เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
จี้จุด สุดมันส์oasistebto
อัลบั้มบอยเฟรนด์...เฟ้นเลือก
  • ตัวเลือกที่ 1

    ลิลลี่ผิวคล้ำ ตาคม  จมูกโด่ง สูงโปร่ง  opposite กับชื่อ ถึงไม่สวยแต่พูดเก่งมีสาระ เชื่อมั่นตัวเองสูง  ที่สำคัญเรียนเก่งรักนวลสงวนตัว  คล่องแคล่วเฉลียวฉลาด  รอบคอบ  คิดดีทำดีเพื่อสังคม ลิลลี่เติบโตในครอบครัวธุรกิจที่ผลิตเครื่องทำนา  รหัดสีฝัด  แม่เป็นไอดอลหญิงเก่งแกร่ง  ขับรถ(ผู้หญิงสมัยร้อยปีที่แล้วจะไม่ค่อยมีคนขับเป็น เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียว ผู้ชายหาเงินนอกบ้าน)  แม่ควบคุมช่างไม้ร้อยกว่าคน  ให้ผลิตเครื่องมือทำนาให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ  หน้าที่ของแม่คือต้องไปสั่งซื้อวัสดุจากกทม.เช่น ไม้ น็อตสกรู  แม่พูดภาษาจีนเก่ง จึงได้ลดราคาเยอะ เพราะถือว่าเป็นพวกเดียวกัน  พอเรียนจบชั้นมศ.3  กำนันพาลูกชายทหารบก รูปร่างกำยำล่ำสันมาขอหมั้นลิลลี่  แต่ถูกปฏิเสธ  บอกว่าอยากเรียนต่อ แท้จริงแล้วลิลลี่คิดว่าที่เขามาขอเพราะรักเงิน  ไม่ใช่รักลิลลี่  เธอสแกนผู้ชายได้เก่งจริงๆ  


    ตัวเลือกที่ 2

    ลิลลี่ไปเรียนด้านธุรกิจในกทม.  โดยนั่งรถไฟไปกลับทุกวัน  วันนั้นเป็นชั่วโมงเรียนภาษาญี่ปุ่น  ด้วยความเป็นเด็กรักเรียน  เธอจึงนั่งแถวหน้า  ขณะที่ก้มลงอ่านหนังสือก็ได้ยินเสียงทุ้มๆว่า โอฮาโยะโกไซมัส  สวัสดีครับนักศึกษาทุกคน  เธอก็เงยหน้าขึ้นมาดู  ชายหนุ่มในชุดนักบินผิวขาว  ร่างสูง  ทะมัดทะแมง หน้าตาใจดี  นักศึกษาสาวๆกรี๊ดกร๊าด จ้อกแจ้กจอแจตื่นเต้นที่ได้เห็นอาจารย์หน้าตาดี   การเรียนการสอนก็ดำเนินไปด้วยความไม่สงบเพราะไม่สามารถหยุดความตื่นเต้นของลูกศิษย์ได้  จนหมดชั่วโมง   เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นทุกวันจนลิลลี่รำคาญที่มีเสียงรบกวนในการเรียนของเธอ  แต่ก็ต้องทน  มีนักศึกษาคนเดียวเท่านั้นที่สนใจทักถามปัญหาเรื่องการเรียน  อาจารย์ก็ตั้งใจตอบ  เวลาผ่านไปเกือบปี  ลิลลี่ได้ความรู้ภาษาญี่ปุ่นเยอะ  เย็นวันนั้นขณะกลับบ้าน  จะเดินไปที่สถานีรถไฟ  ซึ่งอยู่ไกลประมาณสามกิโลเมตร  ก็มีเสียงบีบแตร  ปี๊นๆ... ลิลลี่หันไปมอง รถอาจารย์สอนญี่ปุ่นนั้นเอง ''จะไปไหนครับ ผมไปส่งได้ไหม'' ลิลลี่เห็นว่าแดดร้อนและต้องเดินไกลก็เลยไปด้วย  เขาก็ไปส่งที่สถานีรถไฟ รถจนรถไฟออกแล้วเขาก็กลับ เราไม่ได้คุยอะไรกัน นอกจากขอบคุณค่ะ  หลังจากนั้นมาสองสามวันเหตุการณ์เป็นเหมือนเดิม แต่มีคำถามเพิ่มมากขึ้น  ''บ้านอยู่ที่ไหนครับ ?''  "พ่อแม่ทำงานอะไร'' "ผมขอไปเที่ยวบ้านได้ไหมครับ"  ฉันไม่ตอบ รู้สึกแปลกๆ  หลังจากวันนั้นมาฉันเปลี่ยนเวลากลับบ้าน  วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ฉันยืนคุยกับญาติอยู่ที่หน้าบ้าน  มีรถเบนซ์คันโตที่ฉันคุ้นชินมาจอดตรงหน้าบ้าน  พอประตูเปิดออกนักบินคนเดิมรีบลงมาหา  พ่อ แม่ และญาติผู้ใหญ่ของฉัน  เป็นคนเฟรนด์ลี่  แขกถึงชานเรือนต้องต้อนรับ  หลังจากเลี้ยงน้ำชาเบเกอร์รี่เสร็จ  เขาก็เดินชมรอบบ้าน  ซึ่งอยู่ริมน้ำ  ทันใดนั้นมีสัตว์สีดำๆขนาดเท่าเรือม่าน ยาวประมาณ 5 เมตร โผล่ขึ้นกลางแม่น้ำ นักบินคนนี้คว้าปืนขึ้นมายิงเปรี้ยงๆ  สัตว์ตัวนั้นก็ผลุบดำน้ำหายไป  เป็นการอวดศักดา อำนาจ อวดเบ่ง หลังจากคุยกันสักพักเขาก็ลากลับไป  ยายของลิลลี่รีบเข้ามาบอกว่าหลานจะแต่งกับใครไม่ว่า หลานห้ามแต่งงานกับผู้ชายคนนี้เด็ดขาด เพราะมันมากับเหี้ย  ซึ่งโบราณถือว่าไม่เป็นสิริมงคล  ชีวิตต้องเดือดร้อน  ครั้งนี้ลิลลี่ไม่ต้องเหนื่อยสกรีนเอง  






  • ตัวเลือกที่ 3

    วันหนึ่งลิลลี่ไปเปิดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งในกทม.  ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถาบันที่ศึกษามากนัก  ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพนักงานโดยเฉพาะผู้จัดการ  มีการเสิร์พกาแฟ  พร้อมเบเกอร์รี่ชั้นดี  ผู้จัดการมาเทคแคร์ลูกค้าด้วยตัวเอง  หลังจากเปิดบัญชีฉันก็กลับออกไป ท่านเดินออกไปส่งถึงหน้าธนาคาร  ฉันก็ไปเรียนตามปกติ  เที่ยงวันนั้นมีรถเก๋งคันงามสีฟ้าเข้ามาจอดหน้าสถาบัน  และมีชายหนุ่มเปิดประตูรถออกมาทักทายฉัน  "ผมผู้จัดการธนาคารไงครับ" ฉันจำได้เพราะเวลาผ่านไปไม่นาน "ช่วยไปเป็นเพื่อนกินข้าวกับผมสักมื้อนะครับ"  ระหว่างที่นั่งกินข้าวด้วยกัน  เขาก็ชวนคุย  เราถูกอัธยาศัยกันมากเพราะเขาเป็นคนที่ใจดีไม่ขัดคอและสุภาพ  ที่ฉันกล้าไปกับเขาเพราะเป็นร้านเปิดโล่ง  ผู้คนเดินกันพลุกพล่าน   หลังจากนั้นมาเขาก็จะโทรมาชวนไปกินข้าวบ่อยๆ  บางครั้งฉันคิดว่าคงเป็นเหมือนผู้ชายทั่วๆไป ที่ชอบหลอกเด็กสาวๆ  พอสมหวังก็ทอดทิ้งไปไม่มีเยื่อใย  แต่ผู้ชายคนนี้ไม่เคยแต๊ะอั๋ง หรือ ลวนลามแม้สักครั้งเดียว  ให้เกียรติผู้หญิงมาก  เขาเคยอ้างว่าลืมเอกสารไว้ในที่ทำงาน  จะแวะกลับไปเอาให้ลูกค้า  และชวนฉันลงไปด้วย  ในเวลาทำงานซึ่งมีพนักงานเต็มไปหมด  ทุกคนหันมามองฉันเป็นตาเดียวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม  คงจะเข้าใจว่าวันนี้ผู้จัดการพาแฟนมาเปิดตัวเลยนะ  ฉันทำหน้าไม่รู้เรื่องในการกระทำของเขาเพราะเขาไม่เคยบอกรักดิฉัน  แต่เขาก็เทียวรับเทียวส่ง  มีการไปเที่ยวด้วยกันบ้างในวันหยุด เช่นสวนสามพราน  นครปฐม นนทบุรี เกาะเกร็ด หรือปริมณฑลของกทม.  คบกันมาเกือบ8ปี  ก็มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นทำให้ชีวิตของเราพลิกผลัน  วันนั้นเป็นวันเกิดของดิฉัน  เรานัดเพื่อนๆไปกินเลี้ยงกันที่บ้านเขาประมาณ 10 คน  ก่อนทานอาหารเขาพาดิฉันไปพบกับพ่อแม่  ซึ่งอยู่ที่บ้านหลังใหญ่และประกาศก้องว่าเราเป็นแฟนกัน  "ผมจะใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงคนนี้ตลอดไป"  ถ้าเป็นคนอื่นคงดีใจ  แต่ดิฉันถอดใจ  เพราะการเข้าไปหาพ่อแม่เขาด้วยการคลานเข่า  เข้าไปกราบเหมือนถวายบังคม มันฝืนใจฉันที่สุด  และเริ่มตัดใจว่าคงทุกข์มากถ้าอยู่ในตระกูลนี้  หลังจากกลับออกมาจากบ้านนั้นแล้ว  ฉันก็มีอาการซึมเศร้า  ฉันเป็นคนเลือกทางเดินให้กับตัวเองว่าอยู่อย่างไรให้มีความสุข  และไม่ชอบที่จะเป็นแค่นกในกรงทอง  ที่หาความสุขไม่ได้  ทั้งๆที่เขาเคยพูดว่า"น้องไม่ต้องทำงาน  อยู่ดูแลบ้านเฉยๆ พี่หาเลี้ยงเอง"  ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ต้องการคำนี้แต่ไม่ใช่ฉัน  


    ตัวเลือกที่ 4

    หลังจากที่ฉันไม่เลือกใครสักคน แม่เป็นห่วงว่าจะเป็นสาวทึนทึก  ก็พยายามทาบทามลูกของเพื่อนซึ่งบางคนมีเชื้อจีน  พ่อแม่มีธุรกิจใหญ่โตให้มาลองคบหากัน  คิมคือหนึ่งในนั้น  ครั้งแรกที่ออกเดตไปทานข้าวที่ภัตตาคารหรูหราในเมือง  พอไปถึงร้านอาหาร  เขารีบเดินเข้าไปในร้าน  ไม่รีรอฉัน  เลือกนั่งโต๊ะที่ตัวเองชอบ    ใกล้แอร์ที่พ่นจนหนาวสั่น  และสั่งอาหารจีนซึ่งบางอย่างฉันไม่รู้จักเลย  แต่เขาชอบกินมาเกือบสิบอย่าง  โดยที่ไม่ได้ถามความชอบของฉันซักคำ ระหว่างที่นั่งรออาหารก็กระดิกเท้าไปเรื่อย  สร้างความรำคาญใจเป็นที่สุด  พออาหารมาเสิร์พ  เขาก็จัดการตักเข้าปากและเลือกกินแต่ของดีๆ เช่นกุ้งตัวโตๆ  ไข่ปลา  ระหว่างกินมีเสียงดังซี้ดซ้าด  กับความเอร็ดอร่อย  เหมือนนั่งกินคนเดียว ฉันกินได้สองคำก็กินไม่ลง  แต่เขากวาดจนเกลี้ยงจาน  แล้วเรียกบริกรมาเก็บเงิน  โดยให้ฉันแชร์คนละครึ่ง  เสร็จแล้วก็รีบเดินไปขึ้นรถ  เป็นเหตุการณ์ทีประทับใจมากในครั้งแรก  แต่ผู้ใหญ่ก็ยังไม่รู้เรื่องนี้  ก็พยายามนัดให้ไปเที่ยวกันอยู่บ่อยๆ  เพื่อสร้างความสนิทสนม  วันนั้นไปดูหนังในกทม.  เขาขับรถตรงไปที่โรงหนังจีน  โดยไม่ถามฉันซักคำว่าจะดูหนังอะไร  ก่อนจะเข้าไปในโรงหนังก็ซื้อป็อปคอร์นถุงใหญ่ 1 ถุง  เข้าไปกินด้วย  ระหว่างที่นั่งฉายมีเสียงกรอบแกรบๆจากการเคี้ยวป็อปคอร์นตลอดเวลา  และตอนไหนที่ถูกใจก็หัวเราะเสียงดัง  ตอนไหนที่ไม่พอใจก็ด่าว่าดังลั่น  โดยที่ไม่เกรงใจคนข้างๆ  ฉันดูหนังจีนไม่รู้เรื่องเลยเพราะไม่มีพากษ์ไทย ต้องทนต่อความอึดอัดเป็นเวลาสามชั่วโมง เขามีความสุขในความทุกข์ของคนอื่นจริงๆ  การออกเดทครั้งที่3  ซึ่งฉันไม่อยากไปเลยแต่ก็เกรงใจผู้ใหญ่ไปชายทะเลบางแสน  หนุ่มสาวหลายคู่เดินตระกองกอดกันมาด้วยความรักห่วงใยกัน  แต่ดูคู่ของฉันสิ หน้าตาเหมือนกับจะส่งขึ้นไปชกมวย บูดบึ้ง  นั่งเก้าอี้ผ้าใบชายหาดห่างกันหลายเมตรเหมือนไม่ได้มาด้วยกัน  ฉันนั่งดูสายน้ำชายทะเลที่มันขุ่นคลั่ก  เหมือนกับหัวใจของฉันที่กำลังเต็มไปด้วยความขุ่นมัว  แต่ก็เก็บอาการทำหน้าที่ให้เสร็จไปวันๆแล้วคิดว่าวันนี้เป็นวันตัดเชือก จะกลับไปบอกแม่ว่าหนูทนไม่ไหวแล้วกับนิสัยเห็นแก่ตัว  ขี้เกียจ  เอาเปรียบ  โง่  ไร้สาระ  ไม่มีมารยาท สกปรก  และเขาคงไม่สามารถนำนาวาชีวิตลำนี้ให้ไปสู่ความสำเร็จได้  เนื่องจากสันดานไม่ดี  


  • ตัวเลือกที่ 5

    หลังจากนั้นมาหลายปี พ่อแม่ของฉันก็มาทำธุรกิจที่นครศรีธรรมราช  ฉันกับเพื่อนนัดกันไปเที่ยวชายทะเลสิชลโดยรถกระบะ  ซึ่งเจ้าของรถเป็นตำรวจพร้อมครูโรงเรียนอนุบาลสองคน และเพื่อนตำรวจอีก1คน  ไปถึงนั่งกินอาหารชายทะเล  เพื่อนตำรวจชื่อคุณชัยเป็นข้าราชการประจำ  ระหว่างที่นั่งทานอาหารครูอนุบาลก็พยายามที่จะเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ตำรวจมาจับคู่กับดิฉัน  ซึ่งดิฉันไม่ชอบการกระทำเช่นนั้น จึงเดินสะบัดออกไป  ไกลพอสมควรจนถึงหมู่บ้านชาวประมงที่กำลังกวนน้ำตาลมะพร้าว  ก็มีเสียงคนเดินตามมาข้างหลัง ซึ่งมันควรจะเป็นเพื่อนสนิทที่ต้องห่วงใหญ่ฉัน แต่เขาคงห่วงกินมากกว่า คนที่ตามมากลับกลายเป็นคุณชัย  ทำให้ฉันรู้ดีใจขึ้นมาว่าไม่ได้โดดเดี่ยว  ยังมีคนห่วงใหญ่ ซึ่งเป็นคนที่รู้จักกันมาไม่นาน แต่เขายังยื่นน้ำใจให้ฉันมากขนาดนี้  ขณะที่ฉันไปอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้า ถ้าถูกทำร้ายก็คงไม่มีใครรู้  หลังจากพวกเราเที่ยวชายหาดสิชลเสร็จก็เดินทางกลับ  เพื่อนดิฉันบอกกับดิฉันว่าชอบคุณชัย  เพราะเขาเป็นคนสุภาพ สะอาด ผิวขาว พูดจานุ่มนวล  และแต่งกายเรียบร้อย  มีน้ำใจ  ชอบช่วยเหลือผู้อื่น  หลังจากนั้นเพื่อนดิฉันก็ชวนไปเที่ยวแฟลตตำรวจที่คุณชัยพักอยู่กับญาติ  และเพื่อนดิฉันก็นัดให้ไปดูการประกวดนางงามสงกรานต์ในคืนวันที่ 13 เมษายน นัดดิฉันพร้อมคุณชัย  โดยไปเจอกันหน้างานซึ่งจัดขึ้นที่สนามหน้าเมือง  พอถึงเวลาฉันไปถึงแล้วและเห็นคุณชัยยืนอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อนของดิฉันเพราะพ่อห้ามไม่ให้เพื่อนออกมาเที่ยวกลางคืน  ฉันจึงจำเป็นต้องไปดูการประกวดสองคนกับคุณชัย  ระหว่างการประกวดเราก็จะเถียงกันตลอดเนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกัน เขาเชียร์เบอร์3 ฉันเชียร์เบอร์ 1 สุดท้ายเบอร์1 ก็ได้ที่1 จริงๆ  หลังจากนั้นคุณชัยก็กลับไปทำงานที่กทม และเขียนจดหมายมาถึงฉัน ถามสารทุกข์สุขดิบ  โดยที่ไม่ได้พูดถึงเพื่อนดิฉันเลย  ช่วงที่มีวันหยุดราชการหลายวันเขาก็จะกลับไปบ้านสวน  ซึ่งอยู่ต่างอำเภอ  และนำผลไม้เช่นลางสาดเป็นชะลอมใหญ่ มาฝากพ่อแม่ดิฉัน ซึ่งแม่ดิฉันพูดว่าไม่อยากกินของคนแปลกหน้าเพราะแม่ไม่เคยรู้จักเขา และแม่จะชอบคนมีฐานะเพื่อให้ลูกสบาย เคยบอกว่าเขาหว่านพืชคงหวังผล และพยายามพูดจาไม่ให้ฉันคบกันคนๆนี้เพราะกลัวลูกลำบาก  เนื่องจากคนใกล้บ้านซึ่งเป็นคนใต้บอกกับแม่ว่าพ่อแม่พี่ชายใต้จะไม่ชอบสะใภ้ภาคกลาง แต่ยิ่งมีอุปสรรคยิ่งเป็นการท้าทายว่าเราจะสามารถเอาชนะปัญหาต่างๆได้หรือไม่ ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน เขาอยู่ถึงกทม. แต่เขาก็มีความพยายามที่จะมาปักษ์ใต้ มาสานต่อด้วยความรัก เราเคยไปกินอาหารด้วยกันเป็นบางครั้ง  เขาก็พยายามกลับมานครศรีธรรมราชทุกครั้งที่มีวันหยุดหลายวัน และชวนฉันไปเที่ยวชายทะเล  คงจะเป็นเพราะความใกล้ชิด ไม่เอาเปรียบ ให้เกียรติผู้หญิง และความสุภาพอ่อนโยนของเขาจึงทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาน่าจะเป็นคนนึงที่น่าจะได้รับการพิจารณา 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in