เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
9Satra fanfic : Short Fic & One shotkizu_amakusa
[9Satra fanfic] One Shot : [ทารคา-พรานทมิฬ] Modern day AU : คนอื่น

  • ผมไม่เคยคิดมาก่อน


    ว่าการไม่ได้แต่งงานกับคนรัก ไม่ได้เขียนพินัยกรรมในตอนที่เรายังอยู่ดีมีสุข จะทำให้ผมเจ็บปวดได้ขนาดนี้  


    ไม่คิดเลยว่าแค่การไม่มีกระดาษแผ่นเดียวจะทำให้ผมเป็นคนที่ไม่สามารถเก็บของๆคนรักไว้ได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว



    เฟอร์นิเจอร์ของเราถูกยกออกไปวางด้านนอกทีละชิ้น เพื่อประเมินราคาแล้วรอเจ้าของใหม่


    ของสะสมของคุณที่ผมพร่ำบอกว่ามันไร้สาระแต่คุณก็เฝ้าเช็ดมันอย่างถนุถนอม ตอนนี้พวกมันถูกกวาดลงลังกระดาษใบโตไปแล้ว

    บางชิ้นที่ดูไม่น่ามีใครเห็นค่ามันเลยนอกจากคุณ ก็กำลังอยู่ในมือเหลนตัวเล็กๆของคุณ(ใช่ วันนี้พวกเขาก็ไม่ถอดรองเท้าเหมือนเดิม) พวกเขาเอามันมาพุ่งชนกันซ้ำๆอย่างการเล่นต่อสู้ จนพวกมันสีถลอก  

    ผมนั่งพิงเก้าอี้และไม่สามารถละสายตาจากเศษที่แตกจนตกลงมาจากของพวกนั้นได้เลย


    ตอนมันเป็นชิ้นสวยงามผมไม่เคยมีความรู้สึกอะไรกับมัน


    แต่ตอนนี้ มันเริ่มแตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยที่แทบเท้าผม...


    ผมเริ่มรู้สึกถึงความสวยงามของมันแล้วล่ะทารคา…




    “นี่คุณ….ฉันรู้สึกไม่ชอบสายตาของเพื่อนคุณตาคุณเลย ตาสีอ่อนๆบนพื้นตาสีดำนั่น  น่ากลัวออก…”

    ถึงจะกระซิบกันเบาๆ แต่มันช่วยไม่ได้ที่หูของผมมันไวต่อเสียงทุกอย่าง ไม่ว่าจะเสียงต่างหูคุณที่แกว่งไปมา เสียงคลี่ธนบัตร เสียงกระทบของลูกอมในปากคุณ ทุกอย่างมันดูชัดเจนเหมือนมันกระทบอยู่ข้างหูผม  ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ตาสีอ่อนแถมพื้นตายังดำอีก แย่จัง...


    “อย่าจุกจิกน่า เผ่าทมิฬก็เป็นแบบนี้กันทุกคนนั่นแหละ”

    หลายชายของทารคาที่มีผมสีแดงเหมือนกับคุณตาของเขาพยายามพยักพเยิดบอกภรรยาให้เบาเสียงลงอีก


    โลกเรามันผ่านไปเร็ว เดี๋ยวนี้ไม่ว่ายักษ์ ทมิฬ ลิง หรือมนุษย์ก็มีขนาดตัวที่ไม่แตกต่างกันมากเท่าสมัยก่อน อายุขัยก็เช่นกัน ทุกเผ่ามีอายุขัยเฉลี่ยที่สั้นลงมาจนเกือบจะเท่ามนุษย์ คงเป็นเพราะการมีความสัมพันธ์ข้ามระหว่างเผ่าพันธุ์เลยทำให้ได้รับการวิวัฒไปตามแบบที่มันควรจะเป็น


    อย่างตอนนี้หลานของคุณก็ตัวสูงแค่ใต้อกของผม พวกเขาไม่มีความสามารถอะไรแบบที่ยักษ์พึงมี

    การมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตแบบคุณและผมเริ่มกลายเป็นเรื่องน่ากลัวและไกลตัวสำหรับพวกเขา


    ทมิฬปรายตามองทั้งสองคนแล้วชันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวเดียวที่ยังวางอยู่ในห้องนี้

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ถึงผมจะได้ยินแต่โดยส่วนใหญ่แล้วผมจะไม่ทำให้ใครเสียหน้า”


    สองสามีภรรยาที่เหมือนกับเป็นหลานของทมิฬกลายๆสีหน้าซีดขึ้นมาทันที



    “ผมมีเรื่องอยากถาม”


    “ครับคุณทมิฬ”



    “ผมไปงานศพของทารคาได้รึเปล่า”



    “.......”



    “น่าจะมาได้หลังงานจบค่ะ”


    “นี่!”


    “อะไรเล่า!”



    “......”


    “..ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ คงจะมีแขกสำคัญมาเยอะมาก”



    “ถ้างั้นเดี๋ยวเราขอตัวก่อนนะคะ ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกเยอะเลย”


    เธอรีบดึงแขนสามีออกไป ปากก็ร้องตะโกนเรียกชื่อลูกทั้งสามที่ตอนนี้หยิบผ้าคลุมผืนใหญ่ของคุณมาคลุมเพื่อเล่นซ่อนแอบ เมื่อได้ยินเสียงแม่ที่เริ่มกระชับเสียงสั้นขึ้นทุกทีก็รีบโยนทุกอย่างทิ้งแล้ววิ่งขึ้นรถไป


    ทมิฬก้มลงเก็บผ้าคลุมขึ้นมาปัดเศษใบไม้ที่ติดตามชายผ้าออก ปลายรองเท้าส้นสูงเดินมาจ่อตรงปลายมือเขาขณะก้มเก็บพอดี


    “คุณจะเก็บมันไว้ก็ได้นะคะ”



    “........”


    “ไปๆขึ้นรถแล้วก็นั่งดีๆ” เธอหันไปบอกเด็กๆ



    “...ขอบคุณครับ”



    เสียงยางรถบดกับพื้นกรวดที่เราทั้งคู่เป็นคนโปรยไว้หน้าบ้านแซมกับหญ้า ผมถือผ้าคลุมผืนนั้นไว้แล้วนึกถึงวันที่เราไปเดินเลือกมันด้วยกัน  พวกเขาไปแล้ว

    และพาสิ่งของ ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างของคุณไปด้วย


    แค่หลับตา คุณก็มีชีวิตชีวา ความทรงจำทั้งหมดของเราเป็นของผมและของคุณ 

    ความรักของเรายังอยู่ในใจผมและในใจคุณ



    ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยจริงๆ

    ว่าการไม่ได้แต่งงานกับคนรัก

    ไม่ได้เขียนพินัยกรรมในตอนที่เรายังอยู่ดีมีสุข จะทำให้ผมเจ็บปวดได้ขนาดนี้..





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in