เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
OS/SF Monsta x STORYCacao
[Dreamverse] I’ll see you in my dreams - JOOHEON x I.M

  • I’ll see you in my dreams

    Couple : Jooheon x I.M
    by : Cacao











    *******


    ท้องฟ้ายามราตรีเต็มไปด้วยดวงดาวที่กำลังส่องแสงระยิบระยับหยอกล้อกับพระจันทร์สีเหลืองทองสวยอร่ามแสงสีทองสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า รอบๆวงกลมนั้นมีไอของแสงที่เหมือนโดนพระอาทิตย์โอบกอดอยู่เพราะพระจันทร์ไม่มีแสงเป็นของตัวเองจึงต้องการแสงจากพระอาทิตย์


    เหมือนกับเขาที่ต้องการโซลเมท


    เวลากลางคืนแบบนี้เป็นสิ่งที่เขาชอบที่สุดเพราะมันจะทำให้เขาฝันเห็นใครบางคนที่เป็นโซลเมทของเขาอาจจะไม่ได้พบกันทุกคืนแต่มันก็ยังดีกว่าไม่เห็นเลย วันนี้ก็เป็นอีกคืนที่เขาเฝ้ารอจะเจอใครคนนั้นร่างหนาเดินกลับจากระเบียงตรงไปยังห้องนอนเตรียมที่จะหลับไหลไปในความฝันที่รอเขาอยู่

    ความมืดปกคลุมไปทั่วมโนภาพจนเริ่มมีแสงจากตรงหน้าขึ้นมาทำให้เขารู้ว่าตอนนี้คงมาอยู่ในความฝันเรียบร้อยแล้ว ภาพที่เห็นวันนี้เป็นร้านคาเฟ่ที่ไม่คุ้นตาสักเท่าไรนักถึงเขาจะรู้ว่าที่นี้คือที่ไหนพอตื่นขึ้นมาเขาก็จะลืมไปหมดรวมถึงชื่อของโซลเมทมีเพียงหน้ากับลักษณะท่าทางเท่านั้นที่เขาจะจำได้ ข้างในร้านมีลูกค้าไม่มากทำให้ง่ายต่อการหาใครคนนั้น รอไม่นานสักพักก็มีร่างบางที่คุ้นตาเดินเข้าไปในร้านก่อนจะนั่งลงตรงโต๊ะมุมมืดของร้าน

    ใบหน้าเล็กได้รูปกับผิวเนียนละเอียดกำลังทำหน้าคิดหนักว่าวันนี้จะกินอะไรดีก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสั่งโกโก้ปั่นกับช็อกโกแลตชีสเค้กของหวานชวนน้ำหนักขึ้นนั้นอีก ไม่นานเกินรอน้ำกับของหวานก็ถูกเสิร์ฟลงตรงหน้า ปากเล็กดูดเอาน้ำสีเข้มขึ้นมาก่อนจะยิ้มอย่างพอใจมือเล็กตักเอาชีสเค้กที่อยู่ข้างๆขึ้นมาคำโตแล้วใส่เข้าปากเล็กๆเคี้ยวหนุบหนับกับขนมตรงหน้าสีหน้าน่าเอ็นดูแบบนี้มันน่าเหมาขนมทั้งร้านให้กินจริงๆนั้นแหละ

    เขาไม่รอช้าเดินตรงเข้าไปนั่งตรงข้ามกับร่างบางที่นั่งกินขนมอย่างเอร็ดอร่อยอยู่จนคนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองเขาไม่มีปฎิกิริยาอะไรตอบกลับมือเล็กยังคงตักขนมเข้าปากอยู่อย่างนั้น


    “อะไรกันไม่คิดจะทักกันหน่อยหรอ” จูฮอนที่เห็นคนตรงหน้าเมินก็ต้องท้วงขึ้นทันที

    “ก็กินอยู่ รอตั้งนานทำไมเพิ่งมา” ร่างเล็กมองมาด้วยสายตาคาดโทษถึงจะทำแบบนั้นแต่ในสายตาเขาก็มองว่ามันน่ารักเสมอ

    “คิดถึงหรอ”

    “เปล่า” 

    “ปากแข็งจังนะแบบนี้ต้องโดนทำโทษหรือเปล่าครับ” จูฮอนยกมือขึ้นเช็ดปากให้กับคนตรงหน้าเบาๆก่อนจะเอาเนื้อเค้กที่ติดอยู่ตรงนิ้วเข้าปากตัวเอง

    “ทำอะไรน่ะ สกปรก” คนตัวเล็กกำลังจะตีเข้าที่แขนแต่ก็ถูกมือหนาจับได้สะก่อน ปากหนาจูบลงบนมือเล็กนียนสวยเบาๆก่อนที่คนตัวเล็กจะรีบดึงมือกลับ “คนตั้งเยอะตั้งแยะจะมาจูบมือทำไมเนี่ย” พูดจบหน้าก็แดงฉ่าขึ้นมาทันที

    “กลัวอะไรละครับในนี้ก็แค่ความฝัน” นั้นนะสิเขาลืมไปสะสนิทว่าในนี้ความฝันจะทำอะไรก็ได้เพราะมันไม่ได้มีผลต่อชีวิตจริงแถมตื่นมาก็จำอะไรไม่ได้แล้ว

    “ว่าแต่....ชื่ออะไรนะ” 

    “จูฮอน แล้วชื่ออะไร”

    “ชางกยุน” อ่า ไม่รู้จะถามชื่อกันไปทำไมในเมื่อถามไปก็จำไม่ได้อยู่ดีรวมไปถึงพวกที่อยู่หรือข้อมูลส่วนตัวก็ด้วยแต่ก็แปลกที่พวกเขาเลือกที่จะถามชื่อกันทุกครั้งที่มาเจอกันในนี้


    พวกเรานั่งคุยกันในคาเฟ่อยู่อย่างนั้นถึงจะจำอะไรไม่ได้ก็จริงแต่กลับรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้มาเจอและแลกเปลี่ยนข้อมูลของกันและกันแค่นั่งมองหน้าเฉยๆยังรู้สึกเหมือนได้รับพลังงานเต็มที่เหมือนได้ชาร์จแบตนั้นแหละ

    มีคนกล่าวไว้ว่าเวลาของความสุขมักสั้นเสมอ แสงสว่างที่ตรงกระทบกับดวงตาเล็กทำให้เขารู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเช้าเขาต้องตื่นจากฝันและลากับคนตัวเล็กในนั้น ชื่ออะไรนะพยายามคิดก็คิดไม่ออกมืดแปดด้านจริงๆที่จะจำชื่อคนตัวเล็กได้ บ้าน ที่อยู่ แม้กระทั่งเบอร์มือถือต่อให้ถามเป็นสิบรอบก็จำไม่ได้

    ร่างหนาลุกออกจากเตียงหยิบเอาผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้ามาคลุมกลางลำตัวเอาไว้ก่อนจะเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายของตัวเองให้สะอาดสดชื่นก่อนเข้าบริษัท ชีวิตของเขาค่อนข้างหน้าเบื่อเพราะวันๆก็วนลูปอยู่แต่กับอะไรเดิมทำงาน กิน นอน นานๆครั้งจะมีออกไปกินเหล้ากับเพื่อนที่ทำงานบ้างส่วนหนึ่งที่เขาไม่ค่อยไปไหนก็เพราะอยากจะรีบกลับมาฝันถึงโซลเมทของตัวเองด้วยนั้นแหละ

    นาฬิกาบอกเวลาใกล้เลิกงานอีก 5 นาที จูฮอนเตรียมเคลียร์เอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะให้เข้าที่และไม่ลืมที่จะเก็บของบนโต๊ะให้เรียบร้อยถึงเขาจะเป็นผู้ชายที่ดูแมนๆเหมือนจะไม่มีระเบียบแต่ความจริงแล้วเขารักษาระเบียบดีไม่แพ้ใครๆเลยของเอามาจากตรงไหนก็ต้องเก็บเข้าที่ที่มันเคยอยู่จนบางทีเพื่อนร่วมงานก็แอบบ่นกับความเรียบร้อยของเขา





    ร้านมินิมาร์ทแถวคอนโดเป็นที่พึ่งเวลาเย็นๆที่เขาหิวแบบนี้เขาแวะมันบ่อยจนสนิทกับพนักงานในนั้นไปแล้วก็แน่แหละบางทีมันก็ไม่ใช่แค่ตอนเช้ากับตอนเย็นวันไหนที่เอางานมาทำที่คอนโดดึกๆเขาจะลงมาซื้อของไปกินอยู่บ่อยๆ


    “อ้าว พี่วันนี้กินไรอะมาม่าเหมือนเดิมหรอ” กีฮยอนเด็กพาร์ทไทม์เอ่ยทักเขาขึ้นทันทีที่เขาก้าวขาเข้ามาในร้าน

    “อืม ไม่รู้จะกินอะไรแล้ววะ” เขาตอบไปแบบเหนื่อยๆอาหารของคนทำงานแบบเขาในวันที่ขี้เกียจทำอะไรก็คงจะไม่พ้นเป็นไอเส้นหยิกๆนี่แหละที่เป็นเพื่อนตายยิ่งใกล้สิ้นเดือนยิ่งรักกันมาก

    “ระวังไตจะถามหาเอานะพี่” พูดจบไอเตี้ยหน้าเคาท์เตอร์ก็ขำออกมา


    เขาเดินตรงไปยังโซนมาม่ากับโจ๊กที่มีหลายรสหลายแพคเก็จให้เลือกสอยมีทั้งแบบซองพลาสติกกับแบบคัพเขาเลือกที่จะหยิบแบบซองมาเพราะมันได้ปริมาณที่เยอะกว่าแทบถูกกว่าตั้งหลายบาท พอได้ของที่ต้องการจากโซนนี้แล้วก็เปลี่ยนไปอีกโซนของร้านนั้นก็คือนมกล่องแปลกใจใช่ไหมละปกติคนรุ่นๆเขาเนี่ยจะต้องกินกาแฟแล้วหักโหมทำงานโต้รุ่งแต่ถ้าเขากินกาแฟแล้วจะฝันเห็นโซลเมทได้ยังไงเพราะฉะนั้นการดื่มนมก็ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว

    น้ำร้อนที่ข้างในนั้นมีเส้นสีน้ำตาลอยู่ในหม้อกำลังเดือดปุดๆส่งกลิ่นหอมที่บอกว่าถึงเวลากินได้แล้วชามใบใหญ่ถูกเตรียมไว้ข้างๆก่อนจะตักเอามาม่าลงชาม น้ำลายที่อยู่ในปากถูกกลืนลงคอเบาๆก่อนจะจัดการสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจนเกลี้ยงตบด้วยนมที่เพิ่งซื้อมาไปอีกหนึ่งกล่อง

    นั่งท้องตึงหนังตาก็หย่อนแต่ก่อนจะนอนเขาต้องอาบน้ำให้สะอาดสะอ้านเสียก่อนเดี๋ยวโซลเมทของเขาจะไม่ประทับใจ จูฮอนหยิบเอาผ้าขนหนูสีขาวเดินตรงเข้าไปยังห้องน้ำวันนี้เขาหยิบสบู่เหลวกลิ่นโปรดมาใช้ก่อนจะออกจากห้องน้ำใส่ชุดนอนเสร็จสรรพ

    เปลือกตาเล็กปิดลงเบาๆใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีร่างหนาที่นอนอยู่บนเตียงก็เข้าสู่นิทรา คืนนี้เป็นสถานที่ที่แปลกไปจากเดิมที่เขายืนอยู่ปกคลุมไปด้วยหญ้าเขียวชอุ่มกับแสงจันทร์ยามราตรีคนตัวเล็กที่นอนอยู่ก่อนหน้ากำลังจ้องมองดวงดาวอย่างใจจดใจจ่อที่นี้มืดมากพอที่จะเห็นดาวเยอะขนาดนี้


    “นอนลงสิ” ร่างเล็กเอ่ยก่อนจะตบพื้นที่ว่างข้างๆ
    จูฮอนเดินเข้าไปนอนลงข้างๆร่างเล็กก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีดวงดาวกับพระจันทร์ส่องแสงอยู่

    “สวยเนอะ” คนข้างตัวพูดขึ้นขณะที่ตายังคงจับจ้องดาวบนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่

    “อืม แต่มีอย่างอื่นที่สวยกว่า” เขาหันไปมองคนตัวสูงพูดอย่างไม่เข้าใจจะมีอะไรที่สวยไปกว่าดาวกับพระจันทร์ตรงหน้าเขาคิดไม่ออกเลย

    “อะไรหรอที่สวยกว่า”

    “นายไง” ยิ้มเจ้าเหล่ปรากฎขึ้นลักยิ้มสองข้างแก้มยิ่งเด่นชัดขึ้นแม้ว่าตรงนี้จะมืดแค่ไหนก็ตาม

    “บะบ้าบอ” เขาเก็บอาการเขินแทบไม่อยู่จริงๆกลั้นยิ้มให้ตายก็ยังเผลอยิ้มออกมาอีกทำไมคนๆนี้ถึงทำให้เขาเขินขนาดนี้นะ


    ทุกอย่างเงียบสงบไปเพราะบรรยากาศที่นี้ดีมากๆจนไม่อยากทำอะไรเลยลมเย็นที่พัดมาปะทะตัวเรื่อยๆทำให้เราทั้งสองเริ่มที่จะหนาวขึ้นมาเขาไม่ได้ใส่เสื้อกันหนาวมาด้วยตัวเขาไม่หนาวเท่าไรหรอกแต่เจ้าตัวเล็กข้างๆนี่สิตัวสั่นไปหมด


    “จะทำอะไรอะ” ร่างเล็กถามคนตัวสูงเพราะตกใจที่อยู่ๆหน้าของเราห่างกันไม่กี่เซนต์

    “เห็นว่าหนาวเลยจะทำให้หายหนาวไง”

    “ไม่ต้องเลย ไม่ได้หนาวสักหน่อย” อ่า ทำไมถึงดื้อขนาดนี้นะหนาวจนหน้าซีดตัวสั่นแล้วยังบอกว่าไม่หนาวอีก

    “ไม่หนาวก็ไม่หนาวครับ” จูฮอนบอกพร้อมกับเอนตัวลงนอนอีกครั้ง


    เขาหลับตาลงได้สักพักก็รู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆบนตัวจนต้องลืมตาขึ้นมามองเห็นร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆเมื่อกี้ได้ขึ้นมานอนซบอกเขาสะแล้ว 

    แสบจริงๆเลยนะ


    “ไหนบอกไม่หนาว”

    “ก็ไม่หนาวแต่กลัวคุณหนาวมากกว่า” เขาได้แต่ยิ้มให้กับคนปากแข็งที่ใช้ข้ออ้างกลัวว่าเขาหนาวเลยมากอดทั้งที่ตัวเองนั้นแหละที่หนาวจนตัวสั่นหมดแล้ว ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อได้แต่กอดกลับคนบนร่างแทน

    “เมื่อไรเราจะได้เจอกันสักที” เมื่อไรเขาจะได้เจอกันในชีวิตจริงยอมรับเลยว่าเขาอยากใช้ชีวิตกับเจ้าตัวเล็กและเวลาของเขาก็เริ่มเหลือไม่มากพอที่จะเจอกันแค่ในนี้

    “นั้นสินะ อีกไม่กี่วันผมต้องต้องย้ายบ้านบางทีเราอาจจะเจอกันก็ได้”

    “แล้วถ้านายไปไกลกว่าเดิมละ”

    “ตามหาผมสิ หาผมให้เจอสิคุณโซลเมท”




    รุ่งเช้ามาเยือนอีกครั้งแดดอ่อนๆปะทะกับร่างกายทำให้ร่างสูงขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะลืมตาขึ้นมา จูฮอนรู้สึกว่าครั้งนี้มันนานกว่าเดิมเขาฝันนานกว่าที่เคยฝัน

    หลังจากนั้นเขามักจะเจอคนตัวเล็กตามสถานที่ต่างๆในฝันเหมือนเคยแต่ทว่าไม่กี่วันต่อมาเขาก็ไม่ฝันเห็นโซลเมทของตัวเองอีกเลยมันคงจะไม่ดีแน่ๆถ้ายังไม่เจอโซลเมทยิ่งอายุเพิ่มเวลาที่จะเจอก็น้อยลงและนั่นอาจหมายความว่าเขาต้องหลับไปตลอดกาล

    แต่นั้นไม่ได้น่ากังวลเท่าเขาจะไม่ได้เจอกับตัวเล็กแล้ว จูฮอนกำลังคิดถึงคนที่เจอกันเป็นประจำในฝัน


    “เป็นไรวะมึง ทำไมทำหน้าแบบนั้น” เพื่อนตัวสูงของเขาถามขึ้นพร้อมกับนั่งลงข้างๆ

    “กูรู้สึกว่าช่วงนี้กูนอนนานขึ้นวะ”

    “ก็ดีแล้วปะ ดีกว่านอนไม่พอ”

    “ไอแชมึงลืมไปแล้วหรอว่าบางทีแม่งก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น”

    “เออวะ อีก 2 เดือนมึงก็จะ 30 แล้ว” แชนับนิ้วตัวเองก่อนจะทำหน้าวิตกกังวลเล็กน้อย

    “ใช่ว่ากูจะไม่เคยหลับลึกขนาดนี้นะแต่ช่วงนี้กูไม่ฝันเห็นเขาแล้ว กูกลัวว่าจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีก”

    “เห้ย มึงอย่าพูดแบบนั้นดิวะยังเหลือเวลาอีกตั้ง 2 เดือนก่อนจะวันเกิดมึง”

    “มึงก็พูดได้นิก็มึงเจอโซลเมทตัวเองแล้ว” จููฮอนปฎิเสธไม่ได้ที่ตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในจุดที่เครียดพอตัวเพราะสำหรับโลกที่เขาอยู่นั้นถ้าไม่ยังหาโซลเมทไม่เจอภายในอายุ 30 จากที่นอนหลับนานขึ้นก็จะกลายเป็นไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกเลยซึ่งนั้นคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแน่ๆ


    ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาอยากทำและยังไม่ได้ทำการเจอโซลเมทของตัวเองและได้กอดเจ้าตัวเล็กนั้นทุกวันก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เขายังทำไม่สำเร็จ บางทีก็นึกอิจฉาไอแชมันที่เจอโซลเมทของตัวเองตั้งแต่สมัยเรียน มินเป็นผู้ชายที่น่ารักและเอาเพื่อนตัวแสบของเขาอยู่หมัดนี่แหละเหมาะสมกันจริงๆ


    “ว่าแต่มึงเจอมินได้ไงวะ”

    “ก็กูเก่งไงครับ”

    “ห่า ถามดีๆอย่ากวนตีน”

    “กูก็แค่.....” แชทำหน้าชั่งใจไปพักนึงก่อนจะมองหน้าเขาอีกครั้ง

    “แค่?”

    “จ้างให้เขาสเก็ตภาพแลวกูก็ประกาศตามหา....”

    “ฮ่าๆๆ นี่มึงทำถึงขนาดนี้เลยหรอวะไอแช” เขาได้แต่หัวเราะออกมาเพราะเพื่อนที่เจ้าชู้เสืออันดับหนึ่งของรุ่นในตอนนั้นกลับไปจ้างคนสเก็ตภาพกับตามหาโซลเมทตัวเองกันเลยทีเดียว ชอบเขาตั้งแต่ก่อนเจอแล้วละสิ

    “หยุดขำเลย ถ้าปล่อยไว้แบบมึงอะไรนะถ้าคนคู่กันเดี๋ยวก็เจอเป็นไงละมึงจะตายอยู่ละยังจะรออยู่ไหม”

    “นี่กูต้องไปสเก็ตภาพแบบที่มึงทำจริงดิ” ได้แต่คิดแล้วก็เขินๆให้ไปสเก็ตภาพคนที่ตัวเองฝันถึงแล้วไปตามหาเนี่ยนะจะเจอหรือเปล่าก็ไม่รู้

    “เออดิ ไม่ทำแล้วมึงจะเจอไหมแล้วรีบๆกินข้าวอะเดี๋ยวจะเข้างานสายวันนี้เห็นบอกจะมีเด็กมาฝึกงานด้วย”



    กินข้าวเช้ากันเสร็จเขากับเพื่อนก็รีบพาตัวเองไปเข้างานก่อนที่เจ้านายจะเล่นงานสะก่อน อ่าวันนี้แชบอกว่าจะมีเด็กฝึกงานเขามาที่แผนกที่เขาอยู่เห็นว่าเป็นผู้ชายก็คงจะเป็นพวกไม่เอาการเอางานละมั้งแต่ที่น่ารำคาญก็คือหัวหน้าจะให้เขาฝึกงานให้ และตามคาดเขาต้องเหนื่อยกับการจ้ำจี้จำไช้เด็กคนนี้จนปวดหัวไปหมดงานก็ไม่เสร็จต้องเอากลับไปทำต่อที่ห้อง




    มินิมาร์ทเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลาแบบนี้ตาของเขาแทบจะปิดลงอยู่แล้ว จูฮอนเดินตรงไปหยิบกาแฟกระป๋องมาหนึ่งกระป๋องพร้อมกับมาม่าคู่ใจกับขนมขบเคี้ยวอีกเป็นกอง คืนนี้ยังอีกยาวไกลตุนเยอะๆจะได้ไม่ต้องลงมาซื้ออีกจูฮอนคิดแบบนั้นก่อนจะเดินไปคิดเงินที่หน้าเคาท์เตอร์

    วันนี้ตรงเคาท์เตอร์แปลกไปนิดหน่อยเพราะปกติเวลาห้าทุ่มแบบนี้จะต้องเป็นกะของกีฮยอนเด็กพาร์ทไทม์ที่เขาสนิทด้วยอยู่แต่คนที่ยืนหันหลังจัดของอยู่ดูยังไงก็ไม่ใช่เจ้าเปี๊ยกนั้น

    “เอ่อ ขอโทษครับคิดตังค์ด้วยครับ” เมื่อเห็นว่าคนหน้าเคาท์เตอร์ไม่มีทีท่าว่าจะหันมาเขาจึงต้องเรียกให้พนักงานคนนั้นหันมา

    “ครับๆ” คนข้างหน้ากำลังหันมาคิดเงินให้เขาแต่มีเสียงเรียกที่ดังขึ้นมาข้างๆทำให้เขาต้องหันไปมองตามเสียง

    “เดี๋ยวฉันคิดเงินเอง นายกลับบ้านเถอะ” กีฮยอนที่เดินเข้ามาบอกกับพนักงานข้างหน้าก่อนจะมาคิดเงินให้เขา

    “ครับๆ”

    “ขอบใจมากนะชางกยุนที่มาเฝ้าแทนเพิ่งมาทำแท้ๆ”

    “ไม่เป็นไรครับ” คนตัวเล็กส่งยิ้มให้รุ่นพี่ในร้านก่อนจะโค้งตัวแล้วเดินหายไปหลังร้านทันที


    จูฮอนที่มองอยู่ก็ได้แต่สงสัยในใจผู้ชายตัวเล็กที่เพิ่งเดินไปมีบางอย่างที่เขารู้สึกคุ้นเคยแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนใครสักคนที่เขาเฝ้ารออยู่

    ใช่แล้ว ต้องใช่คนที่เขาคิดถึงอยู่แน่ๆ

    ขายาวรีบสาวเท้าเข้าไปหลังร้านแต่ก็ถูกกีฮยอนเขามาดึงไว้ แน่ละหลังร้านไม่ได้รับอนุญาติให้บุคคลภายนอกเข้าซึ่งที่เขาทำอยู่มันคือการบุกรุกเมื่อคิดได้ดังนั้นก็รีบขอโทษขอโพยดีที่กีฮยอนไม่ได้ถือสาอะไรเขาจึงปล่อยๆไปแต่ก็ไม่วายโดนบ่นแต่ตอนนี้เขาไม่ได้คิดอะไรนอกจากคนที่อยู่หลังร้าน

    จูฮอนเลือกที่จะมารออยู่ข้างหน้ามินิมาร์ทใจเขากำลังสั่นระรัวเมื่อคิดว่าจะได้เจอกับโซลเมทแล้ว อะไรที่ทำให้เจามั่นใจว่าใช่นั่นคงเป็นรอยสักบนข้อมือที่เขาแอบสังเกตเห็นตอนอยู่ในร้าน รอยสักที่เหมือนกับเจ้าตัวเล็กของเขาไม่มีผิด

    รอไม่นานร่างเล็กที่คุ้นตาเดินออกมาจากร้าน มือหนาคว้าไปที่ข้อมือเล็กออกแรงเล็กน้อยให้คนตรงหน้าหันมา คนตัวเล็กดูจะตกใจไม่น้อยที่ตอนดึกดื่นแบบนี้มีคนมาดักรอเขาอยู่หน้าร้าน

    “เห้ย ปล่อยนะ!” ร่างเล็กพยายามสะบัดมือออกแต่ก็ไม่เป็นผล

    “ปล่อยไม่ได้หรอกชางกยุน”

    ไม่มีคำตอบรับอะไรกลับมามีแต่ดวงตากลมที่เบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้าของเขา แปลกมากทั้งที่ตอนแรกเขาจำอะไรไม่ได้เลยแต่พอเจอหน้ากันทุกอย่างกำลังไหลกลับมาอีกครั้ง

    “ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรอ”

    “พี่จูฮอนจริงๆหรอ” คนตรงหน้ายังดูไม่เชื่อสิ่งที่ตาตัวเองเห็นเท่าไร

    “ตัวจริงเสียงจริงครับ” รอยลักยิ้มที่เขาชอบปรากฎขึ้นอีกครั้งนั้นทำให้ชางกยุนเชื่อว่าเขาไม่ได้ฝันไป

    ร่างเล็กโผล่เข้าหาอ้อมกอดของร่างสูงทันทีที่ประมวลผลได้ คิดถึง ชางกยุนคิดถึงจูฮอนเหลือเกินใบหน้าที่ชวนมองกับสัมผัสอบอุ่นแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

    “ฮึก..หายไปไหนมา” น้ำใสๆค่อยๆหยดลงมาทำให้จูฮอนต้องซับน้ำตานั้นด้วยมือเปล่า

    “พี่ต้องถามนายมากกว่าว่าหายไปไหน”

    “ก็แค่ย้ายบ้านมาอยู่แถวนี้หลังจากนั้น....ก็ไม่เจอพี่อีก”

    เขาว่าเขาพอเข้าใจสถานการณ์แล้วเท่าที่รู้มายิ่งโซลเมทอยู่ใกล้กันยิ่งไม่ฝันถึงกันแบบนี้นี่เองนะ


    “คิดถึง”

    “อือ คิดถึงเหมือนกัน”

    ไม่มีคำพูดอะไรต่อจากนั้นมีเพียงร่างของคนทั้งสองกอดกันด้วยความคิดถึงซึ่งกันและกันอยู่อย่างนั้นจนเวลาผ่านไปเท่าไรก็ไม่อาจรู้ได้แต่ที่แน่ๆเขาไม่มีวันปล่อยให้เจ้าตัวเล็กนี่หายไปไหนอีกแล้ว






    -END-

    จบแล้ววว เป็นการเขียน Dreamverse ครั้งแรกของเราไม่รู้ว่าสื่อออกมาถูกหรือเปล่านะคะ เราแต่งตามที่เข้าใจจากที่ไปทำการศึกษามา ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยค่ะ







Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in