เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
สัมภาษณ์ 'เกด-Kinsang' กับ นิยายวายแนวระทึกขวัญ 'ห้องนี้ไม่มีคนอยู่'minimore
สัมภาษณ์ 'เกด-Kinsang' กับ นิยายวายแนวระทึกขวัญ 'ห้องนี้ไม่มีคนอยู่'
  • คอนิยายวายแนวสยองขวัญมามุงตรงนี้! เพราะ minimore มาพร้อมกับนิยายใหม่เอี่ยมเรื่องล่าสุดของ Kinsang ชื่อ ‘ห้องนี้ไม่มีคนอยู่’ ที่รับรองได้เลยว่าจะถูกใจคอนิยายลึกลับเหมือนกับเรื่องก่อนๆ ที่ผ่านมาของเธอ

     

    ห้องนี้ไม่มีคนอยู่ เล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มสองคนในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง ที่หนึ่งในนั้นมีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณ จึงต้องมาสืบคดีของเพื่อนสนิทที่เพิ่งเสียชีวิตในห้องนั้น แต่ยิ่งเข้าใกล้ความจริงเท่าไหร่ พวกเขาก็รู้สึกถึงอันตรายที่ใกล้ตัวมากขึ้นเท่านั้น

     

    สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้จากเรื่องนี้คือรสชาติของนิยายวายที่สดใหม่ เพราะมีทั้งระทึก ลึกลับ และสืบสวนสอบสวนให้คนอ่านได้ลุ้น ยิ่งเราได้คุยกับ ‘เกด’ หรือ Kinsang เจ้าของเรื่อง เราก็ยิ่งเห็นถึงแนวคิดที่น่าสนใจ ทั้งในเรื่องการหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นิยาย ไปจนถึงมุมมองที่มีต่อวงการนิยายวายของไทยของเธอ

     

    เตรียมไฟฉายและผ้าห่มให้พร้อม เราจะพาเข้าสู่โลกของโรงเรียนลึกลับสไตล์ Kinsang กัน

     

    ย้อนกลับไปในจุดเริ่มต้น นามปากกาของคุณมีความหมายว่าอะไร

    ตัว K เป็นอักษรตัวแรกของชื่อจริง ส่วน Insang เป็นชื่อสกุล เราได้แรงบันดาลใจมาจากพวกชื่อแอคเคาท์บริษัทที่เขาจะเอาอักษรตัวแรกของชื่อจริงมารวมกับนามสกุล พอเอามารวมกันมันก็อ่านได้นะ ก็เลยเอาชื่อนี้มาใช้เลย


    เริ่มเขียนนิยายเมื่อไหร่

    เราเริ่มแบบจริงจังเลยก็ปี 2016 ก่อนหน้านั้นเป็นนักอ่านทั่วไป จริงๆ เคยเขียนแฟนฟิคเกาหลีเล่นๆ จนกระทั่งเข้าสู่ยุคที่เริ่มเขียนจริงจังก็เขียนต่อเนื่องมาตลอด แพลตฟอร์มแรกๆ ที่ลงนิยายคือแพลตฟอร์มนิยายทั่วไปเลย ฟีดแบคออกมาเราก็โอเคในระดับหนึ่ง บวกกับตอนนั้นเราก็ไม่ได้คาดหวังมาก เพราะเป็นนิยายเรื่องแรก แค่พอมีคนอ่านเรื่อยๆ ก็พอใจ


    นักเขียนในดวงใจของคุณคือใคร

    เราชอบนักเขียนคนหนึ่ง นามปากกา ‘8 years ago’ เค้าเขียนเรื่องเดียวและหายไปเลย (หัวเราะ) กับ The Duang ที่เป็นนักวาด


    คิดว่าเสน่ห์ของการทำงานเขียนอยู่ตรงไหน

    เราว่ามันคือการสร้างเรื่องในจินตนาการให้มันกลายเป็นเรื่องราวขึ้นมา ถึงเราจะเขียนมาหลายเรื่องแล้ว แต่การได้ทำเรื่องยาวเนี่ยมันยากมาก ทุกครั้งที่เขียนออกมาก็อยากสร้างมันออกมาให้จับต้องได้และสมบูรณ์ที่สุด


    ปกติเคยเขียนแนวไหนมาก่อน

    ส่วนใหญ่เขียนฟีลกู๊ด วัยเรียน กับ วัยทำงาน จนช่วงหลังๆ จะมีระทึกขวัญ แฟนตาซีเข้ามา


    ทำไมถึงเลือกใส่ความสยองขวัญเข้ามาในงานช่วงหลังๆ

    เราชอบอ่านเรื่องสยองขวัญ น่าจะเป็นเพราะชอบจินตนาการและคิดมุกหลอกคนอ่านด้วย อย่างตอนเขียนฉากหลอนๆ เราก็คิดมา แล้วพอเรากลับมาอ่านอีกทีก็อินตาม เราเลยคิดว่าคนอ่านก็น่าจะรู้สึกเหมือนกัน 


    นิยายที่ Kinsang เขียนส่วนใหญ่จะดำเนินเรื่องอยู่ในโรงเรียน มีเหตุผลในการเลือกเซ็ตติ้งนี้ไหม

    เราชอบช่วงที่เป็นนักเรียน ตอนเราอยู่กับเพื่อนมันทำให้เรามีพลัง มีแพสชั่น เราเลยชอบช่วงเวลาที่มีพลังแบบนี้ อย่างวัยทำงานมันก็ช่วงที่ต้องทำงาน กลับบ้านมาก็เหนื่อยแล้ว ที่เราเขียนแนววัยรุ่นก็เพราะสะท้อนช่วงเวลาที่เราชอบด้วย 


    ระหว่างเรื่องแนวฟีดกู๊ดกับสยองขวัญ Kinsang ชอบแบบไหนกว่า

    ตอนนี้ชอบแนวสยองขวัญกับระทึกขวัญมากกว่า ต่างกับแต่ก่อนที่จะชอบฟีลกู้ดไปเลย เพราะมันมีเรื่องราวให้เขียนเยอะ ฟิลกู้ดเราว่าเขียนให้คนอ่านรู้สึกสบายใจยาก บางทีรู้สึกเขียนไม่ออกอยู่บ่อยๆ แต่สยองขวัญมันคิดต่อยอดได้เยอะกว่า 


    แนะนำนิยายเรื่องล่าสุดที่ออกกับ minimore เรื่อง ‘ห้องนี้ไม่มีคนอยู่’ หน่อย

    ‘ห้องนี้ไม่มีคนอยู่’ เป็นนิยายแนวสยองขวัญ มีเรื่องลึกลับและสืบสวนสอบสวน เป็นเรื่องของเด็กในโรงเรียนประจำที่มีเด็กนักเรียนเสียชีวิต แล้วเพื่อนของเด็กที่เสียชีวิตก็ต้องสืบหาความจริงร่วมกับนักเรียนใหม่ ซึ่งใช้ชีวิตในห้องที่เพื่อนคนนี้ตายอยู่



    ได้แรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้มากจากไหน

    เราเคยไปอ่านอาชีพแปลกๆ ของญี่ปุ่นที่ให้ไปนอนในห้องคนตายเพื่อดูว่ามีผีหรือเปล่าก่อนจะปล่อยเช่า บวกกับ มันเคยมีพล็อตที่เราคิดไว้อยู่แล้วก็เลยเอาสองเรื่องนี้มาจับรวมกับ อย่างตัวพระเอกของเรื่องก็มีปัญหาครอบครัวที่ทำให้เขาต้องมาอยู่โรงเรียนประจำ  ใส่ทวิสต์หน่อยตรงที่ใ้ห้พระเอกเห็นผีได้ เพื่อให้ตัวเอกได้สืบหาความจริงด้วยกัน


    อยู่วงการนิยายวายมานานหลายปี คิดว่าวงการนิยายวายไทยตอนนี้เป็นอย่างไร

    รู้สึกว่ามันเข้าถึงง่ายขึ้น หลากหลายขึ้น แต่มันก็มีความไม่เหมาะสมที่ตัวนักเขียนอาจต้องระวัง เช่น การใช้คำพูด ความรุนแรง เรื่องเพศ เราอยากให้มีการจำกัดหรือการให้คำแนะนำตรงนี้ด้วย อีกอย่างคือการเข้ามามีบทบาทของแพลตฟอร์มออนไลน์ก็มีบทบาทต่อวิธีการโปรโมท พอมันเข้าถึงง่าย นิยายในตลาดเยอะมาก การโปรโมทมันทำให้คนมองเห็นยาก การแข่งขันก็ยิ่งสูง หากเทียบกับสัดส่วนนิยายในตลาด การจะพานิยายเรื่องนั้นไปไกลได้ก็ยากกว่าเดิม เพราะคู่แข่งเยอะขึ้น


    มองอนาคตของวงการนักเขียนว่าอย่างไร

    อย่างที่พูดไปว่าเมื่อวงการเปิดกว้างขึ้น เราก็อยากให้มีนิยายวายหลายๆ แนว ไม่ต้องวิชาการให้ความรู้ก็ได้ แต่ก็ไม่อยากให้มีเรื่องงราวที่สื่อสารผิดๆ ออกไป เรามองว่านิยายในตอนนี้มันยังมีไม่กี่แบบ ก็อยากให้มีแฟนตาซี ลึกลับ สยองขวัญ หรืออะไรอื่นๆ ไม่ได้อยากมองว่าสโคปมันมีแค่นักเรียนหรือคนทำงานทั่วๆ ไป  อยากให้มันไปอยู่ไหนก็ได้ ปกติมีแค่วิศวะ หมอ เราก็อยากให้ไปลองแนวอื่นด้วย


    ‘ห้องนี้ไม่มีคนอยู่’’สามารถอ่านได้แล้วที่ช่องทาง: https://minimore.com/b/haunted-room

    แล้วถ้าติดใจอยากสมัครเป็นแฟนคลับคุณเกด ก็ไปติดตามได้ช่องทางดังนี้

    Twitter: https://twitter.com/kinnsanng

    Facebook: https://www.facebook.com/kinnsann


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in