วันที่ 9-11 กรกฎาคม

ในตอนแรกพวกเราจะให้มนุษย์จิ๋วใส่เสื้อผ้าโดยการใช้สก๊อตเทปหรือไม่ก็กาว2หน้าแปะ แต่ถ้าทำแบบนั้นก็คงจะเป็นการใช้ครั้งเดียวแล้วก็ทิ้ง แปมเลยเสนอให้ลองติดแม่เหล็กดู ซึ่งพอติดแล้วหุ่นของเราดูดีขึ้นเยอะเลย ดูไม่เหมือนของเล่นก๊องแก๊งแล้ว พอเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่ต้องเสียเวลาคอยนั่งแปะเพราะแม่เหล็กก็ดูดได้เลย 

วันที่ 12 กรกฎาคม

วันนี้หลังจากที่ไปกินข้าวกลางวันมาแล้ว พี่ผึ้งบอกว่าผอ. โทรให้ขึ้นไปดูงานเปิด “นิทรรศการยลยันต์” ผอ.บอกว่ามีขนม มีของว่างช่วงเบรคด้วยให้พี่ผึ้งชวนพวกเราขึ้นไปดู ด้วยความชื่นชอบในขนมของพวกเรามีหรือที่จะปฏิเสธ แต่กะตังมาไม่ไหวเพราะวันนี้กะตังไม่สบายก็เลยคิดว่าขนมเป็นกล่องๆน่าจะถือลงมาให้เพื่อนได้ แต่ปรากฎว่าไม่ใช่เลย ขึ้นไปมีอาหารวางอยู่ มีบริกรคอยบริการ ไม่เหมือนภาพในหัวซักกะนิด เครื่องดื่มมีให้เลือกเป็นอัญชัญมะนาวกับวุ้นใบเตย ของคาวมีทั้ง ลาบกุ้ง กระทงทอง หมูสะเต๊ะ สลัด คานาเป้แซลมอน มีผลไม้กับบลูเบอรี่ชีสเค้กด้วย ทุกอย่างอร่อยมาก ๆ ขนาดกินข้าวมาแล้วก็ยังกินได้อีก พี่ผึ้งเคยเล่าให้ฟังถึงกลุ่มทานฟรีในหอศิลป์ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจหรอกคิดว่าใครเขาจะมากินขนมปังกับน้ำผลไม้กล่อง แต่วันนี้เราเข้าใจทุกอย่างแล้ว กลุ่มทานฟรีคงต้องเพิ่มพวกเราเข้าไปด้วยแล้ว

หลังจากที่อิ่มหนำกับของกินแล้วพวกเราก็ต้องขึ้นไปจัดสถานที่เพราะพรุ่งนี้เป็นวันแสดงแล้ว แอบตื่นเต้นนิดหน่อยแต่ก็เชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้ด้วยดี

วันที่ 13 กรกฎาคม

ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง วันนี้พวกเราต้องทำการแสดงแล้ว ตอนเช้าพวกเราพยายามซ้อมให้มั่นใจที่สุดว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด พอใกล้ถึงตอนบ่ายก็เริ่มมีผู้ปกครองขึ้นมาแต่ก็น้อยมากจนใจไม่ดี พวกเราเลยตัดสินใจเลื่อนเวลาแสดงออกไปเล็กน้อย เผื่อผู้ปกครองขึ้นมาไม่ถูก สักพักก็มีคนขึ้นมาเยอะขึ้นจึงได้เริ่มการแสดง นิทานของเราจะแบ่งเป็น2ช่วง คือการเดินทางของมนุษย์จิ๋วและมนุษย์จิ๋วใจดี การเดินทางของมนุษย์จิ๋วเป็นเรื่องที่พวกเราแต่งเองและได้มีการเว้นคำไว้เพื่อให้เด็ก ๆ ได้มีส่วนร่วมกับการแต่งนิทาน ซึ่งเด็ก ๆ ก็ชอบใจกันมาก หลังจากนั้นก็จะเป็นการสอนคำศัพท์เยอรมันกับครูอลิซ่าแล้วจึงค่อยเริ่มการเรื่องมนุษย์จิ๋วใจดี เราได้แสดงเป็นช่างรองเท้าซึ่งต้องพูดและมีการโต้ตอบสื่อสารกับเด็กทำให้เรายิ่งตื่นเต้นมาก แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เมื่อการแสดงจบลงพวกเราก็มีกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์โดยการพับโอริกามิเป็นเสื้อกับกางเกง ซึ่งเด็ก ๆ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ก่อนกิจกรรมจะจบลงทางสถาบันเกอเธ่ทำคุกกี้มาแจกให้กับเด็ก ๆ และพวกเราด้วย เป็นคุกกี้รูปมนุษย์จิ๋วซึ่งน่ารักมาก ๆ และอร่อยมาก ๆ ด้วย นอกจากนี้พวกเรายังได้ปริ้นสติ้กเกอร์มาแจกให้กับเด็ก ๆ ได้เอาไประบายสีที่บ้านแต่หากคนไหนยังไม่อยากกลับก็สามารถอยู่ระบายสีด้วยกันก่อนได้กิจกรรมนี้จบไวกว่าที่คาดไว้จึงเริ่มทำการเก็บของและจะกลับไปที่ห้องสมุด แต่ปรากฎว่ามีเด็กอีกกลุ่มหนึ่งขึ้นมา พวกเราไม่อยากให้น้องรูสึกไม่ดีจึงจัดการแสดงขึ้นอีกรอบแต่เล่าแค่เรื่องการเดินทางของมนุษย์จิ๋ว ซึ่งผลลัพธ์ก็เป็นไปตามคาด เด็ก ๆ ชอบมากและสนุกไปกับนิทานเรื่องนี้ พวกเขาชอบใจที่ได้มีส่วนร่วมไปกับนิทานและเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดจากคำที่พวกเขาใส่ลงไป

ระหว่างที่พวกเรากำลังเก็บของพี่ผึ้งก็บอกให้พวกเรารีบลงไปที่ห้องสมุดเนื่องจากทีมงาน a day รอถ่ายรูปพวกเราอยู่ วันนี้จบวันแบบมีความสุขมาก ๆ เลย