เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#นักปรุงยาอัจฉริยะแห่งไอเอลไฮลม์SolitaryRabbit
ยาแห่งความเยาว์วัย
  •                ...เมื่อคุณไม่สบาย คุณก็จำเป็นต้องไปหาหมอสักคน...

                   ...เขาคนนั้นเองก็เป็นหมอ เขาเป็นหมอยา และก็เป็นเจ้านายของฉัน...

                   ...แต่เขาจะไม่ได้บรรเทาความเจ็บปวดของคุณ สิ่งที่เขาทำก็คือการ...gx]ujpocx]'9y;86I...



                   เมื่อผู้คนทุกข์ยาก คนผู้นั้นจะภาวนา...

                   เทวดาเจ้าข้า เทวดาเจ้าขา โปรดให้ข้าได้มีกิน...

                   พระองค์เจ้าข้า พระองค์เจ้าขา โปรดให้ข้านั้นมีเงินทอง...

                   ทว่าไม่มีเสียงจากพระเจ้าที่ไหนหรอกที่จะตอบรับเขาเหล่านั้น...

                   "ท่านหมอเจ้าคะ โปรดช่วยลูกชายของข้าด้วย ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรข้าก็ยอมทั้งนั้น"

                   "เรื่องนั้นน่ะจริงเหรอคะ?"

                   ประตูเปิดแง้มออกให้เห็นกรอบแว่นเงินบางๆของคนผู้หนึ่ง ด้านหน้าประตูมีหญิงสาวกำลังคุกเข่าร้องไห้ เธออุ้มเด็กทารกน้อยไว้ในอ้อมแขน

                   "เรื่องนั้น?"

                   "ที่ว่าไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรนั่นน่ะ"

                   "ไม่ว่าอะไรก็ยอมเจ้าค่ะ!"

                   "เช่นนั้นก็ดี ขอยินดีต้อนรับท่านค่ะ"

                   เมดสาวชุดสีฟ้าเปิดประตู ผายมือ เอ่ยเชื้อเชิญหญิงสาวเข้าด้านใน รอยยิ้มของเธอช่างงดงามเธอยิ้มไปถึงดวงตาที่อยู่ใต้กรอบแว่นนั้น

                   "ท่านหมอหรือเจ้าคะ?"

                   "ฉันเป็นเพียงผู้ดูแลเท่านั้น เจ้านายของฉันกำลังรอท่านอยู่ค่ะ"

                   หญิงสาวเผยยิ้มทั้งน้ำตา เหมือนเห็นแสงแห่งความหวังอยู่ไม่ไกลข้างหน้า เธอรีบตามเมดสาวเข้าไปด้านใน

                   แล้วประตูบานใหญ่ก็แง้มปิดลง





                   "มาอยู่ที่นี่นี่เอง"

                   เมดสาวเปิดประตูเข้ามาอีกห้องหนึ่ง เธอมาเพียงคนเดียวไม่ได้พาหญิงอีกคนมาด้วย

                   ในห้องมีชายคนหนึ่ง เขาสวมชุดอย่างง่ายๆราวกับเอาผ้ามาพันไว้ ผมสีเขียวราวทะเลสาปมรกตแผ่ขยายอยู่ด้านหลัง และด้วยตาข้างหนึ่งของเขาถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าพันแผล

                   "ว่าไงเอเดน มีลูกค้าเหรอ?" ชายคนนั้นวางกล้องยาสูบลง เอียงคอถามหน่อยๆอย่างสบายอารมณ์

                   "ใช่ค่ะ ยังไม่รีบไปอีก เลิกสูบยาได้แล้ว เปลี่ยนเสื้อด้วยค่ะ กลิ่นติดเสื้อไปลูกค้าได้สงสัยแน่ๆ เธอพาเด็กมาด้วย"

                   "โอ้...จะใช่เด็กจริงๆรึเปล่าน้า?" ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีเลศนัย



                   "ในที่สุดท่านก็มา ขอบคุณพระเจ้า" หญิงสาวร้องออกมาอย่างยินดี

                   "ท่านหมอ โปรดช่วยลูกของข้าด้วยเถอะเจ้าค่ะ"

                   "เด็กคนนั้นเป็นอะไรงั้นหรือ?" ชายหนุ่มมัดผมเรียบร้อย สวมชุดสูทสีม่วง และหมวกไหมทรงยาวสีเดียวกัน ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ชุดของหมอ แต่หญิงสาวไม่สนใจเรื่องนั้นแม้แต่นิดเดียว

                   "ลูก...ลูกชายของข้า ตั้งแต่เกิดมาก็มีหน้าตาเช่นนี้" หญิงสาววางเด็กทารกในห่อผ้าลง เมื่อคลี่ผ้าออกมาก็พบว่าใบหน้าของเด็กนั้นเหี่ยวย่น ไม่ใช่เหี่ยวแบบเด็กแรกเกิด แต่เหี่ยวแก่และแห้งอย่างชายชรา

                   "ข้าไม่ได้รังเกียจลูกข้าเลย แต่แม่สามีก็บอกว่าจะต้องฆ่าลูกชายข้าทิ้ง ข้าจึงขอร้องนางว่าหากมีหมอที่ช่วยลูกชายข้าได้ก็อย่าได้ฆ่าเขาเลย"

                   "โอ้ เป็นเช่นนี้นี่เอง...ท่านถึงอยากให้เราช่วย"

                   "ท่านหมอ ท่านช่วยข้าได้หรือไม่ ไม่ว่าท่านขออะไรข้าก็จะตอบแทนท่านให้ได้"

                   "ได้แน่นอน"

                   ใบหน้าของหญิงสาวเปี่ยมไปด้วยน้ำตาและความหวังว่าลูกของเธอจะได้รับการรักษาและมีชีวิตอยู่ต่อไป

                   "เราเป็นนักปรุงยา ไม่ใช่หมอหรอกนะ เราแก้ปัญหาด้วยยาที่เราปรุงขึ้น ฉะนั้นท่านช่วยอยู่ที่นี่จนกว่าเราจะปรุงยานี้เสร็จ"

                   "ห...หากขาดเหลืออะไรฉันจะช่วยเต็มที่เจ้าค่ะ" หญิงสาวพูดอย่างร้อนรน เธอไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างหมอกับนักปรุงยานัก แต่นักปรุงยาก็ทำยาที่รักษาผู้คนได้ ฉะนั้นต้องไม่เป็นไรอย่างแน่นอน

                   เธอวิ่งโร่ไปยังหมอที่มีชื่อเสียงต่างๆมากมาย รีบเร่งแต่ก็ถูกปฎิเสธการรักษา

                   ไม่ว่าหมอคนใดต่างก็บอกว่าโรคนี้ไม่สามารถรักษาได้

                   ไม่มียารักษาแขนงใดจะช่วยเยียวยาเด็กน้อยคนนี้ได้

                   แต่เธอยังคงไม่ยอมแพ้ เธอรีบเร่งไปยังทุกที่ที่ไปได้

                   ใครก็ได้ ได้โปรดช่วยเด็กคนนี้ ก่อนที่เขาจะถูกฆ่า

                   เธอเหน็ดเหนื่อยมามากมาย หลังจากที่เริ่มสบายใจจึงได้ผลอยหลับไปบนโซฟารับรองแขกนั้นเอง




                   "เอเดน ช่วยหยิบไอนั่นให้หน่อยสิ"

                   "ใกล้มือขนาดนี้ยังใช้ฉันอีกนะคะ" เมดสาวขยับแว่นก่อนก้มลงเปิดตู้ยาใบหนึ่งจากหลายสิบร้อยใบในห้องเก็บวัตถุดิบ

                   "ใบหน้าของเด็กคนนั้นแก้ได้จริงๆงั้นเหรอคะ ไม่ใช่ว่าเป็นคำสาป?" เธอถาม

                   "ถึงเป็นคำสาปเราก็แก้ไขให้ได้หมดนั่นแหละ แต่นั่นเรียกว่าเป็นโรค...ไม่สิความผิดปกติทางร่างกายอย่างหนึ่งน่ะ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่ก็น้อยมากที่จะเกิดล่ะนะ"

                   "ความผิดปกติทางร่างกาย? เช่นนั้นไม่แก้ยากยิ่งกว่าคำสาปหรือคะ ไม่ใช่โรคทั่วไปด้วย"

                   "ก็นะ...ยังไงก็ไม่ได้คิดที่จะแก้ไขที่ตรงนั้นอยู่แล้ว เราไม่ใช่คนปรับปรุงแก้ไขหรือรักษาสักหน่อย" 

                   "ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่แต่น่าขนลุกจังค่ะ"

                   "แต่สภาพแบบนั้น ถึงไม่ถูกฆ่าตายก็คงตายด้วยอายุขัยที่สั้นอยู่ดีล่ะนะ เพราะงั้นเราก็เลยจะทำให้มีอายุขัยมากขึ้นไงล่ะ ฮุฮุ"

                   "น่ารังเกียจมากจริงๆค่ะ"





                   หญิงสาวตื่นขึ้นเมื่อรู้สึกถึงไอร้อนจากหม้อต้มยา

                   ด้านในสุดของโถงรับแขกอันกว้างขวางนี้มีหม้อยาขนาดใหญ่ราวกับหม้อยาพิษของแม่มดตั้งอยู่ ตอนนี้มันถูกจุดไฟ น้ำในหม้อเดือดปุดไปด้วยความร้อน

                   "จ...จะเริ่มปรุงยาแล้วหรือเจ้าคะ?"

                   แม้เธอจะรู้สึกแปลกๆกับภาพตรงหน้า แต่เธอก็ยังคงเชื่อมั่นว่าอีกฝ่ายจะรักษาลูกชายตัวเองได้ จึงพยายามทำใจดีสู้เสือ เดินกล้าๆกลัวๆเข้าไปดู

                   "ใช่แล้วค่ะ กรุณาระวังหน่อยนะคะ น้ำเดือดอาจจะกระเด็นไปโดนได้" เมดสาวตอบ

                   "จะระวังเจ้าค่ะ"

                   ชายนักปรุงยาเมื่อเห็นน้ำเดือดได้ที่แล้วก็เริ่มใส่ วัตถุดิบ ต่างๆ ลงไปตั้งแต่สมุนไพรไปจนถึงสิ่งของแปลกๆสีดำที่มองไม่ออกว่าคืออะไร ภาพนั้นดูเหมือนพ่อมดที่กำลังปรุงยาที่น่าสะพรึงกลัวอยู่อย่างไรอย่างนั้น

                   "น...นั่นคืออะไรหรือเจ้าคะ?"

                   "อืม...อยากรู้จริงๆหรือคะ?" เมดสาวถาม

                   หญิงสาวไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าหากว่ามันช่วยลูกชายของเธอได้จริงๆ มันจะเป็นอะไรก็ได้ไม่ใช่หรือ ต่อให้ชายตรงหน้าคือปีศาจร้าย เธอก็จะต้องพึ่งเขา นั่นเพราะไม่มีใครที่ช่วยเธอได้อีกแล้ว เธอหลับตากลั้นใจก่อนจะค่อยๆส่ายหน้าช้าๆ

                   "งั้นเหรอคะ" เมดสาวยิ้ม

                   "นี่ เอเดน...ดูเหมือนส่วนประกอบสำคัญจะหมดซะแล้วสิ ใช้ของเธอได้ไหม?"

                   เมดสาวมองไปยังขวดเปล่าที่ชายหนุ่มเหวี่ยงเล่นไปมาแล้วจึงตอบรับ "ช่วยไม่ได้นะคะ"

                   หญิงสาวงุนงงมองคุณเมดที่ค่อยๆถกแขนเสื้อขึ้นมา

                   "เอ่อ คุณเมด...นั่นคือ?"

                   ทั้งๆที่เพิ่งถูกเมดสาวเตือนไปว่าอยากรู้จริงๆหรือ และเธอได้ตอบว่าไม่ไปแล้ว แต่เธอก็ตกใจจนเผลอถามอีกจนได้

                   ชายนักปรุงยาไม่ได้เข้าอกเข้าใจคนอื่นมากขนาดนั้น เขาจึงตอบไปตรงๆว่า

                   "อ้อ เลือดของสาวพรหมจรรย์ยังไงล่ะ เห็นอย่างนี้ แต่เราก็ไม่เคยทำอะไรเมดของตัวเองหรอกนะ"

                   สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ประโยคหลัง แค่คำว่าเลือดก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกตกใจ ทั้งๆที่เตรียมใจเอาไว้แล้วแท้ๆ

                   แต่บางทีก็มีการกินเลือดสัตว์ แค่ใช้เลือดมนุษย์มาประกอบยา ก็คงเป็นไปได้นั่นแหละ เธอปลอบใจและเริ่มคิดเข้าข้างตัวเอง

                   "พูดมากจังนะคะ" เมดสาวยื่นแขนไว้เหนือหม้อ ก่อนที่จะใช้มีดค่อยๆกรีดแขนของตัวเอง เลือดจากแขนไหลซึมและหยุดลงในหม้ออย่างช้าๆ จนน้ำในหม้อค่อยเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม

                   "โอเคพอแล้วแหละ รีบไปทำแผลซะนะ"

                   "นึกว่าจะใช้จนหมดตัวซะแล้วนะคะ..." แม้สีหน้าจะซีดเผือดเพราะเสียเลือดไปไม่น้อย แต่เมดสาวก็ยังคงโต้ตอบกลับไป เธอผละตัวไปทำแผลของตัวเอง

                   "เอ่อ ให้ข้าช่วยทำแผลนะคะ..." หญิงสาวไม่อยากจะอยู่กับชายคนนั้นสองต่อสอง เธอรู้สึกว่าอยู่กับเมดสาวยังดูสบายใจซะกว่า

                   "ขอบคุณนะคะ เชิญทางนี้ค่ะ" หญิงสาวกลับไปอุ้มลูกชายที่โซฟาก่อนจะเดินตามเมดสาวไป





                   หญิงสาวค่อยๆพันผ้าพันแผลให้กับเมดหลังจากที่เจ้าตัวล้างแผลและปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว

                   "คือว่า...ยาของท่านนักปรุงยาจะช่วยลูกชายข้าได้จริงๆใช่ไหมคะ?" หญิงสาวถาม เธอเริ่มสองจิตสองใจ

                   "ฉันเชื่อมั่นในตัวนายท่านค่ะ ลูกชายของท่านจะต้องหายจากอาการนั้นอย่างแน่นอน" เมดสาวยิ้มให้ หญิงสาวจึงรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง

                   เธอ...เชื่อชายคนนั้นได้จริงๆใช่ไหม?





                   เมื่อกลับมาในห้องโถง ชายนักปรุงยาก็ยังคงปรุงยาของเขาต่อ เขาบอกว่าจะต้องรออีกสักหน่อย พร้อมกับคนของเหลวในหม้อไปด้วยเป็นพักๆ

                   ระหว่างนั้นเมดสาวก็นำมื้อดึกมาเสิร์ฟให้กับนายท่านและแขก

                   "เพราะคุณดูอ่อนเพลียฉันจึงนำอาหารอ่อนๆมาให้แทน เป็นซุปจะได้ไหมคะ?"

                   "อ๊ะ ขอบคุณมากเจ้าค่ะ" เธอไม่ได้ปฏิเสธ และเมื่อเห็นว่ามันเป็นอาหารธรรมดาแถมยังมีรสชาติดีเธอจึงรู้สึกวางใจที่นี่มากยิ่งขึ้น

                   "เอ่อ ข้าพอจะขอน้ำร้อนเพื่อชงนมได้ไหมคะ"

                   "..." เมดสาวนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะว่า "ได้สิคะ"

                   ทั้งคนทั้งเด็กก็ทานอาหารของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแต่รอยาเสร็จเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านเลยไปหนึ่งชั่วยาม เธอที่เผลอหลับไปก็ถูกเมดสาวปลุก"

                   "ดูเหมือนจะได้ที่แล้วนะ..." ชายหนุ่มตักของเหลวสีแดงข้นคลั่กราวกับเลือดขึ้นมาจากหม้อใหญ่ ก่อนจะกรอกมันเข้าไปในขวดแก้วลายงดงามหรูหราขนาดเท่าฝ่ามือ

                   "ยาตัวนี้จำเป็นต้องใช้ทีละนิด ท่านป้อนให้เด็กครั้งละ1ช้อนโต๊ะ หลังเวลาอาหารสามมื้อ ใช้จนหมดขวดก็น่าจะหายดีเรียบร้อย ท่านจะลองดูก่อนก็ได้"

                   หญิงสาวรับยามาก่อนจะทำตามที่ชายหนุ่มว่าอย่างกล้าๆกลัวๆ

                   เมื่อทารกได้รับยาเข้าไปแล้วก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นทีละนิด ใบหน้าที่เคยแก่ชรากลับค่อยๆเต่งตึงขึ้นมาผิวหนังเริ่มนุ่มนิ่มเหมือนเด็กธรรมดาทั่วไปไม่แห้งกร้านแม่แต่น้อย

                   หญิงสาวขยี้ตา นึกว่าตัวเองคงฝันไป นี่มันราวกับปาฏิหาริย์เลยจริงๆ เธอไม่คิดว่ามันจะได้ผลมากถึงขนาดนี้

                   "ขอบคุณท่านมากจริงๆ" เธอร้องไห้ออกมา

                   "ไม่เป็นไร แต่ถึงจะดีขึ้นแล้วก็ให้ทานจนกว่าจะหมดขวดล่ะ ไม่อย่างนั้นถึงพากลับมาอีกเราก็ช่วยไม่ได้แล้วนะ" ชายหนุ่มเน้นย้ำ

                   "แน่นอนเจ้าค่ะ ข้าจะทำตามที่ท่านบอกอย่างเคร่งครัดแน่นอน"

                   "ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้โชคดีล่ะ"

                   "ล...แล้วสิ่งแลกเปลี่ยนล่ะเจ้าคะ?"

                   "เรื่องนั้น เราได้มาแล้วล่ะไม่ต้องห่วง"

                   หญิงสาวงุนงงแต่ก็ยอมกลับไปโดยพูดขอบคุณไม่หยุด





                   "หญิงสาวคนนั้น..." เอเดนพูดขึ้นหลังจากเธอจากไป

                   "ว่าไง?"

                   "เธอไม่เคยตั้งครรภ์"

                   "เจ้าก็รู้เหรอ?"

                   "ค่ะ ทีแรกฉันก็ไม่ได้เอะใจ เพราะเธอบอกว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกชาย แต่ว่า...ทารกดูอายุไม่ได้มากไปกว่า3เดือนเลย และเธอก็ไม่ได้ท้องโตด้วย"

                   "หญิงที่ท้องยุบเร็วแม้จะเพิ่งคลอดไม่นานก็มีเหมือนกันนะ และทารกคนนั้นก็ใบหน้าแก่ แม้จะกลับเป็นแบบนั้นแล้ว แต่อาจจะไม่ตรงตามอายุเดือนของเด็กก็ได้นา" ชายหนุ่มเถียง แต่น้ำเสียงนั้นไม่ได้เหมือนคนที่ต้องการเอาชนะ กลับเหมือนกำลังลองเชิงของอีกคนอยู่มากกว่า

                   "แต่เธอขอน้ำร้อนเพื่อชงนมด้วยนะคะ ถ้าเพิ่งคลอดก็น่าจะมีน้ำนมสิคะ ไม่เห็นต้องชงเองเลย"

                   "มันก็มีเหมือนกันไม่ใช่เหรอ แม่ที่ให้นมเด็กไม่ได้เพราะนมไม่ได้มาตรฐานน่ะ"

                   "ถึงอย่างนั้น..." เอเดนอยากจะเถียงเขาเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่รู้ว่าต้องพูดอย่างไรแล้ว

                   "ก็นะ...ไม่ว่าเธอจะพูดยังไงเธอก็ไม่รู้ความจริงอยู่ดีเพราะเธอไม่ได้ถามหญิงสาวคนนั้นเองนี่นา" ชายนักปรุงยาหัวเราะก่อนจะเดินจากไป

                   "ก็จริงนะคะ" เธอยอมรับก่อนจะไปทำงานของตัวเองต่อ






                   กาลครั้งหนึ่ง ในตระกูลขุนนางอันสูงศักดิ์ ได้มีคำทำนายว่าเด็กชายที่เกิดมาในตระกูลนี้และมีใบหน้าอัปลักษณ์จะโตขึ้นมาทำลายตระกูลจนหมดสิ้น

                   นายหญิงของตระกูลและสาวใช้คนหนึ่งได้ตั้งครรภ์ขึ้นมาพร้อมกัน สาวใช้ที่ดูแลการทำคลอดพบว่าลูกชายของนายหญิงนั้นมีใบหน้าที่อัปลักษณ์ แต่เธอไม่ต้องการให้เด็กชายที่เกิดจากนายหญิงที่เธอรักถูกฆ่า เธอจึงแอบสลับตัวเด็กกับลูกของสาวใช้อีกคนนึง ก่อนจะบอกสาวใช้ที่เพิ่งคลอดลูกคนนั้นว่า "ลูกของเจ้าอาการไม่ดีมาก หมอที่เชิญมาดูแลรักษาไม่ได้ ข้าจะไปตามหาหมอที่รักษาได้อย่างเร็วที่สุดเพื่อให้ลูกของเจ้ามีชีวิตรอด" ก่อนจะรีบจากไป

                   สาวใช้จากไปหลายวันจนนับเดือน เธอก็กลับมาพร้อมกับเด็กน้อยที่เป็นปกติทุกประการ เธอสารภาพความจริงครึ่งหนึ่งกับทุกคนว่าเธอสลับเด็กทั้งสองคนเพราะกลัวว่านายหญิงจะเป็นกังวลเรื่องลูก เธอถูกลงโทษจากขุนนางจนถึงแก่ชีวิต ทารกน้อยทั้งสองได้กลับสู่ที่ๆควรจะอยู่อย่างถูกต้อง(?)

                   วันเวลาผ่านไปลูกชายของขุนนางก็เติบโตขึ้นเป็นหนุ่ม และในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็มีข่าวลือในหมู่บ้านว่ามีแวมไพร์ออกอาละวาด ผู้หญิงในเมืองได้ถูกพบเป็นศพซูบซีดราวกับถูกดูดเลือดไปเดือนละคนสองคน

                   เรื่องราวถูกสืบสวนไปจนถึงตระกูลของขุนนาง

                   "บุตรชายของท่านเป็นแวมไพร์"

                   แม้ขุนนางจะไม่เชื่อ แต่ประชาชนก็กดดันขึ้นเรื่อยๆ ลูกชายจึงยอมบอกว่าตัวเขาเป็นคนทำแบบนั้น แต่เขาไม่ใช่แวมไพร์ เขาทำเพราะหากไม่ได้ดื่มเลือดตัวเขาก็จะแก่ลงและเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ขุนนางและนายหญิงได้ยินก็โศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากเพราะได้รักลูกชายของตนไปแล้ว ขุนนางรับไม่ได้จึงบอกกับลูกว่าเขาต้องฆ่าลูกชายด้วยความจำเป็นจริงๆ ลูกชายก็ยอม

                   หากแต่นายหญิงไม่ยอมรับ เธอฆ่าสามีของตัวเองเพื่อไม่ให้เขาฆ่าลูกชาย ก่อนจะบอกให้ลูกชายดื่มเลือดของตัวเองจนหมด ลูกชายไม่อยากทำเช่นนั้นแต่ก็ยอมเชื่อฟังด้วยความรักที่มีต่อแม่ เขาดื่มเลือกของนายหญิงไปร้องไห้ไป หลังจากนั้นตระกูลขุนนางนั้นก็ล่มสลาย ไม่มีใครรู้ว่าลูกชายไปอยู่แห่งหนใด และไม่มีใครรู้ว่าเขากลายเป็นแวมไพร์ด้วยเหตุใด...

    +++

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in