เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#MPxTORONTO เรื่องเล่าชีวิตไกลบ้านที่แสนป่วงในดินแดนเมเปิ้ลPiritozz
CHAPTER 02 : จุดเริ่มต้นของความป่วง
  • CHAPTER 02 : จุดเริ่มต้นของความป่วง   




          การมาเยือนประเทศแคนาดาครั้งนี้ของรินรดา ด้วยความที่มาในฐานะของนักเรียนแลกเปลี่ยน ที่พักอาศัยของเราก็จะต้องอยู่กับโฮสแฟมิลี่ พอมาถึงลานจอดรถของโรงเรียน GVSS ทุกคนก็แยกย้ายขึ้นรถโฮสไปตามบ้านของตัวเอง และบาปบุญเหลือเพียงดิฉันเอง 
          โฮสให้เดินกลับ.....

          วอท! 
    เหอออออ....กว่าจะมาถึงนี่ก็นานมากแล้วอะ ทั้งเหนื่อย ทั้งอยากอาบน้ำ ลากกระเป๋าเดินทางใบละเกือบ 20 กิโลกรัมอีก 2 ใบ ทำไมถึงลำบากขนาดนี้

          เอ้า! ถึงแล้วเหรอ

     แหะ ๆ หนูซอรี่นะคะโฮสที่บ่น เพราะมันกลายเป็นว่าบ้านอิชั้นอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนพอดี๊พอดี เรียกได้ว่าโรงเรียนเข้า 8:30 แต่ออกจากบ้าน 8:25 ก็คือ ทัน
    และนี่ก็คือหน้าตาของห้องนอนที่เราได้ซุกตัวตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ต้องอยู่ที่นี่
     




     


    ก่อนจะมาถึงที่นี่ เราได้รีเควสไปว่า ขอบ้านที่ไม่มีสัตว์เลี้ยงนะคะ ถ้ามีก็ขอเป็นแมว แต่เหมือนมันจะยากเกินไป เพราะโฮสเราเลี้ยงนัังไมโล ซึ่งเป็นสุนัขชิวาวาแบบที่ไม่ชอบเป๊ะ! 
    โอเค....ยังไงก็ต้องอยู่เพราะฉะนั้นจะต้องเป็นมิตรกับมันเข้าไว้                  3 วันผ่านไป..........
                 กลิ่นห้องนอนมันแปลก  ๆ 
    ใช่ค่ะ นังไมโล กลัวไม่รู้ว่าที่นี่อาณาเขตของนาง เลยจัดการปัสสาวะรดไว้บนที่นอนอิชั้นเรียบร้อย 

                นังไมโล!!!!!!!!!!!!!!
    _____________________________________________________________________________________________________

                     การมาแลกเปลี่ยนในครั้งนี่เรามีสมาชิกชายทั้งหมด 10 คนและสมาชิกหญิงทั้งหมด 9 คน ซึ่งการที่จะเรียนในโรงเรียนเดียวกันทั้งหมดนั้น เป็นไปไม่ได้ เราจึงถูกแบ่งออกไปอยู่ตามโรงเรียนต่าง ๆ ทั้งหมด 3 โรงเรียน ซึ่งโรงเรียนที่เราได้เข้าไปศึกษานั้นคือ Georges Vanier Secondary School ซึ่งจะมีนักเรียนตั้งแต่  9 Grade - 12 Grade 






        ถึงแม้ว่าโรงเรียนในแคนาดาจะไม่ได้ใหญ่เหมือนโรงเรียนที่ประเทศแต่ว่า สิ่งอำนวยความสะดวกและสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนนั้นมันครบมากจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ยิม ห้องปฏิบัติการศิลปะ ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ สระว่ายน้ำ ห้องปฏิบัติการทางดนตรี สนามบาสเก็ตบอล สนามบอล ฯลฯ






        จริงอยู่ที่ขนาดพื้นที่ของโรงเรียนที่นี่ ไม่ได้ใหญ่โตเท่าโรงเรียนมัธยมศึกษาในประเทศไทย แต่ TDSB สามารถใช้ทุกตารางนิ้วของโรงเรียนได้เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน จริง ๆ 


       แต่เนื่องจากเราไปอยู่ที่นั่นเพียงแค่เดือนเดียว จึงไม่จำเป็นจะต้องเข้าคลาสเก็บคะแนนอะไรจริงจัง (เฉพาะโรงเรียนเรานะ เพราะมีเพื่อนต่างโรงเรียนก็คือทางโรงเรียนให้จัดชั่วโมงเรียนเลย) เลยกลายเป็นว่าเราอยากลองทำอะไรเราได้ทำหมดเลย อยากเล่นดนตรีเข้าห้องอัด เรียนขับเครื่องบิน เรียนภาษาที่ 3 เราเลือกได้เลย


         แต่ใครว่าโรงเรียนจะมีแต่เรื่องดี........


        เพราะบางครั้งเรื่องไม่คาดฝันก็เกิิดขึ้น.....


       กริ๊ง!!!!!!!


             ในคาบเรียนภาษาฝรั่งเศส ในขณะที่ทุกคนกำลังอ่านทำความเข้าใจเรื่องสั้นที่อาจารย์ให้มาแบ่งบทแสดงละครสั้นกันนั้น ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น ทุกคนวางทิ้งหนังสือของตัวเองและพร้อมใจกันวิ่งไปหลบใต้โต๊ะด้านหลังห้อง


           อาจารย์ภาษาฝรั่งเศสที่กำลังอุ้มท้องแก่ ก็แบกท้องโย้เย้ของแกไปหยิบกระดาษหนังสือพิมพ์กับเทปมาปิดกระจกที่ประตูพร้อมล็อคกลอนเสร็จสรรพ แกตะโกนบอกเด็กในห้องให้เงียบและปิดเครื่องโทรศัพท์เดี๋ยวนี้!!


    ใครก็ได้!!!


    บอกฉันที่ว่ามันเกิดอะไรขึ้่น!!


         "แก คือเราไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น"

         "Lockdown Drill"

         "ห๊ะ? หมายความว่าอะไร"

         "ก็แบบหลบไง หลบกระสุนที่อาจจะโดนกราดยิง"

        "ฟัค....."

    ภาพจากเหตุการณ์จริง รายงานโดยดิฉันเอง


    สรุปว่าชีวิตของฉันเกิดที่ไทย.....ตายที่แคนาดา อย่างนั้นเหรอ


    พึ่งมาถึงที่นี่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ดี กูจะต้องตายแล้วเหรอ

    ยังไม่ได้โทรหาแม่เลยว่าจะตายแล้ว

    จะทำยังไงดี!!!!!


    แล้วทำไมไอ้เพื่อนคนอื่นในห้องมันแสนจะชิว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นได้อีกวะ ไม่กลัวมันจับสัญญาณแล้วตามมายิงรึยังไง


    ปัง!! ปัง!! ปัง!! 


     เสียงประตูห้องเรียนถูกทุบ พร้อมกับการดึงประตูให้เปิดอย่างแรงอยู่ 2-3 ที


    ตายแน่ๆ...กูตายแน่ๆ


    พระเจ้า ได้โปรดช่วยลูกด้วย


       "มึง ตรงนั้นไม่เก็บโทรศัพท์มันไม่กลัวรีึไง"  ด้วยความที่ทนไม่ไหวแล้วเลยถามเพื่อนข้างๆ ไป

       "ปอ มึงอะกลัวไร"

       "ตายไง!"

       "มึงนี่เค้าซ้อม"

       " ห๊ะ? "

       "เออ ซ้อมอะ ปีละครั้ง มึงโชคดีนะมาได้เวลาพอดี"


    สรุป กูตกใจให้เสียพลังงานฟรีอีกแล้วเหรอ.............

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in