เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Novelber 2017fdfeefa
รีโมทคอนโทรล - 02/11/2017
  • รีโมทคอนโทรล- 02/11/2017

     

    ยอมรับว่าตอนแรกเขาแอบรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆที่พวกคนขับรถมาประท้วงหยุดงานเพราะนั้นมันทำให้เขาต้องเริ่มออกเดินทางในช่วงเวลาเดียวกับที่ผู้คนส่วนมากกำลังทานอาหารค่ำอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ที่ใดสักที่ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือร้านอาหารในขณะที่เขากำลังท้องร้องเพราะความหิวแต่แล้วความหงุดหงิดนั้นก็หายไปเมื่อเขาพบว่าก็เป็นช่วงเวลานี้อีกนั้นแหละที่ทำให้การจราจรไม่ติดขัดอย่างที่เคยเป็นแต่ตอนนี้ทอมไม่รู้ว่าเขาควรจะขอบคุณการรอรถแท๊กซี่ที่ยาวนานนั้นจนทำให้ผ่านช่วงเวลาที่เขากลับบ้านเป็นประจำดีหรือไม่


    “เดี๋ยวจอดตรงทางหน้าปากซอยเลยครับ”


    จากความตั้งใจที่จะทำหมูทอดง่ายๆเป็นมื้อเย็นเพราะต้องการที่จะกำจัดเนื้อหมูที่เขาหมักค้างเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานก็เปลี่ยนเป็นซื้ออะไรง่ายๆที่หน้าปากซอยเพื่อทานเป็นมื้อค่ำแทน


    ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาเพียงไม่นานรถแท๊กซี่ก็พาเขามาถึงที่หมายแต่ถ้าต้องให้เขาหิ้วท้องทำมื้อเย็นเขาคาดว่ากว่ามื้อเย็นจะเรียบร้อยหมูหมักที่เหลือนั้นคงไม่คนากับความหิวของเขา


     กลิ่นหอมของสปาเก็ทตี้มารินาล่าทำให้แค่เปิดประตูเข้าห้องพักที่ตั้งอยู่ในคอนโดขนาดกลางทอมก็รีบถอดพวกเครื่องป้องกันความหนาวออกแบบลวกๆเพิ่มความสบายอีกนิดด้วยการปลดกระดุมเสื้อกับกางเกงเพื่อคลายความอึดอัดแล้วก็นั่งลงกับพื้นหน้าโต๊ะโซฟาเอื้อมมือไปหยิบรีโมทคอนโทรลทีวีที่วางไว้กับพื้นห้องมาเปิดแล้วเลือกช่องเพื่อเพิ่มอรรถรสของอาหารมื้อค่ำและเป็นที่แน่นอนว่าช่องที่ทอมเลือกดูนั้นต้องไม่ใช่ช่องของสารคดีสัตว์ป่าอย่างแน่นอน


    ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงเรียกที่ดังมาหลายครั้งจากแอปพลิเคชั่นไลน์ดึงความสนใจของเขาจากหน้าจอโทรทัศน์ที่กำลังฉายซี่รี่ย์สืบสวนสอบสวนที่เขาชื่นชอบอยู่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เปิดอ่านเนื้อความที่ถูกส่งมานั้นโดยละเอียดเสียงโทรเข้าก็ดังพร้อมกับปิดหน้าของบทสนทนานั้นไป


    “ฮัลโหลครับพ่อ”


    “เป็นยังไงบ้าง? หายไปหลายวันเลยลูก”


    “ผมสบายดีเรื่อยๆ ไม่มีอะไรครับ”


    “พ่อนะไม่เท่าไหร่แต่ย่าเรานะสิเป็นห่วงเรามากเห็นแกบ่นว่าปกติเราต้องส่งข่าวคราวมาบ้าง งั้นเดี๋ยวเราคุยกับย่าเขาหน่อยนะพ่อกำลังเดินไปหาย่าอีกห้อง”


    “ได้ครับพ่อ”


    ดูท่าการโทรมาของพ่อในครั้งนี้จะไม่จบบทสนทนาลงในช่วงเวลาอันสั้นนี้อย่างแน่นอนเขาจึงหันไปหยิบรีโมทคอนโทรลของเครื่องอัดที่ต่อเข้าไว้กับทีวีกดบันทึกซี่รี่ย์พร้อมกับหรี่เสียงของทีวีให้เบาลง


    “แม่ครับ ทอมอยู่ในสายครับ”


    “เหรอๆ ติดต่อมาแล้วเหรอ?”


    รอยยิ้มของทอมปรากฎอยู่ที่ใบหน้าทันทีที่เขาได้ยินเสียงของผู้หญิงสูงวัยที่ดูแลเขามาตั้งแต่เขายังเด็กเพราะ 2 -3 วันมานี้เขาโดนขอให้ย้ายไปช่วยอีกแผนกแทนแผนกที่เขาได้ทำเรื่องขอมาแลกเปลี่ยนเขาก็เลยค่อนข้างวุ่นวายทั้งเรื่องเอกสารที่ต้องเรียนรู้ใหม่แล้วไหนจะต้องส่งต่องานจากแผนกเก่าให้กับเจ้าหน้าที่ที่ต้องมารับช่วงต่อจากเขาอีก


    “สวัสดีครับย่า”


    “ไงตาทอมหายไปตั้งหลายวันเลยรู้ไหมว่าย่าเป็นห่วง”


    “ผมหายไป 2 วันเองนะครับ”


    “ยังจะมาต่อปากต่อคำกับย่าอีก”


    “ขอโทษครับย่าพอดีช่วงนี้ผมยุ่งนิดหน่อยครับ”


    “ถ้ามันยุ่งมากนักทำไมไม่กลับมาบ้านเราละ?”


    “ผมทำสัญญาไปแล้วครับย่า”


    “ก็กลับมาเลย เรื่องงานนั้นนะ...”


    “แม่ครับ เราพูดกันแล้วไง”


    “เธอนี่ก็จริงๆ เลย ปล่อยลูกไปที่ไกลๆแบ...”


    ไม่รู้เหมือนกันว่าโครงสร้างห้องพักที่เขาอยู่มันเป็นอย่างไรทำไมแม้ว่าเขาจะอยู่ในห้องที่ปิดมิดชิดแต่เขายังกลับรู้สึกถึงความหนาวที่อยู่ด้านนอกนั้นอยู่ดังนั้นระหว่างที่รอให้คนทั้ง 2 ในสายโทรศัพท์หยุดทะเลาะกันเขาจึงลุกเดินไปหยิบรีโมทคอนโทรลของเครื่องปรับอากาศมาปรับให้อุณหภูมิมันอุ่นขึ้น


    2 เดือนนิดๆ ที่เขาต้องมาอยู่ไกลบ้านทำให้เขาเกือบลืมเสียงทะเลาะกันระหว่างย่ากับพ่อของเขาที่มักจะดังคลอในบ้านอยู่ทุกวันถ้าเป็นสมัยก่อนเขามาที่นี่ที่ต้องคงแอบรู้สึกรำคาญเสียงเหล่านี้แต่มาตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าเขาต้องการมันเหลือเกินถ้าเขาทำได้เขาก็อยากย้อนเวลากลับไปแล้วกดอัดเสียงเหล่านี้เก็บเอาไว้ในมือถือจะได้เปิดฟังเวลาที่เขารู้สึกเหงา


    “ไม่รู้แหละตาทอมถ้าครั้งหน้าหายไปนานแบบนี้อีกย่าจะบินไปตามเรากลับมาจริงๆ ด้วย”


    “งั้นแบบนี้ผมต้องรีบหายไปอีกเพื่อให้ย่ามาหาผมดีไหมครับ?”


    “ตาทอม!!”


    “ผมล้อเล่นครับย่า อย่าอารมณ์เสียไปผมจะพยายามไม่หายไปนานแบบนี้นะครับ”


    “ให้มันจริงเถอะไม่ใช่หลอกคนแก่ไปวันๆทางนั้นดึกแล้วสิไปพักผ่อนเถอะลูก”


    “ย่าดูแลตัวเองด้วยเหมือนกันนะครับ”


    “ทอมลูก คุยกับพ่อแป้ป”


    ในขณะที่เขากำลังจะกดวางสายแล้วไปอาบน้ำเพื่อที่จะพักผ่อนหลักจากที่เหนื่อยมาทั้งวันเสียงที่จู่ๆก็เปลี่ยนมาเป็นเคร่งขรึมขึ้นของพ่อก็ทำให้เขาชะงักมือและเอาโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูอีกครั้ง


    “วันนี้แฟรงค์เขามาหาเราที่บ้าน”


    “....”


    “เขามาถามาลูกมาถามว่าลูกย้ายไปอยู่เมืองไหน”


    “......”


    “ก่อนไปทำงานที่นั้นลูกไม่ได้พูดกับเขาให้เรียบร้อยก่อนรึไง?”


    “....”


    “ทอม?”


    “ผม...ไม่ได้บอกอะไรเขาครับแล้วพ่อได้พูดอะไรกับเขาไหม?”


    “พ่อไม่ได้พูดอะไรบอกแค่ว่าลูกไม่อยู่ที่บ้านถ้ามีอะไรให้เขาไปถามจากลูกเอาเอง”


    “ผมขอโทษครับพ่อ”


    “พ่อไม่ได้ว่าอะไรที่เขาจะมาที่บ้านพ่อแค่อยากให้เราเคลียร์เรื่องให้มันจบอย่าให้มันคาราคาซังแบบนี้”


    “แล้วผมจะหาเวลาคุยกับแฟรงค์ให้เข้าใจดูครับ”


    “อื้ม งั้นดูแลตัวเองด้วยแล้วกัน”


    “ขอบคุณครับพ่อ”


    พ่อของเขาวางสายไปนานมากจนหน้าจอทีวีที่เคยฉายซี่รี่ย์ก็เปลี่ยนมาเป็นรายการขายของยามดึกแทนไปเรียบร้อยแล้วแต่ตัวของทอมเองยังคงนั่งอยู่ที่โซฟที่เดิมไม่ขยับไปไหน


    แม้ว่าภาพที่หน้าจอของโทรทัศน์กำลังพร่าเบลอเพราะดวงตาของเขากำลังเก็บกักน้ำเอาไว้แต่ภาพที่เคยเป็นภาพในอดีตระหว่างเขากับแฟรงค์กำลังฉายชัดในหัวสมองของเขา


    ภาพที่ฉายชัดขึ้นมามีทั้งภาพที่ทั้งสองคนยิ้มให้กันกอดกัน บอกรักกัน ภาพที่เขาทั้งสองคนช่วยกันทำความสะอาดบ้านหลังที่เกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของเขาทั้งสองแต่ภาพเหล่านั้นไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นี้เพราะมันฉายไปจนถึงภาพที่เขากำลังยืนร้องไห้พร้อมกับแฟรงค์แต่เหตุผลของการร้องไห้ของเขาทั้งสองมันต่างกันก็เท่านั้น


    “ไม่เอาทอม ผมไม่มีวันเลิกกับคุณ คุณอย่าได้พูดคำว่า‘เลิก’ ออกมาอีก”


    “แฟรงค์ คุณต้องฟังผมเราไม่สามารถอยู่กันแบบนี้ได้อย่างน้อยให้เวลาผม ได้โปรดให้เวลาผม”


    “คุณต้องการเวลาไปเพื่ออะไร?ผมให้ไปคุณก็จะไปมีคนอื่นใช่ไหม? ทอมที่รักคุณฟังผมนะยังไงผมก็เลือกคุณอยู่แล้วผมรักคุณทอมคุณก็รู้ คุณรู้ใจของผมดีกว่าใคร”


    “แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือสิ่งที่เรียกว่าคุณรักผมแบบนั้นหรือไง?”


    “มันก็แค่ความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!! ก็แค่สนุกไม่ใช่ความรักมันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ!!”


    การพูดจาของเขาทั้งสองคนไม่เคยเจอจุดจบที่ตรงกันและนั้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจรีบตกลงทันทีที่หัวหน้าของเขาเสนอโครงการแลกเปลี่ยนการทำงาน1 ปี ระหว่างเมืองเกิดของเขากับที่เมืองแห่งนี้


    ซ่า รายการขายสินค้าที่ฉายอยู่ที่หน้าจอของโทรทัศน์ตอนนี้ได้ถูกทดแทนด้วยภาพเม็ดละเอียดขาวดำแสดงให้รู้ว่ามันดึกเกินกว่าที่สถานีไหนจะทำงานได้แล้วทอมจึงหยิบรีโมทมาเพื่อปิดเครื่องอัดวีดีโอและโทรทัศน์


    ตอนนี้รอบตัวของเขามี ‘รีโมทคอนโทรน’ อยู่ถึง3 อัน มันแย่ตรงที่ว่าไม่มีอันไหนเลยที่สามารถใช้เพื่อปิดภาพที่กำลังอยู่ในหัวสมองของเขาได้


    ไม่มีอันไหนเลยที่สามารถใช้เพื่อกรอกลับไปในอดีตแล้วกดลบเรื่องราวที่ไม่ต้องหรือกดเพื่อข้ามเหตุการ์ณนั้นมาเพราะบางทีถ้าเรากดให้กระโดดข้ามมาได้มันคงอยู่แค่ในเศษเสี้ยวที่เล็กมากของความทรงจำและถ้ามันเร็วและเล็กขนาดนั้นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับเขาในตอนนี้ก็คงน้อยลงหรืออย่างน้อยถ้าเขากด fastforward ไปข้างหน้าได้เขาก็คงไม่ต้องมานั่งทนและรับมือกับความเสียใจอยู่แบบนี้เมื่อไหร่กันนะที่จะมีคนสร้าง ‘รีโมทคอนโทรล’ที่ทำเรื่องแบบนี้ได้สักที


    เข็มนาฬิกาที่ข้อมือชี้บอกว่าตอนนี้คือเวลาตี3 ของวันใหม่ทอมแม้ว่าจะนอนไม่หลับเขาก็คิดว่ามันก็ควรแก่เวลาที่เขาจะข่มตานอนซะทีเลิกคิดถึงเรื่องอาบน้ำเปลี่ยนแค่เสื้อผ้าแล้วล้มตัวลงบนเตียง


    ตรงหัวเตียงของทอมยังคงถูกประดับด้วยกรอบรูปที่ได้รับมาจากย่าและแน่นอนว่ามันคือรูปของครอบครัวเล็กๆของเขาที่ประกอบไปด้วย ย่า พ่อ และ แฟรงค์วันนั้นเป็นวันที่เขามีความสุขมากที่สุดเพราะมันเป็นวันแรกที่ย่าของเขายอมรับแฟรงค์มาเป็นคนในครอบครัวมันเป็นวันที่ย่ายอมรับในตัวตนที่เป็นของเขาทั้งหมดได้โดยที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น


    ว่าแล้วเรื่องรีโมทอะไรนั้นเขาว่าให้มันทำแค่หน้าที่เท่าที่มันทำอยู่เท่านี้ก็คงพอแล้วเพราะถ้าเขาเอาแต่กรอกลับไปลบเรื่องไม่ดีอย่างเช่นเรื่องที่ย่าไล่ตะเพิดเขาออกจากบ้านในวันที่เขาเอาแฟรค์ไปเปิดตัวแล้วเอาแต่กรอเดินหน้ามาหาความทรงจำที่มีความสุขเขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะยังสามารถจำความรู้สึกที่ดีใจที่คนในครอบครัวทุกคนรักเขาในวันนั้นได้มากเท่าวันนี้อีกไหม?

     

    #novelber2017 วันที่ 2 #รีโมทคอนโทรล #sweetsky

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in