เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
งาน(เขียน)ของวันนี้w.allflower
DAY83: กลับบ้านเรา กับข้าว(และการเมือง)รออยู่


  • การกลับบ้าน(ต่างจังหวัด)ในครั้งนี้ ทำให้มองเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างมากขึ้น บ้านฝั่งแม่ กลับไปเจอ ตายาย ป้าลุง ลูกพี่ลูกน้อง หลาน ๆ ทั้งหลาย

    ออกเดินทางตอนสี่ทุ่มของวันที่ 3 กันยายน ถึงที่หมายตอนเก้าโมงเช้าของวันถัดมา เรียกได้ว่านั่งรถมาราทอนกันเลยทีเดียว ที่นี่ไม่มีสนามบิน ถึงมีก็คงสู้ค่าตั๋วเครื่องบินไม่ไหว คราวนี้มีลุงกับลูกชายกลับด้วย เบียด ๆ กันไปหกคนบนรถหนึ่งคัน ถึงบ้านที่ตากับยายอยู่ก็ทยอยขนของ กอดตายายให้หายคิดถึง เจ้าตังค์กับเมี้ยวด้วย ตังค์คือมาเดินวนอยู่หว่างขา จะเลียท่าเดียว ตัวนี้กลิ่นฟุ้งเลยยังไม่ได้อาบน้ำ ส่วนเมี้ยวน่ารักเหมือนเดิม แมวที่เชื่องที่สุดในโลก ก.ไก่ล้านตัว

    ตังค์และเมี้ยว 
    (ตาบอกว่าเป็นแมวไม่มีชื่อ เรียกแต่เมี้ยวอย่างเดียว)


     

    ตั้งแต่จำความได้ เวลากลับมาทีไรพี่ๆจะต้องทำเมนูไก่บ้านให้กินตลอด ดูเหมือนว่าตาอยากทำเมนูไก่บ้านให้กินมาก ๆ เหมือนเป็นวัฒนธรรมของที่นี่เวลาญาติพี่น้องกลับมา จะมีการฆ่าสัตว์เพื่อทำอาหาร  ตอนเด็ก ๆ กลัว ยิ่งกว่าการไม่กล้าดู คือไม่กล้ากิน ส่วนตอนนี้ก็ยังไม่ชินตาเหมือนเดิม แต่กินได้บ้างแล้ว แปะภาพกลั่นไก่พี่มือลูกป้าให้ได้ชมกัน


    กลั่นไก่ (ไก่ใต้น้ำ)
    อร่อย ตาบอกว่าไก่เด็ก สรุปทำไม่นาน เนื้อเลยไม่นุ่ม และเป็นนี่คือไก่แก่ ก๊าก 


    เพิ่งรู้ว่ากลั่นไก่มีอีกชื่อว่า ไก่ใต้น้ำ ปกติกลับมาที่นี่กี่ครั้งก็ได้ยินแค่ชื่อแรก ลองกดหาข้อมูลเพิ่มเติมดูถึงได้รู้ว่าเรียกกันหลายชื่อ เปิดโลก ไม่รู้ขั้นตอนการทำเพราะหลบไปนอน เหนื่อยไม่ไหว



    ส่วนเจ้านี่คือต้นอะไรไม่รู้ เห็นขึ้นอยู่ริมรั้วตอนแรกนึกว่ามะเขือ แต่ว่าไม่ใช่ สรุปแล้วมันคือต้นอะไร 
    ก็ไม่รู้...


    สองรูปบนคืือดอกไม้ที่ถ่ายได้ มีอีกแต่ว่าไม่ได้เดินลุยไปถ่าย
    ส่วนสองรูปล่าง ถ่ายที่นา


    ป้าบอกว่าปีนี้น้ำไม่มี ซึ่งทุกปีก็เป็นปัญหามาตลอด ปกติแปลงหนึ่งได้ยี่สิบกระสอบถ้าจำไม่ผิด เดี๋ยวนี้ได้ไม่กี่กระสอบ เข้าเนื้อ ปลูกเอง กินเอง ไม่ได้ปลูกขาย ครอบครัวฝั่งแม่ทำนามาตั้งแต่เรายังไม่เกิด นี่คือข้อดีข้อเดียวของการมีชีวิตที่นี่ คือไม่ต้องซื้อข้าวกิน นอกเหนือจากอากาศที่ไม่มลพิษเท่าในเมือง



    กลับมาที่นี่ก็หายคิดถึงทั้งคน ทั้งบรรยากาศ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลยคือความเจริญที่เข้าไปไม่ถึง หลังจากหมดถนนใหญ่ที่เหลือเป็นดินแดงทั้งหมด ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ขับทีคือเสียงว่ายางจะแตกไหม คนที่นี่บอกว่างบเข้าไม่ถึง บอกจะได้ถนนมาหลายปีก็ยังไม่ได้สักที หมู่บ้านอื่นเขาได้กันเกือบหมด 

    ดินแดง ยังไม่ถม
    สภาพถนนที่ถมแล้ว บางเฉียบ เป็นหลุม เป็นบ่อ



    หรือแม้แต่ห้องน้ำ ในบ่อตายังเอาปลามาปล่อยอยู่เลย ทางผู้ใหญ่บ้านเป็นคนเอามาให้ ใส่บ่อไว้ในบ่ออาบน้ำ ย้ำว่าอาบน้ำ จะได้ไม่มีลูกน้ำยุงลาย ทางนี้ก็งงว่าไม่มีวิธีจัดการที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ มันปลอดภัยไหมนะ ส่วนน้ำประปาไม่ต้องพูดถึงน้ำไหลเป็นเวลา เพราะงั้นก็ต้องเปิดรองไว้ ก่อนมาที่นี่เรากังวลเรื่องน้ำกินมาก พอโตขึ้นถึงรู้ว่าสวัสดิการ สารธารณูปโภคต่าง ๆ ที่คนที่นี่ได้รับมันแย่มาก ๆ อยากจะทำงานเก็บเงิน มาให้ตายายได้มีชีวิตที่ดีกว่านี้ 




    สัญญาณโทรศัพท์ที่นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ขึ้นมากสุดคือ 3G แต่ความเร็วคือหน้าเว็บไม่โหลดเลยแม้แต่นิดเดียว วีดีอคอลได้เลเวลภาพแตก และฟังไม่รู้เรื่อง 

    ไม่ได้จับเข่าคุยเรื่องความเป็นอยู่เท่าไหร่ ไม่รู้ว่าคนที่นี่ชินกับเรื่องแบบนี้แล้วหรือเปล่า แต่พวกเราทุกคนควรมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ ทั้งเรื่องสาธารณูปโภค คมนาคม และอีกหลายอย่าง 

    ไม่มีรถประจำทาง มีแต่สองแถวที่เข้าไม่ถึงหมู่บ้าน จะเข้าตัวเมืองทีเสียเงินหลายร้อย นี่แหละคือสิ่งที่ประชาชนอีกหลายจังหวัดได้รับ สวัสดิการไม่มี มีแค่พี่น้องและบ้านที่ทำให้อุ่นใจ ให้อยู่แบบนี้ก็อยู่ได้ แต่ใคร ๆ ก็อยากมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ ไม่มีใครชอบความลำบาก 



    ลาไปด้วยภาพนี้ สวัสดี


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in