เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Another SideKanSiri
Digimon Adventure : Last Evolution [Review]
  • **SpoiledAlert**

    บทความต่อไปนี้ มีการเปิดเผยเนื้อหาของมูฟวี่


              ในที่สุดก็จบลงซักทีกับบทสุดท้ายของซีรีย์ดิจิมอน (Digimon) Original ตัวแรกสุด ก่อนอื่นเลยผมขอพูดเกริ่นเกี่ยวกับประวัติเล็กๆน้อยๆ

              ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการ์ตูนเรื่องนี้โตมากับเด็กยุค 90 จริงๆ ดิจิมอนนี่ถือว่าเป็นการ์ตูนโปรดของผมเลยก็ว่าได้ในยุคนั้น แต่อย่างว่างานเลี้ยงต้องมีวันเลิกราในตอนนั้นภาค Zero Two (02) ก็จบซีรีย์ของดิจิมอนนี้ได้อย่างลงตัวทีเดียวแต่พอกาลเวลาผ่านไป อันนี้ผมไม่ทราบนะแต่เท่าที่ดูซีรีย์ต่อๆมาของดิจิมอนมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จลดลงไม่ว่าจะเป็นภาค Tamers หรือภาค Frontier หรื่อภาคหลังๆที่ตามมา ดูท่าแล้วจะสู้ภาค Original ไม่ได้เลย เมื่อเวลาผ่านไป Digimon ภาคต่อของ 02 ก็ถือกำเนิดขึ้นนั่นก็คือภาค Tri นั่นเอง

              ต้องยอมรับนะว่าภาค Tri นี่ถือว่าแย่อยู่ประมาณนึง ในความเห็นผมนะ ส่วนหนึ่งมันมีความดราม่ามากไปหน่อย นอกจากนี้สิ่งที่ผมรู้สึกแย่มากๆเลยก็คงหนีไม่พ้นการตัดบทของเด็กที่ถูกเลือกภาค 02 ออกแทบจะไม่เหลือชิ้นดี มีการกล่าวถึงตอนต้นนิดเดียว (นิดเดียวจริงๆ) มิหนำซ้ำตอนท้ายเรื่องก็โผล่มาแบบเป็นเงาอีก ตรงนี้แหละที่ Toei พลาดอย่างรุนแรง ต่อให้ตัวละครภาค 02 จะไม่ “ปัง” เท่าตัวละครภาคแรก แต่มันถือว่าเป็นส่วนนึงของซีรีย์ Original จริงๆนะ พวกทาเครุ กับฮิคาริ แทบจะไม่พูดถึงพวกไดสุเกะเลย (อิหยังวะ) นี่มึงเรียนด้วยกันมายังไง เพื่อนหายไปขนาดนั้น มึงไม่พูดถึงเลย

              เรื่องลายเส้นก็น่าหงุดหงิดใจอยู่เหมือนกันสำหรับภาค Tri แต่ผมก็พยายามมองข้ามไปนั่นแหละ ต่อมาก็ว่าด้วยเรื่องสเกลพลังของดิจิมอนฉากต่อสู้มันก็สนุกดีนะ แต่ผมรู้สึกว่ามันดูโดนเนิร์ฟๆการแปลงร่างขั้นสูงสุด บางตัวละครดูไม่มีมิติเหมือนการแปลงร่างภาคแรก สรุปภาค Tri เหมือนทำออกมาให้หายคิดถึง ส่วนที่เหลือโดนด่าเละ

              มาเข้าเรื่อง The Last Evolution ดีกว่า ตอนเห็นโปสเตอร์ครั้งแรกต้องยอมรับเลยว่า เฮ้ยตัวละครมาครบว่ะ ในใจคิดว่าภาคนี้แม่งทำมาเพื่อนตามเช็ดล้างอีภาค Tri แน่นอน และความคาดหวังก็ค่อนข้างสูงประมาณนึง แต่หลังจากได้เข้าไปสัมผัสเนื้อเรื่องในโรงแล้วผมขอสารภาพเลยนะ มันน่าผิดหวังพอสมควร คะแนนอยู่ที่ 5.5/10

              เรื่องแรกเลยคือ ตัวมูฟวี่ เกลี่ยบทได้แย่มาก ด้วยความที่ระยะเวลามีจำกัดและตัวละครมีเยอะ แต่ถึงอย่างงั้นผมว่ามันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ผมเข้าใจคอนเซปท์นะว่าตัวหนังต้องการจะสื่ออะไร ทำนองว่า ก็พวกเด็กๆโตแล้วไงจะให้มานัดกันแบบเดิมมันทำไม่ได้หรอก ทุกคนก็มีหน้าที่และธุระของตัวเอง ซึ่งมันตรงกับความเป็นจริงนะ แต่เฮ้ย คนเขียนบทเล่นสเกลใหญ่มาก เด็กที่ถูกเลือกทุกคนเป็นเป้าหมายเลยนะเว้ยอย่างน้อยๆต่อให้มึงมารวมกลุ่มกันไม่ได้ แต่มันก็ควรมีบางตัวละครที่ต้องติดต่อมาบ้างแหละ เช่น
    โซระ อะมันชัดเจนมากว่า ปิโยมอนหายไป แต่
    !!! มึงไม่คิดว่าต้องโทรไปถามเพื่อนหรือปรึกษาเพื่อนบ้างเลยหรอ สรุป หนังสร้างมาเพื่อ ไทจิกับยามาโตะเท่านั้น

              เรื่องถัดมาคือการลดบทบาทของเด็ก 02 อย่างเห็นได้ชัดต่อให้หนังจะพยายามแทรกเนื้อเรื่องของเด็กกลุ่มนี้ แต่ ไม่เด่นมันก็คือไม่เด่นอะนะ ทาเครุกับฮิคาริ พวกมึงทำเหมือนไม่เคยสนิทกับพวกไดสุเกะการแปลงร่างที่ควรจะมีมากกว่านี้สำหรับเด็กภาคนี้ ถูกจำกัดไว้แค่ร่างโตเต็มวัย ทั้งๆที่จริงๆแล้วถ้าโฟกัสไปที่การแปลงร่างขั้นสมบูรณ์มันจะทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจมากกว่านี้แท้ๆ แต่อย่างว่าแหละหนังแม่งโฟกัสไปแค่ไทจิกับยามาโตะ

     

              นอกจากนี้ก็คือรายละเอียดของดิจิไวซ์ เคสโทรศัพท์มือถือของแต่ละคนก็ดูเข้าใจได้แหละว่าเป็นนวัตกรรมของโคจิโร่ แต่เฮ้ยบอกความเป็นมาหน่อยไหม อยู่ดีๆเปิดตัวมาก็ใช้โทรศัพท์แปลงร่างแทนดิจิไวซ์เลยอันนี้คือขัดใจมากนะ พูดหน่อยก็ยังดีว่าใครเป็นคนทำ มีจุดประสงค์อะไรยังไงก็ยังดีไม่ใช่เอามาแปลงร่างดื้อๆแบบนี้ แล้วก็ฉากแปลงร่างอีกใครชอบความคลาสสิคก็คงโอเคแหละ แต่ผมไม่ชอบ ส่วนนึงคือมันเป็นมูฟวี่อะสู้แปลงร่างแบบมีแสงๆแบบโอเมกามอนยังโอเคกว่า

              เนื้อเรื่องต้องบอกเลยว่าจริงๆภาคนี้ทำให้หายคิดถึงดิจิมอนนะ แต่มันดูไปไม่สุด เช่นการที่ดิจิมอนที่กำลังจะหายไป มันไม่ควรโฟกัสกับแค่สองสามคน อันนี้มันเล่นได้เยอะมากแต่สุดท้ายให้น้ำหนักที่ตัวเอก 2 ตัวและตัวร้ายอีก 1 ตัว มันให้ความรู้สึกว่า ตัวละครตัวอื่นไม่มีความหมาย บทตัวละครก็พอไปวัดไปวาได้แต่อย่างที่ว่า ไม่สุดเลย แอบเศร้าแต่ไม่ได้ร้องไห้ เพราะภาค 02 มันเฉลยไว้หมดแล้วว่าเด็กที่ถูกเลือกจะเป็นยังไงต่อไป

     

              สรุป มูฟวี่อันนี้เหมือนมีขึ้นเพื่ออุดรอยรั่วภาค Tri แต่ดันรั่วหนักกว่าเดิม ดูให้พอหายคิดถึงได้แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกอินขนาดนั้น บทต่อสู้ก็ดูโดนเนิร์ฟหนักกว่าเก่า นอกจากไทจิ ยามาโตะ โคจิโร่และตัวร้ายแล้ว ตัวอื่นเหมือนเป็นตัวประกอบฉาก ย้ำ "ประกอบฉาก" คือไม่ใช่ตัวประกอบด้วยซ้ำ อันนี้แอบผิดหวัง แต่ถามว่าถ้าโตมากับการ์ตูนเรื่องนี้ควรไปดูไหมก็ควรไปดูแหละ แม้ว่าเนื้อเรื่องอาจจะดูไม่สุดหรือฉากแปลงร่างใหม่จะดูไม่เท่ (ดูงานหยาบเว่อร์ วอร์เกรย์มอนกับเมทัลการูรูมอนยังดูคูลกว่าเยอะ) แต่ภาคนี้ก็ดูเอาสนุกได้แหละ ทำให้พอหายคิดถึง แต่เนื้อหาก็อย่างที่บอกนั่นแหละครับ คาดหวังอะไรไม่ได้เลย

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in