เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
9Satra fanfic : Short Fic & One shotkizu_amakusa
[9Satra fanfic] One Shot : [พรานทมิฬxทารคา] Modern day AU :เพื่อน -ตอนที่2
  • Chapter2


    “ก๊อกๆ”


    เสียงเคาะประตูดังขึ้นในคืนที่จวนเจียนจะสิ้นปี บากลุกขึ้นเดินออกไปจะเปิดประตู

    แต่ก็ไม่ลืมที่จะมองช่องตาแมวก่อน

    แล้วก็ต้องเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจนิดๆ


    “ปีนี้ไม่ได้กลับบ้านเหรอ”

    คำถามถูกยิงไปพร้อมกับจังหวะเปิดประตูพอดี ไม่ใช่ใครแต่เป็นเพื่อนผมแดงตัวใหญ่ที่นานๆจะมาหาซักที

    ถึงเมื่อก่อนจะมาบ่อยก็เถอะ..


    “ปีนี้ไม่กลับ มารตามันงานเยอะเลยขี้เกียจกลับคนเดียว”


    “อ้าว อ๊อดล่ะ” บากชะโงกออกมานอกห้อง หันไปมองซ้ายทีขวาทีก็ไม่เจอหน้าแฟนเพื่อนที่มักจะตัวติดกันตลอด



    อ๊อดมาเที่ยวห้องผมพร้อมกับทารคาบ่อยครั้ง

    แต่นานๆทีทารคาก็จะมาคนเดียว

    ….

    ..

    เหมือนอย่างเมื่อสามเดือนที่แล้วนั่น…





    “อ๊อดมันก็กลับบ้านของมัน”


    “เอ๊ะ แล้วมึงมาหากูทำไม”


    แอบสงสัยขึ้นมายังงั้นจริงๆ เพราะเดี๋ยวนี้ถ้าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับอ๊อด

    พวกเราสองคนก็แทบจะไม่ได้เจอกันเลย

    แต่ผมก็ไม่น่าปากไวถามไป...


    “ทำไมวะ มาไม่ได้เหรอ” น้ำเสียงปนโมโหนิดๆแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร เห็นในมือถือถุงใหญ่ๆมาด้วย คงเป็นของกินล่ะมั้ง

    พูดจบก็ถือวิสาสะถอดรองเท้าเดินเข้าห้องบากไปอย่างหน้าตาเฉย บากมองตามหลังไปพลางถอนหายใจก้มลงเก็บรองเท้าเข้ามาให้เรียบร้อย


    “แล้วนี่อะไรวะ อยู่คนเดียวเงียบๆกับนกกับปลา ทีวีก็ไม่เปิด ไฟก็ไม่เปิด มึงเป็นฤาษีรึไง”


    “จะให้กูฉลองอะไร อยู่ก็อยู่คนเดียว ปีใหม่มันก็แค่เลขปีเปลี่ยน หมดวันหยุดก็ทำงานเหมือนเดิม”


    “โว้ยยยยมึงนี่ ถ้ากูไม่มามึงก็จะนั่งนิ่งๆจนจบปีใช่มะ

    มานี่ มานั่งกินเบียร์เค้าท์ดาวกับกูนี่”


    บากหรี่ตามองคนเจ้ากี้เจ้าการ..

    แต่นี่ก็ถือว่ามันยังเกรงใจอยู่ เพราะอุตส่าห์ปล่อยห้องให้มืดเหมือนเดิม แล้วก็เดินไปนั่งพิงฟูกอยู่ข้างๆหน้าต่างเอง คงเพราะรู้ว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร


    บากชอบที่จะเห็นทุกอย่างแค่สลัวๆจากในมุมมืด

    มันช่วยให้ใจสงบมากกว่าที่จะอยู่ในที่โล่งแจ้งสว่างไสว


    “นี่มึงเหงาที่อ๊อดมันไม่อยู่ทิ้งมึงกลับบ้านไปใช่มั้ยเนี่ย..

    แล้วกูก็กินเบียร์กินเหล้าเฉพาะตอนมีงานเลี้ยงเท่านั้น กูไม่อยากเมา กูเมาแล้วทำตัวแย่”

    เจ้าของห้องล้มตัวลงนั่งข้างๆกันแล้วก็เอนหัวพิงฟูกไป



    “ไม่ได้เหงาอะไรทั้งนั้น”  


    โคตรปากแข็งเลยไอ้บ้านี่…



    ไม่ได้สนใจว่าใครจะว่ายังไง เจ้าคนปากแข็งก็ยกกระป๋องเบียร์ที่ตัวเองซื้อมากระดกเข้าไปอึกใหญ่ พลางร้องออกมาอย่างชื่นใจ



    “ฮ้าาาาา งั้นก็คิดซะว่าฉลองที่กูมาหามึงแล้วกัน”



    “……”


    ทารคายิ้มเย้ยอย่างรู้ทัน พลางยกกระป๋องเบียร์มาล่ออยู่ตรงหน้า

    “ฉลองได้รึยัง”



    ..ผมต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ

    เพราะขนาดมันทำท่ายิ้มเย้ยใส่ยังมองว่ามันน่ารัก แล้วจะบอกว่าไม่ดีใจน่ะเหรอ..มันก็

    เหมือนจะโกหกตัวเองไปนิดนึง


    ..แค่นิดนึงนะ



    มือผอมสีม่วงคว้าเบียร์ที่เกือบจะแตะหน้าผากตัวเองมา

    “..ถ้ากูเมาไม่รู้ด้วยนะ”





    _________________





    ผ่านไปได้ซักพักใหญ่…

    เบียร์หมดไปคนละสองกระป๋องแล้ว แต่ทารคาก็ซื้อมาเยอะกว่านั้น

    ไม่รู้ว่ากะจะกินทั้งคืนเลยรึไง



    “ข้างล่างมันมีอะไรวะ เสียงดังกันจัง”


    “ตึกข้างๆเขาจะมีจุดพลุทุกปีน่ะ”


    “อ้อเออกูจำได้แล้ว เมื่อสองสามปีก่อนกูยังพูดว่าห้องมึงแม่งโคตรวีไอพี มีคนมาจุดพลุให้ดูถึงห้อง”


    ไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงวี๊ดว้ายพร้อมกับควันขาวๆของพลุตัวเล็กที่ถูกจุดขึ้นมา แสงสว่างจากมันทำเอาห้องสว่างขึ้นนิดหน่อย

    ตามมาด้วยดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ขึ้นตามลำดับ มันระเบิดกระจายบนท้องฟ้ากว้างสว่างจ้าและร่วงหล่นลงมาจนหายวับไปในระหว่างทาง

    ช่องหน้าต่างที่ห้องของบากมองเห็นดอกไม้ไฟใหญ่นี้ได้ชัดเจนอย่างที่ทารคาว่าไว้


    ห้องที่มีแสงสว่างแค่จากไฟตู้ปลานั้นมืดพอที่จะเห็นการแตกกระจายของสะเก็ดไฟได้ชัดๆ


    บากเอี้ยวตัวหันไปจูบทารคาที่กำลังมองดอกไม้ไฟ



    มันแค่ประมาณห้าวินาทีเท่านั้นที่เราทั้งคู่หลับตาโดยไม่ต้องบอกกัน

    แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนมันนานกว่านั้นมาก


    ทารคาหันมาทางบากที่เพิ่งผละริมฝีปากออกไป แสงจากดอกไม้ไฟที่กระทบบนผิวหน้ากำลังจะหายลับจนดับมืดลง


    “นี่คือเมาแล้วรึยัง”


    บากมองหน้าทารคาที่ถามนิ่งๆ ดอกไม้ไฟกำลังถูกจุดและพุ่งขึ้นไปเหมือนดังลูกก่อนๆ เงาและแสงของมันกระจายเป็นสีสรรพ์ไปทั่วห้อง มองแล้วคล้ายลอยอยู่ในอวกาศ คล้ายลอยเคว้างอยู่ใต้น้ำที่มีประกายระยิบระยับทาบทับกันไปมา

    ทุกอย่างดูสวยเกินจริง แม้กระทั่งเรื่องที่ทารคามาหาเขาคืนนี้  

    มันช่างดูเกินจริง


    บากขยับตัวเข้าไปใกล้อีกครั้งและใช้ลิ้นเปิดปากคนตรงหน้าขึ้นมา


    “...เมาแล้ว”


    เขาตอบแค่พอได้ยินเบาๆ ปลายลิ้นที่รุกเร้าได้รับการตอบกลับ  ทารคาโน้มตัวกดน้ำหนักลงมาทางเขา เลยช่วยไม่ได้ที่เขาจะต้องทิ้งตัวลงไปบนฟูกด้านหลัง จูบที่เป็นแค่การลองเชิงกลับแนบแน่นขึ้น กระหายมากขึ้น

    นิ้วมือปัดป่ายไปยังด้านล่างของแต่ละฝ่าย ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา แต่ทั้งคู่ก็เลื่อนมือกุมส่วนร้อนของกันและกัน มือเริ่มขยับไปพร้อมกับจูบที่ครุกกรุ่นไปด้วยอารมณ์  ไม่แค่ริมฝีปากแต่ยังประโคมจูบไปทุกส่วนที่ต้องการ


    บากลืมตาพินิจมองอีกฝ่ายที่กำลังใช้ร่างกายของตนไต่ทะยานช่วงอารมณ์ไปให้ถึงจุด อยู่ๆความเสียวที่กลั้นไว้ก็แล่นขึ้นมาจากด้านล่างผ่านไปถึงหัวนมทั้งสองข้าง

    ความวาบหวามนี้ทำเอามือไม้เขาอ่อนแรง รู้สึกได้ว่ามีความชุ่มชื้นบางอย่างที่ได้รับการปลดปล่อยจนตัวกระตุกเบาๆ เพียงแต่มันไม่ใช่ช่องทางที่คุ้นเคย เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน


    ทารคาสังเกตุเห็นที่บากหยุดมือไป

    “เป็นอะไร”

    เขากระซิบถามที่ข้างหู แต่มือก็ยังปรนเปรอด้านล่างให้อีกฝ่ายไม่หยุด


    “ไม่รู้… คงเมาจนหมดแรงมั้ง ไม่มีแรงแล้วเนี่ย”

    บากพูดจบก็พยายามยกมือผอมเรียวขึ้นมาจับหน้าทารคาทั้งสองข้าง


    “เนี่ย ตบหน้ามึงสุดแรงแล้ว…”

    บากปล่อยมือลงไว้ข้างหัว เพราะไม่มีแม้แต่แรงจะยกแล้ว


    “ไอ้บ้า ทิ้งกูไว้กลางทางเหรอวะ!”



    “.....ฝากด้วย”


    ทารคารวบความร้อนด้านล่างไว้ด้วยสองมือ ความลื่นของเจลทำให้ต้องจับมันไว้ให้แน่น บีบรูดและถูไถพวกมันเข้าด้วยกัน

    เส้นผมสีแดงปรกลงมาที่หน้าของบาก เขางับมันไว้ด้วยใจอยากแล้วดึงมันลงมาด้วยปากจนทารคาโน้มหน้าลงมาจูบอย่างถาโถมและรุนแรง น้ำหนักตัวของคนตัวหนาเบียดบดเขาเข้ากับเตียงครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่นานอารมณ์ของทั้งคู่ก็ประทุออกมาภายนอกเป็นน้ำสีขาวขุ่นที่เลอะอยู่บนตัวของบากคนเดียว มันกระเซ็นไปไกลจนถึงหน้าอกและใต้คาง




    เสียงผู้คนจากด้านล่างของตึกเงียบไปแล้ว

    ไม่มีดอกไม้ไฟถูกจุดขึ้นมาแล้ว บากเงยหน้ามองทารคาที่คร่อมเขาไว้กำลังหายใจถี่ เขามองตาสีเดียวกันที่มองกลับมาหาเขา



    ไม่ว่าความรู้สึกของเราทั้งคู่จะเป็นยังไง

    แต่ผมก็ได้รับการตอบรับจากจูบนั้นกลับมา



    ทารคายิ้มปนหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี

    “ตอนเมาก็ไม่ได้ทำตัวแย่เท่าไหร่นี่ แค่อย่าทิ้งกูไว้กลางทางก็พอ”


    บากเอื้อมมือขึ้นไปจับผมแดงยาวนั่นดึงลงมาแล้วจูบเน้นๆไปหนึ่งที

    “มึงก็เหมือนกัน”



    ทารคาเบิกตากว้าง บากไม่เคยพูดเรื่องแบบนี้กับเขา ไม่เคยเรียกร้องหรือปฏิเสธอะไรเลยด้วยซ้ำ ไม่เคยคิดที่จะพูดถึงสถานะความสัมพันธ์หรือแสดงออกว่าอยากจะยื้ออะไรเลย


    “..…”


    มาคิดๆดู หรือมันจะเป็นการเอาเปรียบเพื่อนรักคนนี้มากเกินไปหน่อย..

    จะว่าไปก่อนจะทำอะไรก็แทบไม่เคยถามหรือขออนุญาตอะไรอีกฝ่ายเลย 

    เหมือนทุกอย่างมันเกิดขึ้นเอง...

    จะบอกว่ามันเป็นไปโดยธรรมชาติก็ดูจะผิดธรรมชาติไปหน่อย เขารู้ว่าเขาค่อนข้างเห็นแก่ตัว แต่ทำยังไงได้ เขาไม่เคยวางสถานะของเพื่อนคนนี้ซ้ำกับอ๊อดหรือซ้ำกับใครอื่น ไม่ใช่ว่ารักอ๊อดน้อยกว่าหรือรักมันมากกว่า  


    แค่มันไม่เหมือนกัน

    ความรู้สึกที่มีให้ทั้งคู่มันไม่เหมือนกัน


    ถ้าโดนถามว่าใครเป็นคนรัก มันแน่นอนที่จะต้องตอบว่า”อ๊อด”

    เพราะทุกขั้นตอนในการเป็นคนรักกันมันเกิดขึ้นเมื่ออยู่กับอ๊อด

    แต่กับบาก…..


    เขาฟุบลงข้างซอกคอสีม่วง พลางปล่อยความคิดทุกอย่างทิ้งไป 

    บางทีเรื่องแบบนี้เขาก็ไม่อยากใช้เหตุผลมาคิด อยากพูดแบบที่รู้สึกออกไปเลยมากกว่า..

    เพราะคิดแบบนี้ บางทีคำพูดมันเลยทำร้ายใครโดยไม่รู้ตัว



    “นี่ กับมึง..มันไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก

    ไม่มีการคบ ไม่มีการทิ้งอะไรทั้งนั้น…

    ..แค่มึงยังอยู่ กูก็..”





    เมื่อเห็นว่าคนที่โดนทับอยู่ทั้งเงียบทั้งนิ่งไป คนที่อยู่ด้านบนเลยชันตัวขึ้นมามามองหน้าอีกฝ่าย


    “เฮ้ย มึงหลับเหรอวะ!

    นี่มึงเมาจริงๆใช่มั้ยเนี่ย!

    แล้วก็ปล่อยให้กูพูดคนเดียว!”


    อยู่ๆเจ้านกแก้วสกุณเหราที่อยู่ในกรงก็ร้องขึ้นมาเพราะมีคนทำเสียงดัง  

    แต่ทารคาไม่สนใจแค่ส่งสายตาแบบยักษ์ไปให้เท่านั้น



    “เฮ้ย มึงตื่น! ลุกขึ้นมาฟังกูให้จบ!


    เหมือนจะได้ผล บากลืมตาขึ้นมาแบบหรี่ๆจากเสียงตะโกน


    “มึง...”

    เสียงงัวเงียมากพอๆกับที่ไม่ยอมเปิดตาเต็มที่



    “เออ มึงฟังกู—”



    “ฝากเปลี่ยนเสื้อ กับเช็ดตัวให้ด้วย…”

    พูดจบก็พลิกตัวนอนต่อ แถมยกมือขึ้นมาปิดหูไว้



    “ถ้ายังไม่หลับก็ลุกขึ้นมาทำเองซิวะะะะ!”



    บากยังคงหลับตา ถึงจะเผลอหลับไปวูบนึงแต่ตอนได้ยินเสียงทารคาพูดใกล้ๆด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นขึ้นมาฟังด้วยความอยากรู้



    เขาพูดว่าอะไรนะ..



    กำลังพูดถึงใคร




    …แค่มึงยังอยู่ กูก็…




    จะขอคิดว่าเขาพูดถึงผมได้มั้ย


    ถ้าใช่

    ผมคงฝันดี..








  • ---------------------------------
    ฟิคนี้ได้ลงตอนคืนปีใหม่ตามเวลาในเรื่องพอดีค่ะ
    ตอนนั้นเราได้ไปดูพลุพอดี แล้วพอมองมันก็รู้สึกเหมือนเป็นฉากแทนสายตาพวกเขาในฉากพอดี
    เลยถ่ายเก็บไว้แล้วเอาเพลงธีมของเรื่องนี้มาประกอบดูค่ะ /รู้สึกเหมือนได้เห็นมุมมองพวกเขาเลย ฮืออออออ


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in