าวีดีโอหนังเรื่องใหม่ ๆ มาให้น้อง ๆ ดู ที่บ้านอาม่าเสมอ ๆ เรื่องที่เฮียเช่ามาล้วนแล้วแต่เป็นภาพยนตร์ฮอลีวูด ซึ่งเป็นซาว์ดแทร็ก แบบมีซับไทเทิ้ล ซึ่งตอนนั้นที่ได้ดูยังเด็ก ฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง เราก็เลยเอาแต่อ่านตัวหนังสือที่มันขึ้นมาในแต่ละฉาก แต่ละคำที่นักแสดงได้พูด ก็กลายเป็นฝึกอ่านไว ตาต้องไว ไม่งั้นดูไม่รู้เรื่อง ที่ตลกคือ เรื่องบันเทิงเหล่านี้ มันดันถูกบันทึกไว้ในสมองของเรา ทำให้เราเป็นคนที่หูไวฟังภาษาอังกฤษพอรู้เรื่อง ตาไว อ่านไว ได้ตั้งแต่ยังเด็ก ๆ

    หนังสือการ์ตูนก็เช่นกัน ตอนเด็ก ๆ พี่ที่มาเช่าบ้านเราอยู่นั้น เป็นคนชอบอ่านการ์ตูน เค้าชอบพาเราไปร้านหนังสือมือสองที่อยู่ซอยถัดจากบ้านของเราไป เพื่อไปหาซื้อหนังสือมาอ่าน ซึ่งเราตอนนั้นยังเด็กนัก ก็ชอบอะไรที่เป็นการ์ตูน หนังสือการ์ตูนเรื่องแรกที่เราอ่าน คือขายหัวเราะ อ่านแล้วติด แต่เอามาอ่านบนบ้านไม่ได้ เพราะว่าพ่อเราไม่ชอบให้อ่านหนังสือพวกนี้ แกบอกว่ามันไร้สาระ เอาจริง ๆ มันช่วยให้เราหัวเราะได้ด้วยนะ ต่อมาก็พวกมหาสนุก สาวดอกไม้กับนายกล้วยไข่ ที่ชอบเพราว่าลายเส้นสวย ตัวหนังสือไม่เยอะ แถมตลกอีกต่างหาก การ์ตูนสมัยนั้น มีบางหน้า ก็ลอกเลียนละครทีวี บ้างก็ล้อเลียนนักการเมืองในสมัยนั้น ซึ่งมันก็ทำให้เราได้รู้เรื่องราวข่าวการเมืองไปด้วยในตัว รู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น ๆ ทำให้เราจดจำได้อย่างง่ายดายว่า บ้านเมืองเกิดอะไรขึ้นบ้าง เวลาจะพูดให้คนขำ เค้าต้องพูดกันยังไง สิ่งเหล่านั้นล้วนบันทึกอยู่ในหัวของเรา ทำให้เมื่อเราโตมา เรายังใช้มุกตลกที่อยู่ในหนังสือการ์ตูน เข้าสังคมกับเพื่อนใหม่ ๆ ได้อีกด้วย

    เรื่องบันเทิงเหล่านี้ มันก็แล้วแต่มุมมอง และการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตของตัวเราเอง ถ้าอ่านเฉย ๆ เพื่อความบันเทิง โดยไม่นำมันมาประยุกต์ใช้ มันก็คงไร้สาระ อย่างี่พ่อเราได้บอกไว้ แต่ถ้าหากว่า เรานำสิ่งที่เราดู สิ่งที่เราอ่าน มาใช้กับชีวิตประจำวันของเราอย่างถูกวิธีแล้ว มันก็ดูเหมือนจะมีประโยชน์มากทีเดียว

    ปล. พ่อเราเป็นคนที่สอนให้เราอ่านตัวหนังสือเวลาเรานั่งรถผ่านตามสถานที่ต่างๆ พวกป้ายโฆษณา หรือซอยต่าง ๆ ที่มีป้ายบอก เห็นมะ นังรถเพลินๆ ก็ทำให้มันมีประโยชน์ขึ้นมาได้ ถึงพ่อดุ แต่พ่อก็มีวิธีสอนลูกแหละเนอะ สิ่งเหล่านั้นยังบันทึกไว้ในใจลูกคนนี้เสมอ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in