เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
2018 ROAMING AROUNDA 24-HOUR TALE
6 วิธีฝึกพูดอังกฤษสมัครแอร์ง่ายๆด้วยตัวเอง
  • ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีคนถามแน็ตมาเยอะมากว่า .... 
    "พี่ฝึกภาษาอังกฤษยังไงคะ?" 
    "ทำยังไงถึงจะพูดอังกฤษได้คล่องๆคะ?"

    แน็ตถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนสองภาษาตั้งแต่เด็กๆเลยค่ะ เพราะปะป๊าเชื่อว่าภาษาสำคัญมากๆ เค้ามองว่ายิ่งพูดได้หลายภาษายิ่งดี ซึ่งภาษาอังกฤษต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก เชื่อมั้ยว่าตอนเด็กๆแน็ตได้อังกฤษเกรด 2 ถึงจะเรียนกับครูชาวต่างชาติตั้งแต่เด็กๆ สิ่งที่ได้จากการเรียนสองภาษาคือ ทักษะการฟังแน็ตโอเคมากไม่มีปัญหาเลย แต่แน็ตอ่อนแกรมม่าค่ะ ทำให้มีปัญหาด้านการเขียนและไม่กล้าพูด 

    พี๊คสุดๆตอนที่กลับไปนั่งจัดห้องเจอข้อสอบตอนช่วง Grade 8 ที่เค้าให้เติม Do/Does เห็นคำตอบที่ตัวเองตอบแล้วจะร้องไห้ Yes, she do

    นั่นก็เป็นยุคมืิดของแน็ตเองค่ะ 5555 ที่เรากล้าเอามาบอกคนอื่นแบบนี้เพราะเราอยากให้ทุกคนรู้ว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากค่ะ อย่าท้อเนอะ ง่ายกว่าดิฟเลขอีก 

    ถ้าถามว่าแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาอังกฤษของแน็ตคืออะไร คำตอบง่ายๆเลยคือเวลาแน็ตไปเมืองนอกแน็ตไม่อยากเป็นใบ้ เรารู้ตัวว่าเราชอบเที่ยวตั้งแต่เด็ก เราไม่ชอบพึ่งใคร อยากคุยเองตอบเอง 
    แน็ตโดนส่งไปนิวซีแลนด์ก่อนเปิดเทอมขึ้น ม.4 ค่ะ พูดกะโฮสไม่ได้ อึดอัดมากๆ พอกลับมา เราเลยฝึกพูดอย่างจริงจังเลยค่ะ 

    วิธีของแน็ตจะไม่เครียดมากค่ะ แน็ตพยายามฝึกกับกิจกรรมที่เราทำทุกๆวันนี่แหละ 
    มาดูกันดีกว่าว่าแน็ตฝึกภาษาอังกฤษจากอะไรบ้าง เริ่มกันเลยดีกว่า 

    1. ดูหนัง / series  
    แน็ตดูหนังเยอะมากๆนะ ดูซ้ำด้วยบางเรื่อง จนจะพูดบทตามได้แล้ว ดูที่บ้านบ้าง โรงหนังบ้าง ครั้งสุดท้ายที่แน็ตดูหนังพากย์ไทยคือปี 2003 The Lord of the Rings ภาคสุดท้ายในโรงค่ะ มันมาจากความเบื่อพันธมิตร และความไม่สมจริง เลโกลาสเสียงเข้มกว่าอารากอร์นอ่ะคิดดู ขัดใจมาก ตั้งแต่นั้นมาเราก็เลือก soundtrack ซับไทยมาตลอด ตอนแรกน้องชายแน็ตบ่นยับเลยเพราะเค้าก็ยังไม่คล่องภาษาอังกฤษ เค้าบอกว่าฟังไม่ทัน คือนี่ก็ฟังไม่ทัน แต่ถ้าไม่ฝึกฟังวันนี้ แล้ววันไหนจะฟังทันล่ะ ? แน็ตบอกน้องว่าค่อยๆเป็นค่อยๆไปแต่ถ้าจะดูหนังกับแจ้ก็ซับไทยโอนลี่ (ตอนเด็กๆเราสองคนดูหนังด้วยกัน อาทิตย์ละเรื่องค่ะ) ไปๆมาๆ ก็ติดดู sountrack ทั้งคู่ 

    ทริคที่แน็ตใช้ฝึกจากการดูหนังค่ะ หนัง 1 เรื่องแน็ตจะดูอย่างต่ำ 3 รอบ:
    รอบที่ 1 ดูเพื่อความสนุก เปิดซับไทยโลดเลยค่ะ 
    รอบที่ 2 ฝึกการฟัง เปิดซับอังกฤษค่ะ ในพาร์ทนี้เราจะได้ฝึกการออกเสียง (pronuncitation) ที่ถูกต้องจากเจ้าของภาษา
    รอบที่ 3 ฝึกการพูด เปิดซับอังกฤษอีกครั้ง ดูวนๆไปค่ะ แล้วเราก็ pause แล้วพูดตาม ถ้าไม่มั่นใจก็เปิดดูที่บ้าน อยู่คนเดียวไม่ต้องอายใคร พูดตามเลยค่ะ สำเนียงอะไรใส่ไปให้หมด

    2. ฟังเพลง
    อาจจะฟังดูว่า เออช้านก็ฟังนะ ฟังอยู่ทุกวัน ไม่เห็นพูดได้เลย บางทีร้องตามก็ัยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแปลว่าไร.... ก็ไม่แปลกนะ
    ฟังแล้วต้องไปหาเนื้อเพลงมานั่งแปลค่ะ บอกตรงๆว่าตอนเด็กๆขี้เกียจมากๆ ทำไมครูต้องให้แปลเพลงเนี่ย จะบอกว่าจริงๆแล้วมันเป็นการเพิ่ม vocabulary ไปในตัวเลยนะ ดีกว่าที่จะมานั่งท่องตามลิสต์ที่ครูให้ แบบนั้นน่าเบื่อมาก 
    สมัยนี้หาเนื้อเพลงง่ายค่ะ ทุกคนทีไอโฟน เกือบทุกที่มี wifi มี shazam เมื่อก่อนนี่ต้องนั่งจำเนื้อเพลงกลับไปต่ออินเตอร์เนตที่บ้าน เปิด kapook ฟังเพลง บางเพลง kapook ก็ไม่มีอีก 
    รุ่นนี้สบายแล้วค่ะ 

    3. ฟัง Met 107 
    ทำไมต้องเจาะจง? เพราะมันเป็นคลื่นที่พูดอังกฤษแทบจะตลอดเวลา ทั้งดีเจทั้งโฆษณารวมไปถึงข่าว จริงๆ ไอเดียนี้ไม่ใช่ของแน็ตค่ะ ไอเดียนี้เป็นของเพื่อนสมัย ม.ปลาย คนนึงที่เก่ง  vocab มากๆ สำเนียงดี ธรรมชาติ นางบอกว่านางฟัง Met ทุกวัน คือแน็ตเคยเปิดฟังแล้วตอนสมัย ม.ต้น ฟังไม่เห็นรู้เรื่องเลยยอมแพ้ พอเห็นเพื่อนว่าดี ก็ลองอีกรอบก็ค่ะ สกิลมันก็ต้องอัพตามกาลเวลาบ้างล่ะเนอะ เวลาผ่านไปเราก็ฟังได้เยอะขึ้นค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด แต่สุดท้ายก็ฟังไปเรื่อยๆนะ จนวันนึง เชื่อมั้ยว่า เราเข้าใจทุกอย่างโดยไม่รู้ตัว มีอยู่วันนึงมานั่ง realize ว่าทำไมเราฟังที่ดีเจคุยกันรู้เรื่องแล้วหัวเราะตามเค้าอีก มันภูมิใจมากเลยยยย 5555 

    4. อ่านนสพ.ภาษาอังกฤษ หรือ หนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด 
    สำหรับ beginner - intermidiate level เนี่ย อยากให้เริ่มด้วย Student Weekly ค่ะ ตอนนี้ยังมีอยู่มั้ยน้า ถ้า advanced แล้วก็ซื้อ Bangkok Post อ่านเลยค่ะ 
    คำถามในใจของหลายๆคนคือ สมัยนี้มีไอโฟน มีเฟซออนไลน์ จะซื้อแบบกระดาษมาอ่านทำไม ถ้าน้องจะถามแบบนี้ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ แต่ว่า การที่เราได้อ่านแบบกระดาษ มันจะต้องมีการไฮไลท์สีนั้นสีนี้เกิดขึ้น ถ้าเราได้เขียน เราจะเริ่มจำโดยอัตโนมัติ อีกอย่าง อย่าจ้องมือถือนานๆเลย ตาจะเสียเอา การอ่านตัวหนังสือเล็กบนหน้าจอมันต้องเพ่งพอสมควร 

    ส่วนหนังสือภาษาอังกฤษ สามารถหาได้ตาม ศูนย์หนังสือจุฬา หรือ Kinokuniya ก็มีค่ะ 
    สำนักพิมพ์แต่ละที่เค้าจะแบ่งเลเวลแตกต่างกันออกไป แต่เบสิคก็คือเริ่มจากอ่านง่ายเรื่องสั้นศัพท์ไม่เยอะมากไปจนถึงเล่มหนาศัพท์เยอะประโยคซับซ้อนขึ้น อย่าไปซื้อ Harry Potter มาอ่านเด็ดขาด ไม่งั้นน้องจะท้อถอย ค่อยๆเริ่มค่ะ พี่เคยอ่านแฮร์รี่ตอนเด็กๆ เกลียดภาษาอังกฤษไปพักนึง 555 สำหรับตอนนั้นคือยากมากกกกกก

    แน็ตไปดูที่ศูนย์หนังสือจุฬาค่ะ สาขาสยาม เดินเข้าไปในร้าน เดินขึ้นชั้น 2 โลดดด

    5. ท่องศัพท์ ฝึกสะกดคำ 
    พี่พูดจริงป่ะเนี่ย !? ถามให้เลย 555 คือแน็ตเกลียดการท่องศัพท์มาก ถึงกับเคยปลอมลายเซ็นต์พ่อแม่ว่าท่องแล้ว โรงเรียนประถมแน็ตเค้าจะมีใบศัพท์ให้ไปท่องที่บ้าน ถ้ามองย้อนกลับไปคำศัพท์พวกนั้นไม่ได้ยากเลยนะ แต่ถ้ามาเป็นลิสต์มันเหมือนโดนบังคับ จำก็ไม่ได้ แต่พอเราทำตามวิธี 1-4 ที่บอก เราก็สามารถเอาศัพท์พวกนั้นมาท่องได้นะ ฝึกสะกดคำ มันช่วยเรื่องการออกเสียงค่ะ เราจะได้เห็นว่า vowels และ consonant แต่ละตัวออกเสียงยังไง ก็เราฝึกจากหนังฝรั่งหนิ ถูกไปครึ่งนึงแล้ว ถ้าไม่มั่นใจก็กลับมาถามคุณครูที่โรงเรียนก็ได้ แน็ตมีเพื่อนอยู่คนนึง นางเหมือนดิกชันนารี เคลื่อนที่ นางบอกว่านางท่องศัพท์ตั้งแต่เด็กๆ นางออกเสียงชัดมาก เราก็เลยทำมั่ง 55 เวลาคุณครูสอบ Dictation เราก็จะพอเดาได้ว่าแต่ละคำสะกดยังไง ทั้งที่เราอาจจะไม่เคยเห็นคำนั้นมาก่อนเลย 

    พอเรามีคำศัพท์ในหัวเยอะขึ้น เราก็จะเอามาเติมใน conversation ของเราได้ ทำให้เราสามารถสร้างรูปประโยคที่ complex มากขึ้นกว่าเดิม adjective สำคัญมากๆค่ะ 

     6. ใช้ Dictionary เล่มโตๆ English - English 
    นึกออกมั้ย ดิกแบบที่มันกินที่ในเกะใต้โต๊ะเรามากๆ แน็ตถูกบังคับให้ใช้ ดิกเล่มโตๆ ตอนสมัย ม.ปลาย ที่ รร เค้าห้ามใช้ talking-dict แหละ ตอนแรกก็รู้สึกไม่ทันใจมากๆ ทำไมนะ เปิดก็ยาก พอเปิดไปเปิดมา มันเร็วขึ้นจริงๆนะ ผลพลอยได้ของการเปิดดิกคือ เราได้เห็นคำศัพท์ตัวอื่น นึกถึงเวลาเราไล่นิ้วหาคำๆนั้น 1 หน้ามีคำกี่คำ คำแปลก็เป็นภาษาอังกฤษ เราก็ได้ศัพท์เพิ่มมากขึ้นด้วย ดิกชันนารีเล่มใหญ่ๆ บางเล่มมีภาพประกอบด้วยค่ะ แน็ตก็ใช้เล่มนั้นแหละ ลองดูนะคะ 


    หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับน้องๆ พี่ๆ เพื่อนๆ กันบ้างนะคะ 
    คงได้หายสงสัยกันบ้างเนอะ
    ยังไงก็ฝากเพจฝากบลอคกันไว้ด้วยเด้ออออ 
    ติดตามชีวิตแอร์สายกินสายมึนได้ตามลิ้งด้านล่างเลย
    ไว้จะพาไปเที่ยวที่อื่นต่อนะคะ 
    :)

    -------------------
    IG: ppakti
    FB Page: www.facebook.com/a24hourtale

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in